ทีซีซี เทคโนโลยี จับมือ IIJ ยักษ์ใหญ่ไอทีญี่ปุ่นตั้งบริษัทร่วมทุน “ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย” นำธุรกิจของท่านก้าวกระโดดไปด้วย Cloud ของ Leap Solutions Asia

07 Apr 2016
ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCT) ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานไอทีชั้นนำของไทยประกาศความร่วมมือกับอินเทอร์เน็ต อินิชิเอทีเจแปน (IIJ) หนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์สำหรับองค์กร (Enterprise Cloud) รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จำกัด (Leap Solutions Asia Co., Ltd.) เพื่อให้บริการคลาวด์เต็มรูปแบบในไทย หนุนไทยเป็นผู้นำตลาดคลาวด์ในเอเชียภายใน 3 ปีนายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า
ทีซีซี เทคโนโลยี จับมือ IIJ ยักษ์ใหญ่ไอทีญี่ปุ่นตั้งบริษัทร่วมทุน “ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย” นำธุรกิจของท่านก้าวกระโดดไปด้วย Cloud ของ Leap Solutions Asia

"เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทีซีซี กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นดิจิทัลเกตเวย์ของภูมิภาคโดยการใช้ คลาวด์ คอมพิวติ้งคุณภาพสูงบนศูนย์ข้อมูลระดับพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรมล่าสุด เพื่อยกระดับคุณภาพขององค์กรทั้งในประเทศไทย อินโดจีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย จึงเป็นเหตุผลที่ TCCT และ IIJ ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัท ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จำกัด"

"TCCT ยังคงดำเนินปรัชญาทางธุรกิจในการร่วมมือกับพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลกด้วยความเป็นกลางของศูนย์ข้อมูลประกอบกับที่ตั้งของประเทศที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของภูมิภาค ทำให้ไทยกลายเป็น "ฮับ" ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในโลกที่ดึงดูดการลงทุนมูลค่ามหาศาล รวมถึงความรู้และเทคโนโลยีจากนานาประเทศ"

"เราเชื่อมั่นว่าศูนย์ข้อมูลของ TCCT ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลออนไลน์ที่มีความเป็นกลางสามารถเป็นแหล่งดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก และเป็นอีกครั้งสำคัญที่เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรญี่ปุ่นที่ไม่เพียงจะมาลงทุนในบ้านเรา แต่จะนำเอาประสบการณ์ในการบริหารจัดการเทคโนโลยีด้านคลาวด์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ทีมงานผู้บริหารมืออาชีพ และทีมวิจัยพัฒนา ตลอดจนองค์ความรู้ด้านคลาวด์ระดับโลกของIIJ มาถ่ายทอดให้กับประเทศไทย และเมื่อมาผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านศูนย์ข้อมูลในตลาดประเทศไทยของTCCT จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน และส่งผลให้ประเทศมีการพัฒนาด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มภาคภูมิ"

นายโคอิจิ มารุยาม่า เจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจระหว่างประเทศ บริษัท อินเทอร์เน็ต อินนิชิเอทีเจแปน (IIJ) กล่าว"ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาด Public Cloud ที่ใหญ่ที่สุดตลาดหนึ่งในอาเซียน และยังมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงทางด้านบริการคลาวด์สำหรับองค์กรให้เห็นอีกด้วย ด้วยปัจจัยในเชิงบวกต่างๆ เราจึงจับมือกับทีซีซี กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีศักยภาพมากที่สุดในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญที่จะนำบริการคลาวด์ใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทย"

"IIJ ครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 25 ปี ในฐานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายแรก และในปี ค.ศ. 2000 เราเริ่มให้บริการตามความต้องการในการใช้งาน (Resource on-Demand Services) และสั่งสมประสบการณ์การให้บริการคลาวด์ตั้งแต่นั้นมา ความสามารถด้านเครือข่ายและความรู้ทักษะในการสร้างและบริหารจัดการแพลตฟอร์มคลาวด์ขนาดใหญ่ของไอไอเจถือได้ว่าอยู่ในระดับชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ข้อได้เปรียบเหล่านี้ทำให้ไอไอเจขยายธุรกิจคลาวด์สู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้แพลตฟอร์มคลาวด์ของเรามีสาขาอยู่ทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วโลก"

