ฟิทช์:พอร์ตการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำของบริษัทประกันชีวิตไทยช่วยสนับสนุนฐานะเงินกองทุนภายใต้กรอบการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงฉบับใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ผลการทดสอบผลกระทบเชิงปริมาณของเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง ระยะที่ 2 ครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าธุรกิจประกันชีวิตไทยจะสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฏหมายให้ทรงตัวไว้ได้แม้ว่าเงื่อนไขของการคำนวณเงินกองทุนใหม่จะมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่อุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิตมีพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวไว้ในรายงานฉบับล่าสุด
          สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฯ ระยะที่สอง (RBC2) สำหรับธุรกิจประกันชีวิตไทยในปี 2562 โดยเพิ่มการคำนวณค่าความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและปรับค่าความเสี่ยงด้านต่างๆที่ใช้คำนวณภายใต้เกณฑ์ปัจจุบัน ซึ่ง คปภ ได้ดำเนินการทดสอบผลกระทบเชิงปริมาณของ RBC2 ต่อบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยแล้ว 2 ครั้งคือในปี 2559 และ 2560 
          ผลการทดสอบในปี 2560 ชี้ว่าอัตราส่วนเงินกองทุนของอุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิตภายใต้เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฉบับใหม่ซึ่งคำนวณ ณ ระดับความเชื่อมั่นที่ระดับ 95% จะมีอัตราส่วนเท่ากับ 342% ซึ่งจะแตกต่างจากอัตราส่วนเงินกองทุนที่คำนวณตามเกณฑ์ปัจจุบันเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามผลการทดสอบนี้ชี้ว่าระดับเงินกองทุนของอุตสาหกรรมอาจลดลงมากหากเกณฑ์และค่าความเสี่ยงที่ใช้คำนวณมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ฟิทช์และผู้มีส่วนร่วมในตลาดรายอื่นๆ คาดว่าระดับความเชื่อมั่นของเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนจะปรับสูงขึ้นเป็นที่ระดับ 97.5% หรือ 99.5% ในอนาคต 
          ผลการทดสอบล่าสุดนี้ยังระบุว่าการปรับค่าความเสี่ยงด้านตลาดเพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากที่สุดต่ออัตราส่วนเงินกองทุนของธุรกิจประกันชีวิตเมื่อเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ โดยหนึ่งในการปรับค่าความเสี่ยงดังกล่าวจะรวมถึงการเพิ่มค่าความเสี่ยงด้านตลาดจากราคาตราสารทุนที่สูงขึ้นเป็นระหว่าง 25%-35% (จากเดิม 16% ภายใต้เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนปัจจุบัน) ซึ่งจะทำให้บริษัทประกันชีวิตต้องดำรงเงินกองทุนเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดในอนาคตได้
          สำหรับในรายบริษัทประกันชีวิตที่มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนั้นจะส่งผลให้ระดับเงินกองทุนของบริษัทดังกล่าวอาจต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม หากเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฉบับใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้ ในกรณีที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขอื่น
          ภาวะผลตอบแทนจากการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทประกันชีวิตหลายแห่งลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเพิ่มเติม เช่น การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นหรือการลงทุนในตราสารทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังอาจเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เช่น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เงินให้กู้ยืมร่วมและเงินให้กู้ยืมที่มีหลักประกัน รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศ แต่ทั้งนี้หากพิจารณาจากค่าความเสี่ยงที่ใช้คำนวณเงินกองทุนเพียงอย่างเดียว ฟิทช์คาดว่าบริษัทประกันชีวิตน่าจะลงทุนใน REIT และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการลงทุนที่ต่ำกว่าการลงทุนในตราสารทุน
          อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าบริษัทประกันชีวิตไทยจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆอย่างระมัดระวังโดยพิจารณาระหว่างผลตอบแทนที่จะได้รับเพิ่มขึ้นกับระดับเงินกองทุนที่จะต้องดำรงเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ใหม่ที่จะบังคับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผลตอบแทนจากการลงทุนยังอยู่ในระดับที่ต่ำต่อเนื่องในขณะที่เกณฑ์การกำกับดูแลอุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทยที่มีการปรับระดับความเข้มงวดให้ใกล้เคียงกับระดับสากลมากขึ้นซึ่งรวมถึงการปรับค่าความเสี่ยงด้านต่างๆ และเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนในระดับที่สูงขึ้น
 
 

ข่าวคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย+ธุรกิจประกันภัยวันนี้

คปภ. ผนึกกำลังจังหวัดปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย ทีดีอาร์ไอ จัดงาน "ปราจีน ยืนหนึ่งถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย"

คปภ. ผนึกกำลังจังหวัดปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย ทีดีอาร์ไอ จัดงาน "ปราจีน ยืนหนึ่งถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย" Kick off พื้นที่ต้นแบบความปลอดภัยทางถนน รณรงค์ พ.ร.บ. ปี 2568 พร้อมจัดเวทีเสวนาถอดรหัส ถนน 304 เสนอบังคับใช้ กม. ออกมาตรการลดเสี่ยง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จังหวัดปราจีนบุรี ภาคธุรกิจประกันภัย และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จัดงาน "ปราจีน ยืนหนึ่ง ถนนปลอดภัย อุ่นใจด้วยการประกันภัย" ภายใต้