สถาบันวัคซีนฯเป็นเจ้าภาพสร้างเครือข่าย "ระบบนำส่งวัคซีน”ของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สถาบันวัคซีนฯเป็นเจ้าภาพสร้างเครือข่าย "ระบบนำส่งวัคซีน"ของไทย หวังผนึกกำลังเครือข่ายในระบบนำส่ง ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมฤทธิ์การให้วัคซีน เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเดิม"วัคซีนไข้หวัดใหญ่"เป็นตัวแรก
          ศ.ภญ.ดร.กาญจน์พิมล ฤทธิเดช คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า "ระบบนำส่งวัคซีน"คือ การเตรียมวัคซีนในรูปแบบต่างๆที่สามารถควบคุมให้ปลดปล่อยในอัตราและปริมาณที่กำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการใช้วัคซีน เป็นวิธีการนำวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย จนร่างกายสามารถผลิตสารน้ำและเซลล์ภูมิคุ้มกันจำเพาะที่มีฤทธิ์ป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ คงอยู่ยาวนานเพียงพอตามต้องการ ซึ่งปัจจุบันนั้นวัคซีนมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ผู้ใช้ต้องเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะกับตัวผลิตภัณฑ์และวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และตอนนี้มีหลายๆมหาวิทยาลัยที่มีการวิจัยพัฒนา เทคโนโลยีระบบนำส่งวัคซีน มีทั้งประเภทระบบแผ่นแปะ หยอดจมูก และมีทุกคณะเภสัชของทุกมหาวิทยาลัยให้ความสนใจหันมาทำในเรื่องของวัคซีนแล้ว เนื่องจากยาเราทำมานานและเริ่มจะอิ่มตัว อาจารย์หลายๆท่านจึงเริ่มหันมาทำในเรื่องของวัคซีนเพิ่มขึ้น
          สำหรับการที่กลุ่มผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จะมาทำงานร่วมเป็นเครือข่ายในระบบนำส่งนั้น นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากเรามีตัวแอนติเจนเพียงไม่กี่ตัว ถ้ามีความร่วมมือกัน แต่ละคนก็ถนัดในแต่ละอย่าง ถ้าเรามาร่วมมือกันแล้วผลักดันออกมาให้เป็นวัคซีนของเราเอง 1 ตัวที่เป็นตัวเด่นๆ ภายใน 5 ปี แล้วค่อยพัฒนาต่อไปในปีถัดๆไป
          จากเดิมที่นักวิจัยต่างคนต่างทำ พอมีสถาบันวัคซีนมาให้การสนับสนุน มาช่วยจุดประกายนำเครือข่ายที่ทำงานด้านนี้มารวมตัวกัน เพื่อประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน สนับสนุนด้านการอบรมและมีการประชุมวางแผนงานร่วมกันข้างหน้าว่าจะทำอะไรบ้าง
          ซึ่งแผนระยะสั้นที่เครือข่ายในระบบนำส่งมีการวางร่วมกันไว้ คือ เน้นเรื่องไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากเรามีแอนติเจนของเราเอง เป็นแอนติเจนที่นิ่งแล้ว มีอาจารย์หลายท่านให้ความสนใจและจะร่วมมือกันทำจากนั้นก็จะเป็นวัคซีนเจอีและวัคซีนรวม และจะมีการคิดสูตรในด้านการเก็บรักษาวัคซีน จะพัฒนาให้วัคซีนสามารถทนอุณหภูมิสูงได้ ทำให้วัคซีนคงทนต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เสื่อมคุณภาพง่ายเกินซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
          "วัคซีนถือเป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง แต่เดิมอาจคิดไม่ถึงว่าวัคซีนสำคัญและจำเป็นขนาดไหน เห็นได้จากตัวอย่างเมื่อปี 2009ที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกหลายประเทศต้องการวัคซีนเพื่อปกป้องประชาชน แม้ขณะนั้นเราจะมีเงินซื้อ แต่บริษัทผลิตวัคซีนเขาก็เลือกที่จะผลิตให้กับภายในประเทศเขาก่อน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องยืนบนขาของตัวเองให้ได้ เราอาจไม่ทำวัคซีนได้ทุกตัว แต่เราต้องรู้ถึงกระบวนการ ขั้นตอน เพื่อให้สามารถมีวัคซีนไว้ใช้ได้ในยามฉุกเฉิน"ศ.ภญ.ดร.กาญจน์พิมลในตอนท้าย
          ด้าน ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ(องค์การมหาชน)กล่าวว่าสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเครือข่ายระบบนำส่งวัคซีนของไทย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 เพื่อ 1) แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของบุคลากรด้านระบบนำส่งวัคซีนของไทย 2) สร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกเครือข่าย และ 3) เป็นแหล่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านระบบนำส่งวัคซีน เพื่อผลักดันการพัฒนางานด้านระบบนำส่งวัคซีนของไทยให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตามวัตถุประสงค์ของเครือข่าย
          "เราเห็นชอบร่วมกันจะทำงานเป็น "เครือข่าย" เนื่องจากโอกาสสำเร็จในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศจะสูงกว่าต่างคนต่างทำ การทำงานเป็นเครือข่ายจะเป็นการรวบรวมความเชี่ยวชาญที่สร้างสมจากเภสัชกรและนักวิทยาศาสตร์ทั่วไทย มาผนึกเป็นแรงผลักเสริมฤทธิ์ของวัคซีนในแผนการผลิต "วาระแห่งชาติด้านวัคซีน 2554" และโร้ดแมปวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตัวแรกที่จะเริ่มภายในปีนี้ ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันวัคซีนแห่งชาติในระยะยาวจนเห็นผล ทั้งรูปแบบวัคซีนแปะผิวหนัง เหมือนพลาสเตอร์ยาที่คุ้นเคย และวัคซีนหยอดจมูก เพื่อความสะดวกในการรับ "วัคซีน" ในอนาคตคนรับวัคซีนไม่ต้องกลัวเข็ม พยาบาลไม่ต้องเสียเวลาฉีดกันอีกต่อไป และจะทำให้เราสามารถลดปริมาณเนื้อวัคซีน ลดต้นทุน เพิ่มกำลังผลิต ความสามารถแข่งขันไปในตัว"ดร.นพ.จรุงกล่าว