"จากการที่รัฐบาลประกาศนโยบายการผลักดันประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิตอลตั้งแต่ปี 2014 ไอไอเจได้พยายามเจาะตลาดคลาวด์ของไทยมาโดยตลอด ด้วยศูนย์ข้อมูลที่แข็งแกร่งของ TCCT พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อคุณภาพสูงและความน่าเชื่อถือของ TCCT ต่อตลาดของไทย เรามีความมั่นใจว่าความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย จะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจของคลาวด์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน"

"TCCT และ IIJ พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับหนึ่งของประเทศ ด้วยการให้บริการคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ"

ด้านนายวรดิษฐ์ วิญญรัตน์ กรรมการบริหารและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า"TCCT เป็นผู้บุกเบิกตลาดโครงสร้างพื้นฐานไอทีของไทย ด้วยประสบการณ์ถึง 2 ทศวรรษ และมีความชำนาญด้านศูนย์ข้อมูล กอปรกับต้องการต่อยอดจากธุรกิจศูนย์ข้อมูลด้วยการให้บริการคลาวด์และต้องการขยายขีดความสามารถของธุรกิจสู่ภูมิภาค ขณะที่ IIJ มีความต้องการขยายตลาดการให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย ทำให้ทั้งสองฝ่าย จับมือกันตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น ถือเป็นการนำจุดแข็งของ TCCT ด้านศูนย์ข้อมูลและ SAP Hosting ผนวกกับจุดแข็งของ IIJ ที่เป็นผู้นำในนวัตกรรมด้านคลาวด์มาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจและทำให้ทั้งสองบริษัทฯ สามารถนำบริการสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น (Time to Market) ในการร่วมทุนครั้งนี้มีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง TCCT และ IIJคือร้อยละ 60 และ 40 ตามลำดับ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายให้บริษัทฯ เป็นผู้นำบริการคลาวด์ในประเทศไทยและผลักดันให้ไทยเป็นดิจิทัลฮับในเอเชียภายใน 3 ปี ด้วยการขยายงบลงทุนรวม 700ล้านบาท"

นายวรดิษฐ์กล่าวเสริมว่า "ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย ถูกวางเป้าหมายให้เป็นผู้นำในการให้บริการคลาวด์สำหรับองค์กร บริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ราชการ และบริษัท ข้ามชาติของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงลูกค้าที่เข้ามาลงทุนจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจเอเซียน หรือเออีซี"

"ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จะพร้อมให้บริการภายในไตรมาสที่สองของปี 2559 ครอบคลุมบริการคลาวด์ที่หลากหลาย ทั้งนี้จะเริ่มจากการสร้างพื้นฐานของบริการคลาวด์ให้แข็งแกร่งโดยเน้นความเสถียรและความปลอดภัยของระบบ รวมถึงการสร้างระบบที่สามารถให้ลูกค้าบริหารค่าใช้จ่ายได้ตามการใช้งานจริง นอกจากนี้ยังจะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจแก่องค์กรต่างๆ ถึงประโยชน์ของคลาวด์ในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ และในขั้นต่อไปบริษัทจะนำเสนอคลาวด์โซลูชั่นอัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์ทุกประเภทธุรกิจ โดยมีทั้งบริการการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data as a Service (BDaaS) บริการการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ Business Process as a Service (BPaaS) รวมไปถึงการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต หรือ Internet of Thing ทั้งนี้เรามุ่งหวังให้เกิดการปฏิรูปธุรกิจ (Business Transformation) ด้วยนวัตกรรมที่จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า ให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว"

ภายใน 3 ปีข้างหน้า ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดการให้บริการคลาวด์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจประกอบการทั้งในประเทศไทยและเอเชีย

ข้อมูลบริษัท ลีพ โซลูชั่นส์ เอเชีย

ชื่อบริษัท บริษัท ลีพ โซลูชัน เอเชีย จำกัด

สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

คณะกรรมการผู้บริหาร นายวรดิษฐ์ วิญญรัตน์ (ประธานคณะกรรมการผู้บริหาร)

นางพรพิศ ศิริไพพรรณ (กรรมการบริษัท)

นางสาว นัจรี รุจิรัตน์ (กรรมการผู้จัดการ)

นายฮิเดชิ โฮโจ (กรรมการบริษัท)

นายโคอิจิ มารุยาม่า (กรรมการบริษัท)

เงินลงทุนเริ่มแรก 200 ล้านบาท

สัดส่วนการลงทุน TCCT ร้อยละ 60 IIJ ร้อยละ 40

วันที่ก่อตั้งบริษัท 5 กุมภาพันธ์ 2559

จำนวนพนักงาน 40 รายโดยประมาณ