แกร็บ เป็นผู้ดำเนินงานเครือข่ายบริการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในแพลทฟอร์มบนโทรศัพท์มือถือที่มีผู้ใช้งานบ่อยที่สุดในภูมิภาคนี้ด้วยการจองใช้บริการมากถึง 1.5 ล้านครั้งต่อวัน ในปัจจุบันแกร็บเปิดให้บริการในรูปแบบรถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ และการร่วมโดยสารในเส้นทางเดียวกัน ครอบคลุม 31 เมืองทั่ว 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ผู้โดยสาร 1 ในทุกๆ 4 คนใช้บริการหลายรูปแบบ สำหรับทิศทางในอนาคต แกร็บจะใช้ความแข็งแกร่งจากเงินทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อขยายบริการขนส่งของตนอย่างต่อเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนอกจากจะมีประชากรมากถึง 620 ล้านคนแล้ว จำนวนชนชั้นกลางและผู้ใช้โทรศัพท์มือถือยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินโดนีเซีย[1] นอกจากนี้ แกร็บยังมีแผนลงทุนเพิ่มศักยภาพอย่างมีนัยสำคัญในด้านการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้เพื่อให้การทำรายการในแต่ละวันเป็นประสบการณ์ที่ราบรื่นในภูมิภาคนี้ ซึ่งมีอัตราการใช้ธนาคารและบัตรเครดิตในระดับต่ำและมีทางเลือกไม่มากนักสำหรับการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด[2]
"วิสัยทัศน์ของเราคือการขับเคลื่อนการขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวหน้าพร้อมกับพลิกโฉมระบบนิเวศของอินเทอร์เน็ตบนมือถือในภูมิภาคนี้ การเพิ่มทุนครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในวงการเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้เรามุ่งหน้าสู่เป้าหมายระยะยาวเหล่านี้ พร้อมกับต่อยอดความเป็นผู้นำตลาดของเราอย่างต่อเนื่อง เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษกับโอกาสเติบโตในอินโดนีเซียที่เราเล็งเห็นว่า ตลาดบริการการเรียกใช้รถโดยสารในประเทศนี้เพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่าสูงเกือบ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว ตลอดจนศักยภาพที่จะขยายแพลทฟอร์มชำระเงินของแกร็บเพย์ (GrabPay) ในระดับภูมิภาคอีกด้วย ผมมั่นใจในแพลทฟอร์มต่างๆ ของเรา ทั้งด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ซึ่งเราได้ขยับขยายอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเราในภูมิภาคนี้" นายแอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ กล่าว
นายแอนโทนี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า "แกร็บได้เติบโตขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา การระดมทุนครั้งนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นและทัศนะที่ดีต่อสถานะความผู้นำตลาดและศักยภาพทางธุรกิจในระยะยาวของแกร็บในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราโชคดีที่มีพันธมิตรชั้นเยี่ยม อาทิ ซอฟท์แบงค์ โดยพันธมิตรของเราหลายรายล้วนมีประวัติการลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตชั้นนำในตลาดเกิดใหม่และได้เฝ้าดูบริษัทเหล่านี้ก้าวขึ้นเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละประเทศ"
"แกร็บคือผู้ชนะอย่างชัดเจนในโลกมือถือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณแอนโทนี่และทีมงานของเขาประสบความก้าวหน้าอย่างน่าประทับใจในการสร้างบริษัทอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีพันธกิจที่จะสนับสนุนแชมป์ในระดับท้องถิ่น อย่างเช่น แกร็บ ที่มีวิสัยทัศน์ดีเลิศในเรื่องระบบนิเวศทางอินเทอร์เน็ตแห่งยุคหน้า และเรายินดีที่จะได้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของพวกเขาในระยะยาว" มาซาโยชิ ซัน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ซอฟท์แบงค์ กรุ๊ป คอร์ป กล่าว
เป้าหมายหลักด้านการลงทุนและโอกาสในการเติบโต
เนื่องจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก แกร็บจึงมีแผนลงทุนต่อเนื่องในส่วนต่างๆ ดังนี้
เติบโตต่อเนื่องในอินโดนีเซีย อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยจำนวนประชากร 250 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น1 ใน 3 ของประชากรทั้งภูมิภาค แกร็บจะเดินหน้าเพิ่มพูนทั้งในด้านความหลากหลาย ปริมาณ และประสิทธิภาพของบริการต่างๆ ของตนในจาการ์ตา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นถึง 30 ล้านคน และเราเชื่อมั่นว่าบริการ แกร็บคาร์ แกร็บไบค์ แกร็บแท็กซี่ และ แกร็บฟู้ด ของเราล้วนมีคุณค่าและจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ โดย ณ วันสิ้นสุดครึ่งแรกของปี 2559 บริการแกร็บคาร์และแกร็บไบค์ของเราในอินโดนีเซียได้เติบโตขึ้นถึง 250 เท่าตัวภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี และจะยังคงเติบโตอย่างทวีคูณต่อไป นอกจากนี้ แกร็บรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ขยายบริการในระดับท้องถิ่นเหล่านี้ไปสู่เมืองใหญ่แห่งอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกทั่วอินโดนีเซีย
