ฟิทช์จัดอันดับเครดิต Makro ที่ A+(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ Makro ที่ A+(tha) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ F1(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
          ผู้นำในธุรกิจค้าส่งประเภทอาหาร: Makro เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ประเภทอาหาร (Modern-Trade Food Wholesale) ในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี Makro มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่น โดย Makro มุ่งจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HORECA) รวมถึงลูกค้าที่เป็นองค์กร ซึ่งรายได้จากลูกค้าเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของรายได้รวมในปี 2558 
          อัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำแต่เพิ่มสูงขึ้น: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ Makro ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.3 เท่าถึง 1.4 เท่า ในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจาก Makro น่าจะยังคงดำเนินการขยายสาขาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง Makro เริ่มมีการขยายสาขาเป็นจำนวนมากหลังจากที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว A+(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ) ได้เข้าซื้อกิจการของ Makro ในกลางปี 2556 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าวของ Makro ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2558 จากก่อนการถูกเข้าซื้อกิจการที่บริษัทฯ มีเงินสดมากกว่าหนี้สิน
          อัตราการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง: อัตราการเติบโตของยอดขายของ Makro น่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 9-10 ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายของสาขาที่เปิดใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและที่กำลังจะเปิดในอนาคต Makro มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ประมาณ 10 สาขาต่อปีในปี 2559-2560 นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของยอดขายยังน่าจะได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวในประเทศไทย 
          อัตราส่วนกำไรที่ต่ำแต่มั่นคง: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ Makro อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 5.5 ถึงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นที่มีอัตราส่วนกำไรดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 เนื่องจาก Makro จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรของ Makro มีความผันผวนน้อย เนื่องจากลักษณะธุรกิจของ Makro ที่ขายอาหารเป็นหลัก ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวของ Makro จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.7 ถึง ร้อยละ 5.9 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า 
          ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว: จากการที่ Makro ประกอบธุรกิจค้าส่ง ทำให้ Makro มีการกระจายตัวของจำนวนลูกค้าและจำนวนสาขาน้อยกว่าผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นในตลาด นอกจากนี้ หนึ่งในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Makro ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม มีแนวโน้มที่จะมีจำนวนลดลงในระยะยาว เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของการค้าปลีกแบบดั้งเดิมไปสู่การค้าปลีกสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Makro ที่เน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงมากขึ้น น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง 
          เครื่องหมายการค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง: Makro เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการค้าส่งแบบ Cash & Carry ในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก CP ALL ได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวนี้ใน 11 ประเทศในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และประเทศจีน จาก SHV Group แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมของ Makro การได้สิทธิดังกล่าวเป็นการสนับสนุนแผนธุรกิจในอนาคตของ Makro ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในการขยายสาขาไปในประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศ ASEAN นอกจากนี้ Makro ยังมีการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองอีกหลายประเภท
          ความเชื่อมโยงกับ CP ALL : อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ Makro ได้รวมการปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตของ Makro โดยลำพัง (Stand-alone Credit Profile) เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ Makro ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL ในตลาดค้าปลีกประเภทอาหารในประเทศไทยและในภูมิภาค โดย CP ALL เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นใน Makro ในสัดส่วนร้อยละ 98 ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ CP ALL

สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ
          - การเปิดสาขาขนาดใหญ่จำนวน 10 สาขาต่อปีในปี 2559-2560 
          - อัตราการเติบโตของยอดขายที่ร้อยละ 9 ถึงร้อยละ 10 ต่อปีในปี 2559-2560
          - อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 5.7 ถึงร้อยละ 5.9 ในปี 2559-2560
          - ไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนสำหรับการขยายสาขาไปยังประเทศอื่น ในช่วงปี 2559-2561

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
          ปัจจัยบวกที่จะมีผลต่อการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ Makro เป็นมีเสถียรภาพ:
การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ CP ALL กลับมาเป็นมีเสถียรภาพหรือการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ CP ALL
ปัจจัยลบ: 
          การลงทุนที่สูงโดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง หรือ
การลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) มาอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4.5 อย่างต่อเนื่อง หรือการปรับลดอันดับเครดิตของ CP ALL หรือความเชื่อมโยงกับ CP ALL ที่ลดน้อยลง
 

ข่าวบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด+ฟิทช์ เรทติ้งส์วันนี้

ฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิต Siam Makro เป็นมีเสถียรภาพ คงอันดับเครดิตที่ A-(tha) และยกเลิกอันดับเครดิต

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ Makro เป็นมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มเครดิตเป็นลบ และคงอันดับเครดิตที่ 'A-(tha)' นอกจากนี้ ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ของ Makro ที่ 'F2(tha)' ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศยกเลิกอันอับเครดิตทั้งหมดของ Makro ตามแผนพัฒนาธุรกิจของฟิทช์ การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตและการคงอันดับเครดิตของ Makro เป็นไปตามการปรับ

ฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิต Siam Makro เป็นลบ คงอันดับเครดิตที่ A-(tha)

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ Makro เป็นลบ จากมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตดังกล่าวที่ 'A-(tha)' ในขณะ...

นายประสิทธ์ คำรศ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย (ก... ไวไว...ร่วมงาน "แม็คโคร มหกรรมธุรกิจอาหารประเทศไทย ครั้งที่ 17" ภายใต้แนวคิด "THE NEW POSSIBLE ทุกสิ่งเป็นจริงได้" — นายประสิทธ์ คำรศ รองผู้อำนวยการฝ่ายขา...

มีข่าวดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บมจ.ซีพี แอ... 'ซีพี แอ็กซ์ตร้า' เข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Large Cap — มีข่าวดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์ "แม็คโคร" และบร...

แม็คโคร ตอกย้ำแหล่งรวมอาหารสด คุณภาพ ชั้น... แม็คโคร จับมือกรมปศุสัตว์ ย้ำเชื่อมั่น "ปศุสัตว์ OK" หนุนบริโภคเนื้อหมูปลอดภัย ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ — แม็คโคร ตอกย้ำแหล่งรวมอาหารสด คุณภาพ ชั้นนำของประเทศ...

เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ผู้นำธุรกิจค้าส... วันสิ่งแวดล้อมโลก แม็คโครชูโครงการพลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ในทุกมิติ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573 — เนื่องในวันสิ่งแวดล...

แม็คโคร ผนึก กรมปศุสัตว์ และผู้ผลิตนมแบรน... แม็คโคร จับมือ กรมปศุสัตว์ และพันธมิตรธุรกิจ มอบผลิตภัณฑ์นมกว่า 20,000 กล่อง แก่เด็กพิการ หนุนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพ รับ "World Milk Day" — แม็คโคร ผนึก ก...

ออราเคิล (Oracle) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน... ออราเคิลให้บริการระบบบริหารข้อมูลคลังสินค้าอัตโนมัติผ่านคลาวด์ "Oracle Autonomous Data Warehouse" แก่สยามแม็คโครรองรับแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค — ออราเคิล (O...

บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าแล... "ซีพี โฟตอน" จับมือ "สยามแม็คโคร" ร่วมสร้าง Carbon Neutrality คืนสู่สังคม เล็งปรับทัพยานยนต์สู่การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกไฟฟ้าในอนาคต — บริษัท ซีพี โฟตอน ...

แม็คโคร เดินหน้าโครงการสร้างงานสร้างอาชีพ... 'แม็คโคร' เดินหน้าสู่เป้าหมาย สร้างงานสร้างอาชีพ 4 แสนรายในปี 2573 จับมือ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดโครงการสร้างงานสร้างอาชีพปี 2566 — แม็คโคร เดิ...