สถาบันวัคซีนฯเป็นเจ้าภาพสร้างเครือข่าย "ระบบนำส่งวัคซีน”ของไทย

ข่าวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย+กาญจน์พิมล ฤทธิเดชวันนี้

จุฬาฯ จับมือ 6 พันธมิตร AI ชั้นนำเปิดหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง NEXUS AI ตามวิสัยทัศน์ AI University

ผู้นำยุคใหม่ต้องมีความรู้ความเข้าใจในปัญญาประดิษฐ์ AI จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมองเห็นความสำคัญในการพัฒนาผู้นำในองค์กรต่างๆ ให้มีความรู้ความเข้าใจด้าน AI เพิ่มศักยภาพและสร้างเครือข่ายผู้นำยุคใหม่ โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือ องค์กรพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญทั้งในระดับชาติและระดับโลก 6 พันธมิตร เปิดหลักสูตร "NEXUS AI" พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยปัญญาประดิษฐ์ สู่อนาคตที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาฯ ไม่ได้มองว่า AI เป็นเพียงเทคโนโลยี

ผู้บริหารบางจากฯ จุดประกายผู้นำรุ่นใหม่ ร... ถอดบทเรียน Passion with Purpose — ผู้บริหารบางจากฯ จุดประกายผู้นำรุ่นใหม่ รู้คุณค่าและรักในสิ่งที่ทำ สู่ความยั่งยืน นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการ...

พบกับการบรรยายที่เปิดมุมมองใหม่อย่างชัดเจ... ขอเชิญเข้าร่วมฟังงาน Research Seminar ในหัวข้อ: AI, MARKETING ROBOTS AND LOVE — พบกับการบรรยายที่เปิดมุมมองใหม่อย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ Artificial I...

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตชั้นปีที... เปิดโลกอุตสาหกรรมสีเขียว! ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับนิสิตวิศวฯ จุฬาฯ เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษ — ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี...

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงครองอันดับ 1 มห... จุฬาฯ อันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทย จากการจัดอันดับโดย THE Asia University Rankings 2025 — จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงครองอันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทย และ Top 200 ของ...