นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ใช้รถใช้ถนนยึดการปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" ดังนี้ 4 ห้าม ได้แก่ 1. ห้ามขับรถเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง รวมถึงลดความเร็วลงเมื่อขับผ่านชุมชน เส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ หรือทัศนวิสัยไม่ดี หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถหยุดรถได้ทัน 2. ห้ามเมาแล้วขับ โดยไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลงและไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัย หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรให้ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขับรถแทน ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถโดยสารสาธารณะ กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทาง ควรรอจนสร่างเมาค่อยขับรถกลับบ้าน 3. ห้ามโทรแล้วขับรถ โดยไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เนื่องจากต้องละสายตาจากเส้นทาง จึงส่งผลต่อสมาธิและประสิทธิภาพในการขับรถ หากจำเป็นให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ แต่ไม่ควรคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หรือให้เพื่อนที่ร่วมเดินทางรับโทรศัพท์แทน 4. ง่วงห้ามขับ ควรหยุดพักรถทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร โดยจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถหรือพักหลับประมาณ 10 – 15 นาที ห้ามฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 2 ต้อง ได้แก่ 1. ต้องสวมหมวกนิรภัย ทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ พร้อมคาดสายรัดคางให้กระชับ เพื่อป้องกันหมวกหลุดเมื่อประสบอุบัติเหตุ รวมถึงใช้ความเร็วในการขับรถไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นระดับความเร็วที่หมวกนิรภัยสามารถรองรับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ 2.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้งที่เดินทาง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธี โดยให้สายเข็มขัดพาดผ่านสะโพกและหัวไหล่ พร้อมปรับระดับความตึงให้กระชับ สายไม่พลิกหรือบิดงอ จะช่วยฉุดรั้งผู้ประสบเหตุมิให้กระแทกกับอุปกรณ์ต่างๆ หรือผู้โดยสารอื่นภายในรถ ทั้งนี้ การปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด การมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน และการมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมด้วยความสุขและถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
สงกรานต์นี้ เดินทางอย่างไร้กังวล! FWD ประกันชีวิต แจกประกันอุบัติเหตุฟรี 30,000 สิทธิ์
มท.1 มอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชน ตามโครงการ "มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน" ในพื้นจังหวัดกาญจนบุรี
สกสว.พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางรับมือเอลนีโญ สานทัพมหาดไทยหนุนทำแผนปฏิบัติการ
ไทยเบฟ สนับสนุนทีม USAR ช่วยเหลือแผ่นดินไหวตุรกี
ปิดท้ายคาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก" ส่งต่อ "การให้" ที่ยั่งยืน กับโครงการ "ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 23" สู่พี่น้องชาวพะเยา
LINE ประเทศไทย เปิดตัว LINE ALERT บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรง นำร่องความร่วมมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ และกรมอุตุนิยมวิทยาฯ
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา