ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจำพวกที่ 3 ทั่วประเทศกว่า 79,600 ราย (ข้อมูลเมื่อธันวาคม 2558) ซึ่งเป็นโรงงานที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน แม้จะมีกฎหมายกำกับดูแลด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงงานที่เข้าสู่ระบบการจัดกากอุตสาหกรรมที่ถูกต้องเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงาน โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงงาน SMEs ทั่วประเทศ ได้เข้าสู่ระบบการจัดการกากฯ อย่างถูกต้องตามกฎกระทรวง กรอ.จึงได้ดำเนินการเปิด "โครงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและติดตามการต่ออายุโรงงานที่ขาดการจัดการกากอุตสาหกรรม" โดยมอบหมายให้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษาโครงการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่อยู่ในระบบ และจะต้องต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์ฯ ให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วนตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการกำจัดสิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2548
ดร.พสุ กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์ช่วยเหลือฯ ดังกล่าว เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านการจำแนกประเภทและลักษณะกากอุตสาหกรรมตามลำดับประเภทโรงงาน จำนวน 104 ประเภท เพื่อระบุรหัสกากอุตสาหกรรม การแนะนำโรงงานผู้รับบำบัดกำจัดกากอุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับประเภทกากอุตสาหกรรม รวมถึงการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรม ประกอบการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ภายใต้โครงการดังกล่าวฯ มีการพัฒนาองค์ความรู้จากฐานข้อมูลด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมมาประยุกต์ใช้ในระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยจะพัฒนาเป็นระบบฐานข้อมูลสารสนเทศให้ผู้ประกอบการสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรมได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสามารถเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นำไปสู่ความสามารถแข่งขันในระดับโลกได้
ดร.พสุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ช่วยเหลือฯ ดังกล่าวดำเนินงานในรูปแบบของศูนย์เครือข่ายฯที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือโดยมีศูนย์ประสานงานกลางอยู่ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และมีศูนย์เครือข่ายตั้งอยู่ใน 6 ภูมิภาค ได้แก่ 1. ภาคกลาง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4. ภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 5. ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา และ 6. ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย กรอ.ได้ดำเนินงานร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดยสามารถขอรับคำปรึกษาดังกล่าวได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจรับคำปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0-2202-4168 หรือ www.diw.go.th และ www.facwaste.com
"มจธ. ยกระดับวิศวกรรมเคมีสู่สากล! หลักสูตร ป.ตรี ได้รับการรับรองมาตรฐาน ABET การันตีคุณภาพเทียบเท่าอเมริกา"
"Skill Shift: Build Smart. Work Smarter." มจธ. ผนึกกำลังธนาคารไทยพาณิชย์ปั้นแรงงานไทยพร้อมรับมืออนาคตการทำงานยุค AI
SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว "Skill Shift Program" ขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่
มจธ. จัดกิจกรรม "KMUTT OPEN HOUSE 2025 Journey of Discovery" ร่วมค้นหาตัวตนไปพร้อมกัน จุใจเต็มวัน Day to Night 10-12 ต.ค. นี้ ที่บางมดและบางขุนเทียน
โคเวสโตร และ มจธ. ร่วมผนึกกำลังปั้นนักออกแบบรุ่นใหม่ สู่อนาคตแห่งความยั่งยืน
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดตัวห้องปฏิบัติการพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและพัฒนาทักษะแห่งอนาคต
มจธ. ร่วมกับ เทศบาลเมืองเพชรบุรี เปิด ศูนย์ขยะ RETURN-NA (รีเทิร์นนะ) "พระนครคีรีโมเดล" ต้นแบบแหล่งเรียนรู้การบริหารจัดการขยะเป็นศูนย์ (ZERO WASTE)
กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรรม KMUTT ACTS 2025 กิจกรรมเสริมสร้างแนวคิดความเป็นผู้ประกอบการและความยั่งยืน จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
กลุ่มบริษัทบางจาก จับมือ KX - Knowledge Exchange เปิดพื้นที่ให้สตาร์ตอัป เร่งสปีดนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ผ่าน TECHBITE ENERGY