วันนี้ (25 กันยายน 2559) เวลา 15.00 น. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอกวิลาศ อรุณศรี เป็นประธาน ในพิธีปิดตลาดเกษตรดิจิทัล ซึ่งจัดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างวันที่ 5-25 กันยายน 2559 โดยมีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสหกรณ์ และ น.อ. สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บริหาร ข้าราชการ เกษตรกร ผู้ประกอบการ และประชาชนที่สนใจร่วมในพิธีดังกล่าว
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสหกรณ์ เปิดเผยว่า การจัดตลาดเกษตรดิจิทัลในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการระหว่าง 2 กระทรวง คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้แนวคิด "เทคโนโลยีก้าวไกล ภายใต้แนวคิด "เทคโนโลยีดิจิทัลก้าวไกล การเกษตรไทยก้าวหน้า" ระหว่างวันที่ 5 – 25 กันยายน 2559 ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม โดยที่การจัดงานในครั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำผลผลิตที่เกิดจากการสนับสนุนและแนะนำส่งเสริมของหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาแสดงและจำหน่าย ภายใต้นโยบายในการปฏิรูปภาคการเกษตรทั้งระบบเพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ลดต้นทุนการผลิต พัฒนาเกษตรกรให้ได้เรียนรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคในการใช้การตลาดนำการผลิต ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้แก่สินค้าเกษตรของไทยต่อไปในอนาคต ซึ่งได้แบ่งพื้นที่จำหน่ายสินค้าเป็น 3 ส่วน คือ สินค้าไอที สินค้าเกษตร และสินค้าจากผู้ประกอบการ SME โดยในภาพรวมเน้นความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรและดิจิทัลผ่านตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการจำหน่าย สินค้าเกษตรที่จำหน่ายภายในงานได้จัดแบ่งเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย โซน Organic ที่จัดจำหน่ายสินค้าที่ผ่านการรับรองเกษตรอินทรีย์ เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวฯลฯ โซน GI จำหน่ายสินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อาทิ ส้มโอทับทิมสยาม ข้าวสังข์หยด ไข่เค็มไชยา รวมถึงผ้าไหม GI โซน Young Smart Farmer ที่จำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรรุ่นใหม่โดยตรง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก โซนผ้าและผลิตภัณฑ์ โซนผลผลิตประมงและปศุสัตว์สดและแปรรูป โซนไม้ดอกไม้ประดับ และโซนอาหารปรุงสุกที่คัดสรรอาหารอร่อยมาเสริฟถึงคลาดแห่งนี้ นอกจากนี้ ภายในงานก็ได้จัดให้มี โซนเกษตรดิจิทัล เพื่อจำหน่ายสินค้าแบบออนไลน์ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. ผ่านเว็บไซด์ ortorkor.com.(อตก.ดอทคอม) และจำหน่ายสินค้าจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสท.) ผ่านเว็บไซด์ co-opclick.com.(โคออปคลิก ดอท คอม) ซึ่งมาจากกลุ่มสหกรณ์ทุกจังหวัดที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง และมีจุดกระจายสินค้าอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้ง แสดงสินค้าตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้ระบบ.QR.Code.จากองค์การสะพานปลา และสินค้าตามการรับรองมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.).พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ สำหรับให้ผู้มาร่วมงานได้เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ กิจกรรมการประกวดปลากัด กิจกรรมการสาธิตทางการเกษตรต่างๆ กิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมบันเทิง และการแสดงบนเวที
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้แถลงถึงผลของการจัดงานว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก ถือว่าเกินกว่าที่คาดไว้ และบรรลุวัตถุประสงค์อย่างดียิ่ง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเข้าชมและซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากการที่มีผู้เข้าร่วมชมงานตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน จนถึงวันที่ 25 กันยายน 2559 กว่า 10,500 คน และมียอดจำหน่ายกว่า 40 ล้านบาท นับได้ว่าเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่เกษตรกร เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การตลาด ได้มีพื้นที่สำหรับนำเสนอสินค้าดี มีคุณภาพและสามารถจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ในราคายุติธรรม อันจะส่งผลให้กลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่มั่นคงและยั่งยืน
DE-BDE ปักหมุดอนาคตดิจิทัลไทย เปิดให้บริการศูนย์ดิจิทัลชุมชนแห่งใหม่แล้ว บนพื้นที่อาคารซี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พร้อมดัน IT Man เป็นเครือข่ายดิจิทัลให้ชุมชน ครอบคลุม 878 อำเภอทั่วประเทศ
ดีอี - TAGTHAi ร่วม MOU ส่งเสริม "Smart Tourism" ผ่านแพลตฟอร์ม หนุนยกระดับท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ทส. ประชุม คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศกำหนดพื้นที่ กรุงเทพฯ และ 4 จังหวัดภาคเหนือ เป็นเขตควบคุมมลพิษ
การประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 4/2568
ข่าวดี! ODOS Summer Camp 2026 พร้อมเปิดรับสมัคร 1 ก.ย.นี้
ปตท.สผ. คว้ารางวัล AIBP ASEAN Enterprise Innovation Award 2025 จากการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับการดำเนินงาน
รองนายกฯ ประเสริฐ เปิดกิจกรรมปฐมนิเทศโครงการ ODOS Summer Camp พร้อมมอบกำลังใจแก่ 928 เยาวชนไทย ก่อนลัดฟ้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดน
อว. ผนึก ดีอี โดย สวทช. จุฬาฯ และ สพธอ. เตรียมการจัดตั้ง "AI Thailand Hub" เดินหน้ายุทธศาสตร์ AI นำร่อง COE ประเทศ ลุยสร้างคน สร้างมาตรฐาน บริการ AI ครบวงจร
กระทรวงดีอี อัดงบ 69 พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ปูพรมภาคการผลิต หนุนพัฒนา AI เพิ่มขีดแข่งขันประเทศไทย