ปภ.เตือน 5 สิ่งของอันตรายที่ไม่ควรจัดเก็บไว้ในห้องโดยสาร...เสี่ยงอันตรายร้ายแรง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน 5 สิ่งของอันตรายที่ไม่ควรจัดเก็บ ในห้องโดยสาร ดังนี้ ไฟแช็ก หากถูกแสงแดดเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการระเบิดได้ กระป๋องสเปรย์ เมื่อถูกความร้อน จะเกิดการระเบิดได้ แบตเตอรี่สำรอง เมื่อได้รับความร้อน ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้ โทรศัพท์มือถือ ความร้อนทำให้วงจรภายในโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และแบตเตอรี่โทรศัพท์เกิดการระเบิด น้ำแข็งแห้ง เมื่อน้ำแข็งแห้งระเหิดจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไอออกไซด์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารหมดสติได้
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ มักจัดเก็บสิ่งของต่างๆ ไว้ในห้องโดยสาร โดยเฉพาะสิ่งของอันตราย หากจัดเก็บไม่ถูกวิธี เมื่อได้รับความร้อนอาจทำให้เกิดระเบิด หรือเพลิงไหม้ ก่อให้เกิดอันตรายได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอเตือนสิ่งของอันตรายที่ไม่ควรจัดเก็บในห้องโดยสาร ดังนี้ ไฟแช็ก หากถูกแสงแดดกระทบเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการระเบิด ที่อาจส่งผลให้กระจกรถยนต์แตกร้าว หากวางไว้บนคอนโซลรถ จะเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้กระป๋องสเปรย์ เมื่อถูกความร้อนจะทำให้วัตถุ สารเคมี และแก๊สในกระป๋องขยายตัว จึงเกิดประกายไฟหรือระเบิดได้แบตเตอรี่สำรอง สารลิเธียมในแบตเตอรี่สำรองเป็นโลหะที่ไวต่อปฏิกิริยาทางเคมี เมื่อได้รับความร้อน อาจทำให้เกิดการลัดวงจร ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้ โทรศัพท์มือถือ ความร้อนทำให้วงจรภายในโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และแบตเตอรี่โทรศัพท์เกิดการระเบิด โดยเฉพาะหากเปิดใช้งาน จะทำให้ความร้อนสูงขึ้น จึงเสี่ยงต่อการระเบิดได้น้ำแข็งแห้ง เมื่อน้ำแข็งแห้งระเบิดจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารหมดสติ เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีช่องระบายอากาศ แยกจากห้องโดยสาร หากเก็บในห้องโดยสาร ควรเปิดกระจกรถ เพื่อระบายอากาศออกสู่ภายนอก ทั้งนี้ สิ่งของหลายประเภทไม่ควรนำมาเก็บไว้ ในห้องโดยสารรถยนต์ เพราะนอกจากจะทำให้สิ่งของเสียหายแล้ว ยังทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายอีกด้วย
 
 

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+ฉัตรชัย พรหมเลิศวันนี้

SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน

SME D Bank ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ "บัวลอย" ในพื้นที่ 18 จังหวัด ตามรายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สิทธิ์พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ช่วยลดภาระทางการเงิน ควบคู่เติมทุนฉุกเฉิน ซ่อมแซมฟื้นฟูให้กิจการกลับมาเดินหน้าได้โดยเร็ว นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารห่วงใยลูกค้าและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากพายุ "บัวลอย"

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...