รัฐ เอกชน ชุมชน ร่วมรำลึกวันทรงราชย์รัชกาลที่ 9 ประกาศจับมือสามัคคีแก้ปัญหาของประเทศตามแนวพระราชดำริ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           ปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รำลึกวันทรงราชย์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยจับมือบูรณาการแก้ปัญหาของประเทศอย่างใกล้ชิด เป็นเอกภาพ ยึดแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนให้ดีขึ้น เริ่มนำร่องใน 10 จังหวัด รวม 42 โครงการครอบคลุมทั้งเรื่องน้ำและส่งเสริมอาชีพ
          ดุสิตธานี – มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้จัดโครงการ "สานต่อ งานพ่อสอน" ขึ้น โดยมีหม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมเสวนาในหัวข้อ "มิติใหม่การบูรณาการสืบสานแนวพระราชดำริ" ท่ามกลางนักธุรกิจและข้าราชการที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
          การเสวนาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 5 หน่วยงานดังกล่าวได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจในอันที่จะทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเน้นความสามัคคีเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนา โดยยึดหลักความต้องการของแต่ละพื้นที่หรือยึดภูมิสังคม
          หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา กล่าวว่า "สานต่อ งานพ่อสอน" มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงของการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้อยการศึกษา และประชาชนในภาคเกษตรถดถอยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาให้รวดเร็วหากไม่เร่งช่วยเหลือ
          อย่างไรก็ดี การพัฒนาที่ได้ผลควรศึกษาแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นแนวทางที่นานาชาติให้การยอมรับ องค์การสหประชาชาตินำไปศึกษาเพื่อปรับใช้ทั่วโลก เพราะการพัฒนาในทางทุนนิยมได้พิสูจน์แล้วว่าทำให้หลายประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
          "จุดเริ่มต้นที่ควรจะทำได้ก่อนคือการหันมาบูรณาการทำงานร่วมกัน เพราะกระทรวงต่างๆมีบุคลากรที่ดี มีงบประมาณ แต่เมื่อต่างคนต่างทำ ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข ชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนอยู่ นี่ก็เป็นพระราชดำรัสพื้นฐานคือสามัคคี ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม"
          นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลังจากการลงนามในบันทึกความเข้าใจแล้ว กระทรวงฯ ได้พิจารณาเลือกจังหวัดต่างๆ ขึ้นมา 10 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบการทำงานร่วมกัน โดยพิจารณาจากความพร้อมในพื้นที่ ทั้งจากภาคราชการและประชาชนที่จะร่วมกันขับเคลื่อนงาน ประกอบด้วย จังหวัดแพร่ ตาก ชัยภูมิ นครราชสีมา สกลนคร ศรีษะเกษ ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และพัทลุง ซึ่งมีทุกกระทรวงและสำนักนายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
          ผลของการบูรณาการเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการตามหลักการที่กำหนดเป็นไปด้วยดี สามารถจัดทำโครงการ/กิจกรรมเพื่อการพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ ใน 10 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 42 โครงการ งบประมาณ 21,133,413 บาท จำแนกเป็นโครงการ/กิจกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 38 โครงการ งบประมาณ 20,101,363 บาท โครงการพัฒนาด้านอาชีพต่อยอดโดยเฉพาะด้านการเกษตร 4 โครงการ งบประมาณ 1,032,050 บาท 
          "พวกเรานำเอาหลักการทรงงานมาประยุกต์ โดยให้ประชาชนในพื้นที่เป็นผู้เสนอปัญหาและแนวทางแก้ไข โดยราชการเข้าไปเป็นเพียงพี่เลี้ยง ส่วนงบประมาณที่จัดสรรนั้นเป็นเพียงบางส่วน และประชาชนต้องเข้ามาร่วมด้วย เช่น เอาแรงงานมาลง ไม่มีการจ้างเหมา เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของที่แท้จริง"
ท้ายที่สุดมีข้อสรุปร่วมกันว่าทุกหน่วยงานจะดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ที่จะทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามเป้าหมายแห่งปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำหลักการพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทาง 
          นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับนโยบาย ดังปรากฎอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และยุทธศาสตร์การบูรณาการการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวางระบบการสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
          ในวันเดียวกันได้มีการจัด "ตลาดนัดความดี" เพื่อเปิดให้ชุมชนและนักธุรกิจได้มาพบและปรึกษาหารือกัน แสวงหาแนวทางที่จะร่วมมือกันพัฒนาชุมชนต่อไปในอนาคต โดยคัดเลือกโครงการจากชุมชนและสถาบันการศึกษาจากทั่วประเทศเข้าร่วม และมีนักธุรกิจจากสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคม The Boss และบริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
รัฐ เอกชน ชุมชน ร่วมรำลึกวันทรงราชย์รัชกาลที่ 9 ประกาศจับมือสามัคคีแก้ปัญหาของประเทศตามแนวพระราชดำริ
 

ข่าวสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ+กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวันนี้

ทีเส็บ จับมือ สกพอ. พร้อมพันธมิตรภาครัฐ เอกชนกว่า 100 หน่วยงาน เปิดงาน EEC EXPO 2025

ทีเส็บ จับมือ สกพอ. พร้อมพันธมิตรภาครัฐ เอกชนกว่า 100 หน่วยงาน เปิดงาน EEC EXPO 2025 เวทีระดับนานาชาติ โชว์ศักยภาพโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีขั้นสูง กลไกสนับสนุนการลงทุนแบบครบวงจร สร้างโอกาสขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่ศูนย์กลางลงทุนแห่งภูมิภาค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน "EEC EXPO 2025 Opportunity for Prosperity" เวทีสำคัญของ EEC เปิดประตูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ

ทีเส็บ จัดงาน MICE Academy Day 2025 ครั้ง... ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการเรียนรู้ไมซ์แห่งอาเซียน — ทีเส็บ จัดงาน MICE Academy Day 2025 ครั้งที่ 7 มุ่งยกระดับพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ เสริมความแข็งแ...

ซอฟต์พาวเวอร์ไทยรุกบนเวทีโลกอย่างต่อเนื่อ... ดึงร้านอาหารไทยทั่วโลกเป็นเครือข่ายเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 13 อุตสาหกรรม — ซอฟต์พาวเวอร์ไทยรุกบนเวทีโลกอย่างต่อเนื่อง เตรียมพบกับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้...

ธรรมรงค์ ช่วยอักษร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มง... เปิดงานอาร์ตทอยนานาชาติ ณ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต — ธรรมรงค์ ช่วยอักษร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอกะทู้ (กลาง) ให้เกียรติเป็นป...