กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน คาดสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน อีกทั้งยังทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปภ.ได้ประสานแจ้งเตือน 8 จังหวัดในพื้นที่เหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เตรียมการเฝ้าระวังและรับมือภาวะน้ำในแม่น้ำโขงที่เอ่อล้นตลิ่ง กรณีระดับน้ำเพิ่มสูงจนถึงจุดวิกฤติให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ที่แม้จะอ่อนกำลัง แต่ส่งผลให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในอำเภอแม่สา จังหวัดน่าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 320 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วันนี้ ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว อีกทั้งภาวะฝนตกหนักจากพายุเตี้ยนหมู่ ยังทำให้แม่น้ำโขงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปภ.ได้ประสาน 8 จังหวัดในพื้นที่เหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แจ้งเตือนอำเภอที่อยู่ติดแม่น้ำโขงให้เตรียมการเฝ้าระวังและรับมือภาวะน้ำในแม่น้ำโขงที่เอ่อล้นตลิ่ง ได้แก่ เชียงราย (อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ อำเภอเวียงแก่น ) เลย (อำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม) หนองคาย (อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอโพนพิสัย) บึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอบุ่งคล้า) นครพนม (อำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม อำเภอท่าอุเทน) มุกดาหาร (อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอหว้านใหญ่ อำเภอดอนตาล) อำนาจเจริญ (อำเภอชานุมาน) และอุบลราชธานี (อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอเขมราฐ อำเภอโขงเจียม) โดยจัดวางแนวกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่ง จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมวัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติการช่วยเหลือและอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยขนย้ายวัสดุสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพสัตว์เลี้ยงและยานพาหนะไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย กรณีระดับน้ำเพิ่มสูงจนถึงจุดวิกฤติให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านกลไกของศูนย์ดำรงธรรม ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1667 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 http://www.disaster.go.th/
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์
มท.1 มอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี
สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ
ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี
ปิดท้ายคาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก" ส่งต่อ "การให้" ที่ยั่งยืน กับโครงการ "ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 23" สู่พี่น้องชาวพะเยา
LINE ประเทศไทย เปิดตัว LINE ALERT บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง นำร่องความร่วมมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา