นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ผู้ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ (Holding Company) เปิดเผยว่า ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 27 กันยายน 2560 โดยใช้ชื่อย่อ 'SSP' ในการซื้อขายและเชื่อว่าจะได้รับความสนใจที่ดีจากนักลงทุน หลังจากที่เสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 276,375,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ในราคาหุ้นละ 7.70 บาท
ปัจจุบันบริษัทฯ รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเสริมสร้าง โซลาร์ ในจังหวัดลพบุรี มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 40 MW กำลังการผลิตติดตั้ง 52 MW ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Non-Firm มีอายุสัญญา 5 ปี และต่ออายุได้คราวละ 5 ปี ซึ่งได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) 6.5 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่เริ่ม COD
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า หลังจากเข้าระดมทุน บริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยและญี่ปุ่นเพิ่มอีก 8โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 122.4 MW และมีปริมาณไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 98 MW แบ่งเป็นโครงการในประเทศไทย ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่เริ่มก่อสร้าง 1 โครงการ คือ โครงการโซลาร์ อผศ. ในจังหวัดราชบุรี ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 5 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้าFeed-in Tariff (FiT) 4.12 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 25 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 4/61
ส่วนในประเทศญี่ปุ่น มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างลงทุนจำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 47 MW ได้แก่ 1.โครงการฮิดะกะ ในจังหวัดฮอกไกโด ปริมาณพลังงงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา17 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 40 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 1/61 และ 2.โครงการยามากะ ในจังหวัดคุมาโมโต้ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 30 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/63
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแต่ยังไม่ก่อสร้าง 2 โครงการ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญารวม 36 MW ได้แก่ 1.โครงการโซเอ็น ในจังหวัดคุมาโมโต้ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 6 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าตามอายุสัญญา 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในไตรมาส 4/61 และ 2.โครงการลีโอ ในจังหวัดชิซุโอกะ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 30 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 2/63
ขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาขั้นต้นอีก 1 โครงการ คือ โครงการยามากะ มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 10.0 MW และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้า FiT 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง คงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/63
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสนใจเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศไทยอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ SNNP 1 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในจังหวัดสมุทรสาคร กำลังการผลิตติดตั้ง 384 กิโลวัตต์ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 460,984 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และโครงการ SNNP 2 ที่อยู่ระหว่างพัฒนาและยังไม่เริ่มก่อสร้างในจังหวัดราชบุรี กำลังการผลิตติดตั้ง 998 กิโลวัตต์ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เสนอขายตามสัญญา 1,122,279 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่อ้างอิงอัตราตามค่าไฟฟ้าฐานขายปลีกจาก กฟภ. และค่า Ft ขายปลีกเฉลี่ย โดยมีบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี คาดว่าทั้ง 2โครงการจะ COD ในไตรมาส 4/60
"เราให้ความสำคัญกับการลงทุนและพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าครบ 200 MW ภายในปี 2563 เพื่อยกระดับสู่บริษัทพลังงานชั้นนำแห่งเอเชีย โดยจะเป็นผู้ผลิตและจัดหาพลังงานที่ยั่งยืนควบคู่กับการส่งเสริมสนับสนุนสิ่งแวดล้อมที่สะอาดอย่างมั่นคงเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม" นายวรุตม์ กล่าว
นายภานพ อังศุสิงห์ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในนามตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของ SSP น่าจะได้รับผลดีจากความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2550-2559) จาก 129,583 ล้านหน่วย เป็น 181,050.5 ล้านหน่วย ในจำนวนนี้ภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.6 ต่อปี รองลงมาคือภาคครัวเรือน
ขณะที่ แนวโน้มความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคต คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยในปี 2558 – 2579 (แผน PDP 2015) ได้ประมาณอัตราการเติบโตเฉลี่ยของความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ร้อยละ 2.7 ต่อปี ดังนั้น แผน PDP 2015 จึงกำหนดแนวทางการจัดสรรกำลังการผลิตไฟฟ้าและกำหนดสัดส่วนเชื้อเพลิงให้มีกำลังการสำรองไม่ต่ำกว่าร้อยละ15.0 ของความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงสุด เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศและกระจายสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงแต่ละชนิดในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
'WASH' ประสบความสำเร็จเสนอขายหุ้น IPO ปักธงเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 3 พ.ย.นี้ ชูจุดเด่นเน้นลงทุน Own store model หนุนสร้าง Recurring Income
IDG เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 80%
IDG ลั่นระฆังเทรด mai 24 ต.ค.นี้ ชูหนึ่งในผู้นำด้านที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ตั้งเป้ารายได้ 3 ปีทะยาน 2 เท่า
IDG ปลื้ม ปิดจอง IPO กระแสตอบรับดีเวอร์!! พร้อมลั่นระฆังเทรดกระดาน mai 24 ต.ค.นี้
บมจ.อินดิจี (IDG) ชวนนักลงทุนร่วมงาน IPO Roadshow 14 ต.ค.นี้ ชูความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร
บมจ.อินดิจี (IDG) มั่นใจใส่เกียร์ลุยขาย IPO 28 ล้านหุ้นปีนี้ เสริมแกร่งธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม
SKIN พร้อมเทรด mai 24 ก.ย. นี้ มั่นใจปี 68 สร้าง New S-Curve
Readyplanet ร่วมบรรยายในโครงการ "mai Growth Lab" เสริมสร้างศักยภาพบริษัทจดทะเบียนกว่า 80 แห่ง สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
SKIN เคาะราคา IPO 1.20 บาท เสนอขาย 44 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อ 15-17 ก.ย.นี้ เดินหน้าเข้าเทรด mai