ปภ. รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 4 จังหวัด พร้อมเตือน 28 จังหวัดรับมือภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุดีเปรสชั่นในวันที่ 13 ก.ย.59

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 4 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 22 ตำบล ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว พร้อมประสานแจ้งเตือน 28 จังหวัดเตรียมพร้อมรับมืออิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักในวันที่ 13 กันยายน 2559 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตาม สภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง กรณีสถานการณ์รุนแรง ให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 4 จังหวัด รวม 11 อำเภอ 22 ตำบล แยกเป็น เชียงใหม่ เกิดน้ำไหลหลาก ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอกัลยานิวัฒนา และอำเภอแม่ออน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปางมะผ้า และอำเภอขุนยวม ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ ลำพูน เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 2 อำภอ ได้แก่ อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอแม่ท่า ประชาชนได้รับผลกระทบ 15 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และพะเยา เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอแม่ใจ ประชาชนได้รับผลกระทบ 500 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทย ในวันนี้ (13 ก.ย.59) ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 28 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง และพังงา รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณ ที่มีปริมาณฝนสะสมอยู่แล้ว รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) อาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนกำหนดพื้นที่รองรับน้ำและเก็บกักน้ำ และวางแผนพร่องน้ำ ผันน้ำ และระบายน้ำ ออกจากพื้นที่ประสบภัยซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยบูรณาการแผนการระบายน้ำในเชิงลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตราย จากฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตาม อย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th


ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+กระทรวงมหาดไทยวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...

เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและก... สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์ — เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเดินทาง เพื่อช่วยลดควา...

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจ... สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ — สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุมทำแผนป...

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณ... ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี — บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณประวิช สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด...