“หมอวิชัย”ส่งสัญญาณเดินหน้า IFEC

18 Apr 2017
"หมอวิชัย"ส่งสัญญาณเดินหน้า IFEC พลังงาน+ไอทีรองรับSmart City

ถึงเวลาก้าวข้ามปัญหา สู่โหมดเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจแล้ว สำหรับบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือไอเฟค หลังจากเมื่อ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารหรือ บอร์ด ไอเฟคร่วมประชุมและมีข้อตกลงร่วมกันว่า จะยุติการให้ข่าวที่มีผลกระทบกับบริษัท เพื่อเดินหน้าต่อไป

"นพ.วิชัย ถาวรวัฒนยงค์" ประธานกรรมการบริหารไอเฟค แสดงความยินดี กับผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัททุกภาคส่วน หลังจากที่กรรมการทุกคนมีข้อตกลงร่วมกันว่า จะมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทอย่างเต็มที่และส่วนตัวก็พร้อมยืนยันว่า จะนำพาไอเฟคสู่ความเป็นผู้นำในธุริจพลังงานทดแทนครบวงจรซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทย แต่บริษัทแห่งนี้จะก้าวสู่บริษัทชั้นนำในอาเซียน

ปัจจุบันทุกคนรับรู้แล้วว่า พลังงานทดแทนเป็นแนวโน้มของโลก ทุกประเทศต่างก็ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จึงส่งเสริมให้เกิดพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั้นย่อมหมายถึงโอกาสทางธุรกิจด้วย

"นพ.วิชัย"ประกาศเป้าหมายบริษัท ในปี 2560 ว่า ต้องดำเนินการ 2 เรื่องไปพร้อมๆกัน คือ 1. ปรับโครงสร้างหนี้ที่มีอยู่อย่างเหมาะสม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 2. มุ่งพัฒนาธุรกิจพลังงานสร้างรายได้ เข้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

"ไอเฟค มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ปัญหาหนี้สิน เพียงแต่ต้องทำให้เป็นระบบและโปร่งใส ขณะที่โอกาสทางธุรกิจมีมหาศาล เรามั่นใจว่าจะก้าวผ่านปัญหาทั้งหมดไปได้"

สำหรับโปรเจคใหม่ๆ ระหว่างนี้มีการหารือกับพันธมิตรต่างประเทศหลายแห่ง ทั้ง จีน เกาหลี ออสเตรเลีย แต่ที่น่าสนใจคือ การเปิดโครงการโซล่า ฟาร์ม หน่วยงานราชการและสหกรณ์ครั้งใหม่ ซึ่งครั้งที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการยกเลิก ไอเฟค เคยยื่นเสนอตัวเข้าไป และมีแน้วโน้มที่ดี ดังนั้นครั้งนี้บริษัทฯ จึงมีความพร้อมอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ไอเฟคได้วางวิชั่นระยะกลางและยาว เข้าสู่ยุค 4.0 หรือเรียกว่า "พลังงาน 4.0" หมายถึงยุคที่พลังงานจะผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสอดคล้องกับแน้วโน้มพัฒนาเมืองอัฉริยะ (Smart City) ที่ทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กำลังมุ่งมั่นพัฒนาอยู่ในขณะนี้

สำหรับคอนเซ็ปท์เมืองอัฉริยะ คือการผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ากับสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของชาวเมือง ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การเดินทาง ที่อยู่อาศัย พลังงาน และอื่นๆ บนฐานที่ต้องอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อมซึ่งขณะนี้หลายประเทศที่ดำเนินการแล้ว เช่น อังกฤษ ที่เมืองเซาท์แธมป์ตัน เมื่อสตอกโฮม เยอรมันนี เป็นต้น ส่วนประเทศไทยรัฐบาลวางแผนดำเนินการที่ เชียงใหม่ ภูเก็ต

หมอวิชัย บอกว่า ไอเฟค มีความพร้อมที่จะเข้าสู่ธุรกิจอุตสาหกรรม ที่รองรับ Smart City เช่น ขณะนี้ได้เริ่มวางแผนเข้าสู่โครงการ Smart Grid ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัฉริยะ ซึ่งเป็นการปรับความสมดุลย์การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสูญเสียพลังงานน้อยที่สุด การเข้าสู่ธุรกิจมิเตอร์อัฉริยะ ทั้งมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์น้ำประปา เป็นต้น

"อนาคตประเทศไทยจะใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างแค่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลกำลังสนับสนุน ดังนั้นหน่วยธุรกิจที่จะมารองรับความต้องการนี้ จะเติบโตขึ้นอีกมาก นี้คือวิชั่นของเรา"

หมอวิชัย บอกอีกว่า สิ่งที่ตกลงกันในวันประชุมกรรมการ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีหลายเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังก้าวต่อเพื่ออนาคต ต้องขอบคุณ กรรมการทุกคน รวมทั้ง คุณทวิช เตชะนาวากุล ที่บอกในที่ประชุมชัดเจนว่า จะยุติการให้ข่าวที่จะกระทบกับบริษัท พร้อมทั้งจะเสนอแผนงานต่างๆ เข้าสู่คณะกรรมการ เช่นแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ดังนั้นจึงเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทเดินหน้าอย่างเต็มศักยภาพและต่อจากนี้คงต้องเรียนรู้อดีตและก้าวไปสู่อนาคตด้วยกัน

ขณะที่ "แผนธุรกิจพลังงานทดแทนครบวงจร" ที่จะเดินหน้าไอเฟคไปสู่ความเป็น "ผู้นำอาเซียน" ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญ ในการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นไอเฟคให้กลับคืนมาอีกเช่นเดียวกัน

"ผมเชื่อว่าไอเฟค จะเดินหน้าไปอย่างมั่นคง เพราะวันนี้ทุกคนต่างก็ทำเพื่อผู้ถือหุ้น ส่วนตัวผมในฐานะผู้ก่อตั้งไอเฟค แม้ที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาขึ้นมากมาย ผมก็ยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อจัดการกับปัญหาทั้งหมด ก็ไม่เคยคิดสักนิดเดียวที่จะออกจากบ้านหลังนี้ ขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่า เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน" หมอวิชัย กล่าว