บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ Makro เป็น A(tha) จาก A+(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาสคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ F1(tha)
การปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวเนื่องจากการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Makro ในสัดส่วนร้อยละ 98 เป็น A(tha) จาก A+(tha)
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
ความเชื่อมโยงกับ CP ALL : การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CP ALL ทำให้อันดับเครดิตในปัจจุบันของ CP ALL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro (Stand-alone Credit Profile) ดังนั้นการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ Makro ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ในกรณีนี้
ผู้นำในธุรกิจค้าส่งประเภทอาหาร: Makro เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ประเภทอาหาร (Modern-Trade Food Wholesale) ในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี Makro มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่น โดย Makro มุ่งจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง รวมถึงลูกค้าที่เป็นองค์กร ซึ่งรายได้จากลูกค้าเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของรายได้รวม
อัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำแต่เพิ่มสูงขึ้น: อัตราส่วนหนี้สินของ Makro ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 เท่าถึง 1.7 เท่า ณ สิ้นปี 2559 เนื่องจากการขยายสาขาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวจะลดลงในปี 2560 เนื่องจากการลดการขยายจำนวนสาขาขนาดใหญ่ ตามแผนของบริษัทฯ Makro เริ่มมีการขยายสาขาเป็นจำนวนมากหลังจากที่ CP ALL ได้เข้าซื้อกิจการของ Makro ในกลางปี 2556 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าวของ Makro ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2558 จากก่อนการถูกเข้าซื้อกิจการที่บริษัทฯ มีเงินสดมากกว่าหนี้สิน
อัตราการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายของ Makro น่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 9-10 ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายของสาขาที่เปิดใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและที่จะเปิดในปี 2559 Makro มีแผนที่จะเปิดสาขาขนาดใหญ่ใหม่จำนวน 13-14 สาขาในปี 2559 ก่อนที่จะลดการขยายจำนวนสาขาขนาดใหญ่ลงในปี 2560 นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของยอดขายยังน่าจะได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวในประเทศไทย
อัตราส่วนกำไรที่ต่ำแต่มั่นคง: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ Makro อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 5.5 ถึงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นที่มีอัตราส่วนกำไรดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 เนื่องจาก Makro จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรของ Makro มีความผันผวนน้อย เนื่องจากลักษณะธุรกิจของ Makro ที่ขายอาหารเป็นหลัก ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวของ Makro จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.6 ถึง ร้อยละ 5.7 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว: จากการที่ Makro ประกอบธุรกิจค้าส่ง ทำให้ Makro มีการกระจายตัวของจำนวนลูกค้าและจำนวนสาขาน้อยกว่าผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นในตลาด นอกจากนี้ หนึ่งในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Makro ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม มีแนวโน้มที่จะมีจำนวนลดลงในระยะยาว เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของการค้าปลีกแบบดั้งเดิมไปสู่การค้าปลีกสมัยใหม่เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Makro ที่เน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงมากขึ้น น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง
เครื่องหมายการค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง: Makro เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการค้าส่งแบบ Cash & Carry ในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก CP ALL ได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวนี้ใน 11 ประเทศในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และประเทศจีน จาก SHV Group แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมของ Makro การได้สิทธิดังกล่าวเป็นการสนับสนุนแผนธุรกิจในอนาคตของ Makro ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในการขยายสาขาไปในประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศ ASEAN นอกจากนี้ Makro ยังมีการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองอีกหลายประเภท
สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ
- การเปิดสาขาขนาดใหญ่จำนวน 13 สาขาในปี 2559 และ 4 สาขาในปี 2560
- อัตราการเติบโตของยอดขายที่ร้อยละ 9 ถึงร้อยละ 10 ต่อปีในปี 2559-2560
-อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) อยู่ที่ร้อยละ 5.6-5.7 ในปี 2559-2560
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนสำหรับการขยายสาขาไปยังประเทศอื่น ในช่วงปี 2559-2561
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
• การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ CP ALL
ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro รวมไปถึง:
• การลงทุนที่สูงโดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559: 1.6 เท่า) หรือ
• การลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) มาอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4.5 อย่างต่อเนื่อง (ครึ่งปีแรกของปี 2559: ร้อยละ 5.2)
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์จะพิจารณาให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับแก่ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ Makro ในกรณีที่อันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CP ALL เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ Makro ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL ในตลาดค้าปลีกประเภทอาหารในประเทศไทยและในภูมิภาค ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Linkage Methodology)
ติดต่อ: Primary Analyst สมฤดี ไชยวรรัตน์
Director +66 2108 0160
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชั้น 17, เลขที่ 57 อาคารปาร์คเวนเชอร์, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analyst ณิชยา สีมานนทปริญญา
Associate Director
+66 2108 0161
Committee Chairperson Vicky Melbourne
Senior Director +612 8256 3025
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำและเมื่อมีความต้องการใช้อันดับเครดิตภายในประเทศ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology: Including Short-term Ratings and Parent and Subsidiary Linkage ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2558 , National Scale Ratings Criteria ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2556 และ Parent and Subsidiary Linkage ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่ www.fitchratings.com
การจัดอันดับเครดิตในรายงานนี้เกิดจากความต้องการของบริษัทที่ถูกจัดอันดับ ดังนั้น ฟิทช์จึงได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว
การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน 'หลักจรรยาบรรณ' ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน ฟิทช์อาจจะมีการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้แก่บริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่ ซึ่งรายละเอียดสำหรับการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ดังกล่าวโดยนักวิเคราะห์หลัก (Lead Analyst) ที่อยู่ในหน่วยงานของฟิทช์ที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป ได้แสดงไว้ที่หน้าแรกของบริษัทนั้น ๆ ในเว็ปไซต์ของฟิทช์ เรทติ้งส์ www.fitchratings.com
ไวไว...ร่วมงาน "แม็คโคร มหกรรมธุรกิจอาหารประเทศไทย ครั้งที่ 17" ภายใต้แนวคิด "THE NEW POSSIBLE ทุกสิ่งเป็นจริงได้"
'ซีพี แอ็กซ์ตร้า' เข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Large Cap
แม็คโคร จับมือกรมปศุสัตว์ ย้ำเชื่อมั่น "ปศุสัตว์ OK" หนุนบริโภคเนื้อหมูปลอดภัย ตรวจสอบแหล่งที่มาได้
วันสิ่งแวดล้อมโลก แม็คโครชูโครงการพลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ในทุกมิติ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573
แม็คโคร จับมือ กรมปศุสัตว์ และพันธมิตรธุรกิจ มอบผลิตภัณฑ์นมกว่า 20,000 กล่อง แก่เด็กพิการ หนุนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพ รับ "World Milk Day"
ออราเคิลให้บริการระบบบริหารข้อมูลคลังสินค้าอัตโนมัติผ่านคลาวด์ "Oracle Autonomous Data Warehouse" แก่สยามแม็คโครรองรับแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค
"ซีพี โฟตอน" จับมือ "สยามแม็คโคร" ร่วมสร้าง Carbon Neutrality คืนสู่สังคม เล็งปรับทัพยานยนต์สู่การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกไฟฟ้าในอนาคต
'แม็คโคร' เดินหน้าสู่เป้าหมาย สร้างงานสร้างอาชีพ 4 แสนรายในปี 2573 จับมือ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดโครงการสร้างงานสร้างอาชีพปี 2566