เดินหน้าพัฒนา แกร็บเพย์ (GrabPay) อัตราประชากรที่ไม่มีบัญชีธนาคารซึ่งมีมากถึง 43% ทำให้ภาพรวมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบันยังเป็นตลาดที่ใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่ และยังมีพื้นที่ให้พัฒนาทางเลือกที่ดีกว่าในการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เราพัฒนาแกร็บเพย์ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ผู้ใช้ของเรามีวิธีที่สะดวกราบรื่นในการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ แกร็บเริ่มต้นด้วยการจับมือกับ แมนดิริ (Mandiri) ซึ่งเป็นธนาคารท้องถิ่นที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอินโดนีเซีย เพื่อนำเสนอบริการกระเป๋าเงินบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile Wallet) และในอินโดนีเซียเรายังเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ ลิปโป กรุ๊ป (Lippo Group) ที่ร่วมกับเราเปิดให้บริการแพลทฟอร์มชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-money Payment) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้แกร็บเพย์ได้ที่ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์ท โรงภาพยนตร์ คอฟฟี่ช็อป และช่องทางอีคอมเมิร์ซของ ลิปโป กรุ๊ป เมื่อเร็วๆ นี้เรายังได้ร่วมมือกับ ซิตี้ (Citi) เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถชำระค่าโดยสารของแกร็บได้ที่จุดบริการของ ซิตี้แบงก์ โดยถือเป็นความร่วมมือกับธุรกิจร่วมโดยสารครั้งแรกของธนาคารระดับโลกแห่งนี้ นอกจากนี้ เรามีแผนเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและเพิ่มวิธีชำระเงินในระดับท้องถิ่นผ่านแกร็บเพย์ให้หลากหลายขึ้นเพื่อผู้ใช้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยขีดความสามารถทางเทคโนโลยี การเรียนรู้ของเครื่อง และวิทยาศาสตร์ข้อมูล แกร็บจะเดินหน้าลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อรองรับการเติบโตอย่างมากของแกร็บ พร้อมทั้งเปิดใช้บริการต่างๆ เช่น การคาดการณ์ความต้องการ และ ผู้ขับขี่และผู้ใช้เป้าหมาย เป็นต้น แกร็บมีการจ้างงานบุคลากรความสามารถสูงจากนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ ทั้งในสิงคโปร์ ปักกิ่ง และซีแอตเทิล ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ อาทิ ซอฟท์แวร์แฟลช (Flash) ที่รวมทั้งรถยนต์และรถแท็กซี่ไว้ด้วยกัน เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบจัดการหลังบ้าน (Back-end Routing) และสร้างฐานข้อมูลจุดสนใจ (Points of Interest – POI) บนแผนที่ขึ้นเป็นของตนเอง
นับตั้งแต่เปิดระดมทุนในซีรีส์อีเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 เป็นต้นมา แกร็บสามารถเพิ่มยอดรวมของผู้ขับขี่และผู้ใช้ที่มีการใช้บริการจริงได้เกือบ 4 เท่า รวมถึงปริมาณการเรียกใช้บริการด้วย ปัจจุบันมีการดาวน์โหลดแอพ Grap เข้าสู่อุปกรณ์มือถือกว่า 21 ล้านเครื่อง และผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครือข่ายที่มีผู้ขับขี่กว่า 400,000 คนเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งโดยสารของพวกเขา
[2] ข้อมูลของธนาคารโลกและธนาคารกลางสหรัฐฯระบุว่า ประชากรวัยผู้ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 264 ล้านคน (43% ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค) ไม่มีบัญชีธนาคาร และประเมินว่าอัตราการเข้าถึงของบัตรเครดิตอยู่ที่ 9% เทียบกับในสหรัฐฯที่มีอัตราสูงถึง 70%
LINE ประเทศไทยจัดประชุมเดินหน้าเสริมแกร่งธรรมาภิบาลดิจิทัล มุ่งมั่นคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้
สคส. จัดโรดโชว์ "PDPC SCHOOL TOUR" ปลูกฝังเยาวชนรู้เท่าทันข้อมูลส่วนบุคคล เดินหน้าสู่สังคมปลอดข้อมูลรั่วไหล
สคส. จัดโรดโชว์ "PDPC SCHOOL TOUR" ปลูกฝังเยาวชนรู้เท่าทันข้อมูลส่วนบุคคล เดินหน้าสู่สังคมปลอดข้อมูลรั่วไหล
INET โชว์ความสำเร็จยอดใช้บริการลูกค้าพุ่งกว่า 6,000 รายทั่วประเทศ ตอกย้ำผู้นำ Local Sovereign Cloud ชู'อธิปไตยข้อมูล' และ'ความมั่นคงระดับชาติ'
"กรุงศรี ออโต้" ปักหมุดการเรียนรู้สู่เยาวชนชายแดน ส่งมอบห้องสมุดแห่งที่ 16 ณ "ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนปูนอินทรี-มูลนิธิกรุงศรี"
การประชุมอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมโลกประจำปี 2568 เปิดฉากอย่างงดงาม ณ เมืองเสิ่นหยาง
ทรูเตือนภัย! มิจฉาชีพแอบอ้างติดตั้งอินเทอร์เน็ต หลอกโอนเงินค่าสมัคร
"JasTel" ลงนามความร่วมมือ "นิคมฯปิ่นทอง" พัฒนาโครงข่ายวงจรสื่อสารความเร็วสูงรองรับธุรกิจยุคดิจิทัล