นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้บางจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันปกคลุม และมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการ 65 จังหวัดเสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเชิงรุกอย่างเข้มข้น โดยจัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และอำเภอ เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ พร้อมแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบในการบูรณาการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน พร้อมแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการและมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบใน 3 พื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวน มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก หน่วยทหาร ตำรวจ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยสนับสนุนในการดำเนินการจัดทำแนวป้องกันไฟ จัดกำลังพลลาดตระเวนเฝ้าระวังและระงับเหตุไฟป่า กำจัดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงบริเวณพื้นที่ป่า ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พื้นที่การเกษตรและชุมชน มอบหมายให้ที่ทำการปกครองและสำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ของจังหวัด/อำภอ ภายใต้กลไกของกระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในระดับพื้นที่ พื้นที่ริมทาง มอบหมายแขวงการทาง และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยสนับสนุน โดยเฝ้าระวังไม่ให้มีการเผาและกำจัดเศษวัสดุ ใบไม้แห้งในพื้นที่ริมทาง สำหรับมาตรการควบคุมในช่วงวิกฤต ให้จังหวัดพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะมาตรการเร่งด่วน ให้ใช้วิธีการไถกลบแทนการเผา การใช้สารอินทรีย์ย่อยสลายตอซังข้าว ข้าวโพด หรือเศษวัสดุทางการเกษตร ประกาศเขตห้ามเผาอย่างเด็ดขาด พร้อมระดมอาสาสมัครจัดทำแนวกันไฟ เฝ้าระวังและระงับเหตุไฟป่า รวมถึงประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจในมาตรการคุมเข้มการเผา เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควัน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาบริเวณริมทาง และในเขตชุมชน สำหรับจังหวัดที่มีสนามบินพาณิชย์ให้ประสานงานกับศูนย์ควบคุมการบินอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งสถานการณ์หมอกควัน และวางแผนรองรับกรณีหมอกควันส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยทางอากาศ กรณีเกิดวิกฤตหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน ให้จังหวัดประสานหน่วยงานสาธารณสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจกจ่ายหน้ากากอนามัยและให้คำแนะนำการปฏิบัติตนในช่วงเกิดสถานการณ์หมอกควัน ระดมวัสดุอุปกรณ์ฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองหมอกควันในอากาศ นอกจากนี้ ให้จังหวัดกำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อาทิ การทำสารชีวมวล การทำอาหารสัตว์จากวัสดุการเกษตร การประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่มีโครงการช่วยเหลือสังคม (CSR) สนับสนุนการส่งเสริมการนำองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีมาใช้ในการลดการเผาวัสดุทางการเกษตร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการ "ควบคุมปัญหาไฟป่า" และ "วิกฤตหมอกควันเป็นศูนย์"
กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