จากเสียงสะท้อนข้างต้นทำให้เห็นว่า "น้ำ" เป็นปัจจัยสำคัญพื้นฐานในการดำรงชีวิต หากขาดน้ำจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ดังเช่นโรงเรียนในจังหวัดน่านที่เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนด้อยโอกาสของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้จนทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนในวันที่ไม่มีน้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาที่ไม่ต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เล็งเห็นถึงผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมมือกับภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือและดำเนินโครงการ "ผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจากประปาภูเขาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์" ใน 3 โรงเรียน 3 อำเภอ ของจังหวัดน่าน ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านร่มเกล้า อำเภอแม่จริม, โรงเรียนบ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา และโรงเรียนราษฎร์รัฐพัฒนา อำเภอสันติสุข ที่สอดคล้องกับความต้องการ และสภาพปัญหาของชุมชน
นายฟิลิป แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เมื่อทีมงานลงสำรวจพื้นที่แล้วพบว่าโรงเรียนทั้ง 3 แห่งประสบปัญหาหลักคือขาดแคลนน้ำสะอาด ทำให้ต้องไปซื้อน้ำ จึงมีค่าใช้จ่ายสูง เรามองว่าต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้ ก่อนที่เราจะให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เพราะเรื่องน้ำ โดยเฉพาะน้ำดื่มที่ไม่สะอาด และมีสารปนเปื้อน จะนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพอีกมากมาย ถ้าเราไม่แก้ไขเรื่องคุณภาพชีวิตเบื้องต้นนี้ให้ได้ก่อน เราจะไม่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านอื่น ๆ ต่อได้เลย อินทัชจึงเข้ามาจัดทำระบบน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจากประปาภูเขาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เริ่มจากการวางท่อส่งน้ำเพื่อนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาสู่โรงเก็บน้ำที่สร้างขึ้น โดยที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างและดูแลท่อส่งน้ำที่ผ่านในพื้นที่บ้านและเรือกสวนไร่นาของตัวเอง โรงเก็บน้ำที่สร้างขึ้นมีขนาดความจุ 12,000 ลิตร และส่งต่อน้ำไปยังโรงกรองน้ำดื่มด้วยเครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาเป็นพลังงานทดแทนพลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ลดต้นทุนการผลิตน้ำ และเป็นพลังงานทดแทนที่สะอาด ไม่สร้างมลภาวะที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม"
"สำหรับน้ำที่ได้จากโครงการผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าสามารถนำไปบริโภคได้อย่างปลอดภัย ลดปัญหาโรคภัยต่างๆ ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยโครงการฯ สามารถผลิตน้ำดื่มได้ 6,000 ลิตร/วัน ให้บริการแก่นักเรียน ชุมชน รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอ และยังมีรายได้เสริมจากการบริหารจัดการน้ำให้ชาวบ้านซื้อน้ำได้ในราคาถูกด้วย เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างโรงเรียนและชุมชนช่วยให้พวกเขาสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง เรื่องของรายได้เสริมนั้นต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำที่ทุกคนสามารถซื้อได้ในราคาถูกนั้นคือ 3 ลิตรในราคา 1 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ใครๆ ก็ซื้อได้ แต่ถามว่าทำไมจึงยังต้องคิดสตางค์ คำตอบคือ เพื่อนำเงินที่ได้กลับมาใช้ในการบำรุงรักษาระบบกรองน้ำต่อในระยะยาว" นายฟิลิป กล่าวเพิ่มเติม
นายสงวน แซ่โซ้ง อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 บ้านร่มเกล้า ถ่ายทอดความรู้สึกว่า "ด้วยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดน่านที่เป็นภูเขาสูง เป็นพื้นที่ทุรกันดารและประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูที่ขาดฝน ทำให้ชาวเขาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ รวมทั้ง น้ำที่มีอยู่ในธรรมชาติยังปนเปื้อนด้วยสารเคมีที่มาจากการทำการเกษตร ซึ่งชาวบ้านนำน้ำมาดื่มโดยไม่ผ่านการกรองทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ท้องร่วง เป็นโรคไต และเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การที่อินทัช เข้ามาทำระบบกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพทำให้คุณภาพชีวิตของลูกบ้านหลังจากนี้จะมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหารลดน้อยลง นอกจากนี้ ในทุกๆ เดือน ผมยังพยายามแนะนำ และให้ความรู้กับชาวบ้านให้เห็นถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำที่สะอาดเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้นอีกด้วย"
หลังจากแก้ปัญหาน้ำสะอาดสำหรับดื่มและใช้ให้แก่ชุมชนแล้ว อินทัชยังพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง โดยนำศักยภาพของบริษัทในกลุ่มอินทัชมาบูรณาการและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนเพื่อเชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวคิด "Connecting Thais for Sustainable Growth" ที่ได้วางไว้ในปี 2560 เริ่มด้วยความเชี่ยวชาญในเรื่องของระบบเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วยการเข้าไปติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารสำหรับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงช่วยให้โรงเรียนและเด็กนักเรียนในการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการสื่อสารและการศึกษา พร้อมทั้งติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและ AIS PLAYBOX ให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์และเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ รวมถึงสนับสนุนการติดตั้งจาน DTV ไทยคิดไทยคม เพื่อการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม มอบทุนในการดำเนินโครงการต่าง ๆ แก่โรงเรียน รวมทั้งมอบตู้หนังสือและสื่อการเรียนการสอน
นอกจากนี้ อินทัชยังได้รับการสนับสนุนด้านอื่น ๆ จากหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ทั้งสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี และภาคเอกชนรายอื่น ๆ ที่ยินดีและเต็มใจสนับสนุนอย่างเต็มที่จนทำให้โครงการนี้แล้วเสร็จออกมาเป็นรูปธรรม ช่วยให้นักเรียน บุคลากรของโรงเรียน และผู้คนในชุมชนใกล้เคียงมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค เข้าถึงระบบการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว ได้รับสาระความรู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีทางไกลผ่านดาวเทียม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการปฏิรูประบบการศึกษาที่ต้องการส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยได้รับโอกาสในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างทั่วถึง รวมทั้งเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ขององค์การสหประชาชาติในด้านการจัดการน้ำและสุขาภิบาล, การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และการได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน
อินทัชและบริษัทในเครือภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุน เชื่อมต่อ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
SUPER จับมือ NMB ลุยโซลาร์-แบตเตอรี่ ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 341.15 เมกะวัตต์ เดินหน้าพลังงานสะอาด เพื่อ Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions
JARTON ร่วมกับ depa ส่งมอบเทคโนโลยีอัจฉริยะ ลงพื้นที่ติดตั้งจริง
"ทานตะวันอุตสาหกรรม" พลิกโฉมหลังคา สู่แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยกำลังผลิต 3.45 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ดันอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
JARTON ร่วมโครงการ OTOD AI แจกฟรี! กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ
SKYWORTH PV จับมือ Solve System ลงนาม MOU พัฒนาโครงการโซลาร์ 120MW และโซลาร์โฮม 30MW ในไทย
อีกก้าวแห่งความสำเร็จ! EGCO Group ลงทุน 49% โรงไฟฟ้าโซลาร์ "Wheatsborough Solar" สหรัฐฯ เสริมพอร์ตพลังงานสะอาดระดับโลก
ภาพข่าว: อ.ส.พ. จัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2560
ภาพข่าว: รองนายก ฯ ส่งมอบโครงการผลิตน้ำ