Norgine B.V. นำเสนอผลการวิเคราะห์หลังการทดสอบ (post-hoc) ล่าสุดจากการวิจัย DAYB และ MORA ใน Phase III ที่แสดงให้เห็นว่า PLENVU(R) ซึ่งเป็นยาสำหรับการเตรียมลำไส้ด้วยโพลีเอทิลีนไกลคอล (PEG) และแอสคอร์เบต ปริมาตรต่ำ 1 ลิตร มีประสิทธิภาพการล้างลำไส้สูง เมื่อเทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท (CITRAFLEET(R)) และสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตร (MOVIPREP(R)) ตามลำดับ จากการประเมินของแพทย์ผู้ส่องกล้องตรวจลำไส้ [1],[2] นอกจากนี้ ข้อมูลจากการวิจัย DAYB ยังแสดงให้เห็นว่า PLENVU(R) มีอัตราการล้างสำไส้ในระดับเพียงพอที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตามเกณฑ์วัด Boston Bowel Preparation Score เมื่อเทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท [3]
ประสิทธิภาพการล้างสูง:
- ในลำไส้ใหญ่โดยรวม (73.3% เทียบกับ 60.9%, P=0.003)[1]
- มีประสิทธิภาพสูงในการล้างไส้ใหญ่ส่วนขึ้น (ascending colon) (36.3% เทียบกับ 15.4%, P<0.001)[1]
- ในการวิจัย MORA เมื่อเทียบกับการล้างลำไส้ด้วยสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตร (MOVIPREP(R)) ตามมาตรฐานแล้ว PLENVU(R) แสดงอัตราที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
- อัตราการล้างลำไส้ใหญ่โดยรวมเมื่อบริหารยาแยกเช้า/เย็น (97.0% เทียบกับ 90.9%, P=0.003)[2]
- อัตราการล้างที่มีประสิทธิภาพสูงในไส้ใหญ่ส่วนขึ้นเมื่อบริหารยาแยกข้ามคืน (74.8% เทียบกับ 60.9%, P<0.001) หรือให้ตอนเช้าเวลาเดียว (75.8% เทียบกับ 60.9%, P<0.001)[2]
อัตราการล้างดีขึ้น (ตามเกณฑ์ Boston Bowel Preparation Scale) ในการให้ยาตอนเย็นเพียงเวลาเดียว เมื่อเทียบกับการล้างลำไส้ด้วยโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท
- PLENVU(R) มีอัตราการล้างลำไส้ในระดับเพียงพอที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในลำไส้ใหญ่โดยรวม (61.9% เทียบกับ 47.3%, P=0.001) และไส้ใหญ่ส่วนขึ้น (66.9% เทียบกับ 50.2%, P<0.001) ในกลุ่มผู้ป่วยตามเกณฑ์ Boston Bowel Preparation Scale[3]
PLENVU(R) ยังแสดงคุณสมบัติการทนต่อยาในการวิจัย เมื่อเทียบกับสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตรตามมาตรฐาน รวมถึงโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท และไทรซัลเฟต [4],[5],[6]
ดร. อลาสแตร์ เบ็นบาว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพัฒนาและการแพทย์ของ Norgine กล่าวว่า "ข้อมูลระยะ Phase III เหล่านี้ยืนยันถึงศักยภาพของยาสำหรับการเตรียมลำไส้ปริมาตรต่ำอย่าง PLENVU(R) เพื่อเข้ามาแทนที่ยาเตรียมลำไส้ระดับมาตรฐาน โดยการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) ถือเป็นวิธีการตรวจคัดกรองลำไส้ใหญ่ที่ได้ผลที่สุดอย่างหนึ่ง ดังนั้นการใช้ยาเตรียมลำไส้ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่น PLENVU(R) จึงมีความสำคัญ เพื่อให้ตรวจจับเนื้องอกต่อม (adenoma) และติ่งเนื้อ (polyp) ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยยกระดับผลลัพธ์ในการรักษาผู้ป่วย และประหยัดทรัพยากรในระบบการแพทย์"
ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการนำเสนอที่งานสัปดาห์โรคระบบทางเดินอาหาร (Digestive Diseases Week) วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2560 ที่เมืองชิคาโก
โครงการทดลองเชิงคลินิก PLENVU(R) Phase III ประกอบด้วยโครงการวิจัยแบบคู่ขนานที่ดำเนินการพร้อมกันหลายศูนย์ 3 โครงการ ได้แก่ NOCT, MORA และ DAYB
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับสองในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นๆ โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นถึง 412,000 คนในยุโรป และ 136,115 คนในสหรัฐอเมริกา[7],[8]
- ประสิทธิภาพในการเตรียมลำไส้ของ NER1006 เทียบกับสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตรตามมาตรฐาน จากการประเมินของแพทย์ส่องกล้อง: การวิเคราะห์หลังการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม Poster Sa1096
- ประสิทธิภาพในการเตรียมลำไส้ของ NER1006 เทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท จากการประเมินของแพทย์ส่องกล้อง: การวิเคราะห์หลังการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม Poster Sa1109
