สสว.เดินหน้า “โครงการสินเชื่อประชารัฐ เพื่อ Micro SME” ช่วยเอสเอ็มอีรายย่อยและวิสาหกิจชุมชนรายละ 2 แสนบาทโดยไม่มีดอกเบี้ย ระยะเวลา 10 ปี และปลอดเงินต้น 3 ปีแรก ยื่นคำขอแล้วสามารถอนุมัติได้ภายใน 7 วันทำการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( สสว.)กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว และรับคำขอสินเชื่อประชารัฐ เพื่อ Micro SME (Micro SME Loan) สรุปดังนี้
          คณะกรรมการสานพลังประชารัฐกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมและช่วยเหลือ Micro SME ที่สสว. นำเสนอใน 2 ด้านหลัก ซึ่งมาตรการทั้ง 2 ด้านนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอุตตมะ สาวนายน ประธานอนุกรรมการของ สสว.แล้ว มีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้

1. การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน

          สสว. จะจัดสรรเงินจากกองทุนฟื้นฟู SME วงเงิน 2,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลมอบหมายให้ สสว. ดำเนินการ มาปล่อยกู้ให้แก่SME รายย่อย (Micro SME) และวิสาหกิจชุมชน รายละไม่เกิน 2 แสนบาท โดยไม่ต้องมีหลักประกันและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเงินกู้ระยะยาว 10 ปี เพื่อให้กิจการรายย่อยนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือปรับปรุงกิจการ
สสว.ได้ปรับปรุงวิธีการปล่อยกู้ให้รวดเร็วขึ้นในลักษณะเดียวกันกับ Program Lending ที่สถาบันการเงินใช้ในการให้สินเชื่อcredit card หรือ personal loan โดย สสว. ตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามอนุมัติเงินกู้ให้ได้ภายใน 7 วันทำการ นับตั้งแต่ผู้ประกอบการยื่นคำขอกู้ และได้พยายามจัดขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินกู้ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะ สสว. ตระหนักดี ว่า ผู้ประกอบการรายย่อยมักประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียน

คุณสมบัติของผู้ประกอบการรายย่อย และวิสาหกิจชุมชนที่สามารถขอกู้ได้คือ
          1) มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งหรือมีการจดทะเบียนการค้า หรือทะเบียนพาณิชย์ หรือทะเบียนอื่นใดกับหน่วยงานราชการโดยอาจจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือนิติบุคคลก็ได้
          2) ดำเนินกิจการแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี และมีความตั้งใจที่จะดำเนินกิจการต่อไป
          3) เป็นลูกค้าของสถาบันการเงิน ซึ่งมีความหมายกว้าง ครอบคลุมคือ ธนาคารทุกประเภท กิจการ Non Bank ทุกประเภท เช่น ลิสซิ่ง บัตรเครดิต Nano Finance เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการอาจจะเป็นลูกค้าปกติที่สามารถจ่ายชำระได้ หรือเป็นNPL ก็ได้
ในเบื้องต้น ได้จัดสรรวงเงินให้กู้ยืม แก่ SME รายย่อยและวิสาหกิจชุมชนไว้ 500 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ 2,500 ราย หากมีความจำเป็น สสว. จะพยายามหาเงินมาเพิ่มเติม

2.การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

          เพื่อให้กิจการรายย่อย สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน และมีโอกาสจะขยายตัวได้ตามศักยภาพ สสว.ได้จัดงบประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีใน 3 เรื่องคือ
          1) การให้ความรู้ด้านการตลาด แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเฉพาะการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อผู้ประกอบการจะมีความเข้าใจว่า ควรจะปรับปรุงสินค้า/บริการ อย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในเขตเมือง ในกรณีที่ต้องมีการปรับปรุง สสว. จะหาโครงการอื่นเข้ามารองรับต่อไป
          2) การยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ถูกสุขอนามัยไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สสว. จะดำเนินการในเรื่องนี้ร่วมกับ อย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และบริษัท Central Labซึ่งเป็นบริษัทลูกของ สสว. กับกระทรวงการคลัง โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
          3) จูงใจให้ทำบัญชีอย่างถูกต้อง
เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสินค้า/บริการเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่แล้ว และมีความต้องการที่จะขยายกิจการ ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง สสว. จะจัดดำเนินการร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

          พร้อมกันนี้ได้มีผู้ประกอบการรายย่อยจำนวน 40 ราย จาก 7 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ชุมพร เพชรบุรี ชัยนาท สระบุรี และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ส่งสินค้าเข้าไปขายในร้านค้าประชารัฐสุขใจ shop จำนวน 406ราย จาก 31 จังหวัด รวมเป็นผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 446 ราย ที่ให้ความสนใจมายื่นคำขอกู้เงิน ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้กรอกแบบฟอร์มขอกู้เงิน และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอนุมัติเป็นล็อตแรก วงเงินสินเชื่อ 89.2 ล้านบาท
สสว.เดินหน้า “โครงการสินเชื่อประชารัฐ เพื่อ Micro SME” ช่วยเอสเอ็มอีรายย่อยและวิสาหกิจชุมชนรายละ 2 แสนบาทโดยไม่มีดอกเบี้ย ระยะเวลา 10 ปี และปลอดเงินต้น 3 ปีแรก ยื่นคำขอแล้วสามารถอนุมัติได้ภายใน 7 วันทำการ
 

ข่าวสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม+สมคิด จาตุศรีพิทักษ์วันนี้

เริ่มแล้ว! Kind + Jugend ASEAN 2025 งานแสดงสินค้าสำหรับแม่และเด็กระดับภูมิภาค ดันผู้ประกอบการไทย อาเซียนสู่ตลาดโลก

งานแสดงสินค้านานาชาติ Kind Jugend ASEAN 2025 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยมีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสินค้าแม่และเด็กในภูมิภาคอาเซียนสู่ตลาดโลก ภายใต้ความร่วมมือจาก Koelnmesse เยอรมนี และพันธมิตรระดับชาติ อาทิ หอการค้าไทย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในปีนี้ Kind

สสว. ร่วมกับ มธ. จัดกิจกรรมโรดโชว์ รับสมั... สสว. ร่วมมือ มธ. เฟ้นหาสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 17 หวังดันเศรษฐกิจขยายตัวกว่า 100 ลบ. — สสว. ร่วมกับ มธ. จัดกิจกรรมโรดโชว์ รับสมัครผู้ประกอบการ MSME 5...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคา... SME D Bank ลุยโครงการเติมความรู้บัญชีภาษี ปูทางพาเอสเอ็มอีถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเพียง 3%ต่อปี — นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนา...