นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับร้านอาหารต่างๆ ในโอมาน เพื่อนำเสนอข้าวสารไทย และในส่วนของสินค้าประเภท specific product ที่ได้รับความสนใจได้แก่ เตาแก๊ส ถังแก๊ส ดอกกล้วยไม้สด มีการเจรจากับผู้นำเข้าโดยตรง และเริ่มมียอดสั่งซื้อจากทางโอมานบ้างแล้ว
สำหรับการขายปลีกในงานครั้งนี้ สินค้าที่ขายดีของ SMEs ไทย ได้แก่ เสื้อผ้าเด็ก ผลิตภัณฑ์สปา เพราะชาวตะวันออกกลางนิยมสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม อาหารเสริมประเภทลดความอ้วน นอกจากนั้นชาวโอมานยังให้ความสนใจบริการด้านการรักษาพยาบาลและทัวร์สุขภาพซึ่งมีโรงพยาบาลและคลินิคหลายแห่งไปเปิดบูธแสดงในงานครั้งนี้ และได้มีการตกลงเปิดสาขารักษาพยาบาลเฉพาะด้านในโอมาน คือ คลินิคโรคเฉพาะทาง(โรคกระดูก) เป็นแห่งแรกของไทยในโอมานอีกด้วย
โอมานเป็นประเทศคู่ค้าอันดับสามของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง ประชากรส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง และนิยมสินค้าไทย ชาวโอมานเดินทางมาไทยเป็นอันดับสองรองจาก UAE ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีของเอสเอ็มอีไทยที่ต้องการขยายตลาดการค้าไปสู่ภูมิภาคนี้เพราะประเทศโอมานจะเป็นประตูการค้าออกไปยังประเทศในตะวันออกกลาง เช่น กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council : GCC) และอีกหลายประเทศในแอฟริกา ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อสูง และมีศักยภาพ รวมถึงเป็นตลาดอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ของโลก
การนำผู้ประกอบการ SMEs ไปเปิดตลาดโอมานในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด โดยผลรวมของการทำ Business Matching ที่มีการสั่งซื้อแล้วและการขายปลีก มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 600ล้านบาท