- การบรรลุอัตราการเตรียมลำไส้ในระดับเพียงพอ ด้วยการให้ยา NER1006 ช่วงเย็นเวลาเดียว เทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท: การวิเคราะห์หลังการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม Poster Sa1120
- NER1006 มีประสิทธิภาพในการล้างสูงในกลุ่มผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน จากผลการวิเคราะห์กลุ่มวิจัยย่อยในการทดลอง Phase 3 แบบสุ่ม Poster Sa1110
เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 Norgine ได้ทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิกับ Valeant Pharmaceuticals เพื่อการพัฒนาและทำการตลาด PLENVU(R) ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ http://www.norgine.com
1. Lewis S. และคณะ ประสิทธิภาพในการเตรียมลำไส้ของ NER1006 เทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท จากการประเมินของแพทย์ส่องกล้อง: การวิเคราะห์หลังการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม Sa1109 ที่งาน Digestive Diseases Week วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2560
2. Manning, J. และคณะ ประสิทธิภาพในการเตรียมลำไส้ของ NER1006 เทียบกับสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตรตามมาตรฐาน จากการประเมินของแพทย์ส่องกล้อง: การวิเคราะห์หลังการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม Sa1096 ที่งาน Digestive Diseases Week วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2560
3. Hassan, C. และคณะ การบรรลุอัตราการเตรียมลำไส้ในระดับเพียงพอ ด้วยการให้ยา NER1006 แบบ day before เทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท: การวิเคราะห์หลังการทดลอง Phase 3 Sa1120 ที่งาน Digestive Diseases Week วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2560
4. Bisschops R และคณะ P0179 ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ NER1006 ยาเตรียมลำไส้ด้วยโพลีเอทิลีนไกลคอลและแอสคอร์เบตปริมาตรใหม่ 1 ลิตร เทียบกับสารโพลีเอทิลีนไกลคอลร่วมกับแอสคอร์เบตปริมาตร 2 ลิตรตามมาตรฐานเดิม ในการบริหารยาแยกข้ามคืนหรือช่วงเช้า: ผลการวิจัยจากโครงการ MORA ใน Phase 3 วารสาร UEG Journal 2016; 4(Suppl1): A218 - A219
6. Schreiber และคณะ P1266 ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ NER1006 ยาเตรียมลำไส้ด้วยโพลีเอทิลีนไกลคอลและแอสคอร์เบตปริมาตรใหม่ 1 ลิตร เทียบกับการใช้ยาโซเดียมพิโคซัลเฟตร่วมกับแมกนีเซียมซิเตรท ในการบริหารยาแยกแบบ day before: ผลการวิจัยจากโครงการ DAYB ใน Phase 3 วารสาร UEG Journal 2016; 4(Suppl1): A589-A590
8. สถิติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปี 2556 โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค https://www.cdc.gov/cancer/colorectal/statistics/ [วันที่ 25 เมษายน 2560]
Isabelle Jouin, โทร. +44(0)1895-453643
Charlotte Andrews, โทร. +44-(0)1895-453607
ติดตามเราทาง @norgine
ที่มา: Norgine B.V.
WAYCEN เข้าร่วมงาน "TAGE Therapeutics 2025" ที่พัทยา ประเทศไทย เผยโฉม เวอร์ชันล่าสุดของ AI ส่องกล้อง "WAYMED ENDO"
โรงพยาบาล ม.พะเยา ร่วมกับสมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารฯ ส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ฟรี! ยกระดับป้องกันความเสี่ยง สร้างสุขภาพดีให้คนพะเยา
เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ผ่านกล้องส่องทางเดินอาหาร (EUS) มองลึก ทะลุผนัง เก็บชิ้นเนื้อได้แม่นยำ
รพ.เมดพาร์ค ชูแคมเปญใหม่ ชวนประชาชน ตรวจคัดกรองมะเร็งระบบทางอาหาร
หน่วยส่องกล้องทางเดินอาหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก American Society for Gastrointestinal Endoscopy เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ภัยร้ายที่มักพบเมื่อสาย…แพทย์ รพ.วิมุต ชี้ "ส่องกล้องลำไส้ใหญ่" จำเป็น ย้ำอายุ 45 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองแม้ไม่มีอาการ
ตรวจส่องกล้องทางเดินอาหาร จำเป็นไหม ใครควรตรวจ?
เนเจอร์ ไบโอเทค ร่วมแสดงความยินดีกับโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
เคลียร์ชัดทุกปัญหา วินิจฉัยตรงจุด ด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่