บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผย ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ในไตรมาสที่ 3/2560 โดยบริษัทฯโดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA อยู่ 49.1 ล้านบาท ผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่เป็นส่วนของ TTA อยู่ที่ 43.2 ล้านบาท จากการปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกอง อีกทั้งยังมีงบดุลและฐานะทางการเงินที่มั่นคง เนื่องจากมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวสูงถึง 7,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2560
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ""อัตรากำไรของกลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง ปรับตัวดีขึ้น จากการบริหารกองเรืออย่างมีประสิทธิภาพและความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สถานการณ์ตลาดขนส่งสินค้าแห้งเทกองก็ปรับตัวดีขึ้น นอกเหนือจากการใช้กลยุทธ์ในการปรับปรุงกองเรือให้ทันสมัยขึ้น ณ จุดต่ำสุดของวัฏจักรของอุตสาหกรรมเดินเรือ เพื่อใช้ประโยชน์จากการปรับตัวที่มีศักยภาพของอุตสาหกรรม และบรรลุข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญแล้ว กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้งได้ซื้อเรือมือสองจำนวน 2 ลำในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม ปี 2560 ซึ่งเป็นไปตามแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดอายุของกองเรือ หลังจากที่ได้ทำการซื้อเรือมือสองจำนวน 1 ลำ ในช่วงเวลาก่อนหน้าของปีนี้
เราเชื่อว่าธุรกิจขนส่งทางเรือ จะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเพราะอุปสงค์ที่ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอุปทานที่มีอย่างจำกัด
นอกจากนี้ เรากำลังมองหาโอกาสทางธุรกิจต่างๆและยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาจุดแข็งของเราในธุรกิจหลัก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ในส่วนของ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ ยังคงมุ่งเน้นให้มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะต่ออายุสัญญาระยะยาวกับลูกค้ารายสำคัญในภูมิภาคที่กำลังเติบโต เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง""
ธุรกิจขนส่งทางเรือ : โทรีเซน ชิปปิ้ง กรุ๊ป (""TSG"")
กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง ได้มีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยมีมีผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 213.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 627 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อัตราการใช้ประโยชน์ของเรือที่ กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง เป็นเจ้าของยังอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 99 ทั้งนี้รายได้จากการขนส่งสินค้าในไตรมาสที่ 3/2560 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 896.3 ล้านบาทเป็นผลมากจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราค่าระวางเรือ และมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 256.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 214 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาสที่ 3/2560 อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยของกลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง อยู่ที่ 8,288 เหรียญสหรัฐต่อวัน โดยอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยสูงสุดในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 16,465 เหรียญสหรัฐต่อวัน การที่ค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากดัชนีบอลติค (BDI) ได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 1,137 จุด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 เนื่องจากความต้องการแร่เหล็กและถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้นพร้อมกับความต้องการถ?านหินที่ใช้?เป็?นเชื้อเพลิงให้?ความร้?อนในฤดูหนาวของจีน
ตามแผนปรับปรุงกองเรือเพื่อพัฒนากองเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองให้มีความทันสมัยและได้มาตรฐาน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง ได้ซื้อเรือ M.V. Thor Confidence (เอ็ม.วี. ทอร์ คอนฟิเดนซ์) และ M.V. Thor Courage (เอ็ม. วี. ทอร์ เคอริจ) เข้ามาเสริมกองเรือในเดือนกรกฏาคม และ ตุลาคม 2560 ตามลำดับ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2560 กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง เป็นเจ้าของเรือ จำนวน 22 ลำ โดยมีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 53,438 DWT และมีอายุเฉลี่ย 11.92 ปี
โดยสรุป ในไตรมาสที่ 3/2560 กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 74.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 133 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง : บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) (""MML"")
ในไตรมาสที่ 3/2560 กลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ ได้มีงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่างานคงค้าง ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 61 จากไตรมาสก่อน เป็น 174 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีแผนการส่งมอบส่วนใหญ่ในปี 2561
กลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ รายงานผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 69.4 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 39.6 ล้านบาท รายได้รวมของ กลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ ในไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ 976 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 36 จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือในธุรกิจเรือวิศวกรรมใต้ทะเลที่ลดลง
รายได้จากบริการเรือวิศวกรรมใต้ทะเลและบริการวิศวกรรมใต้ทะเลแบบไม่ใช้เรือ มีส่วนแบ่งเป็นร้อยละ 61 และร้อยละ 39 ของรายได้รวมในไตรมาสที่ 3/2560 ตามลำดับ อัตราการใช้ประโยชน์ของเรือในไตรมาสนี้เท่ากับร้อยละ 42
สำหรับธุรกิจเรือขุดเจาะ Jack-up drilling rigs สเปคสูงสามลำของกลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ ดำเนินงานภายใต้บริษัทร่วมมีค่าเฉลี่ยการใช้ประโยชน์สูงถึงร้อยละ 100 ในไตรมาสที่ 3/2560
ส่วนกำไรขั้นต้นปรับตัวลดลงร้อยละ 59 จากไตรมาสก่อน มาเป็น 177.8 ล้านบาท เนื่องจากอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลที่ลดลง สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมมีความเสถียรภาพเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากกลุ่มเมอร์เมด มาริไทม์ ได้รับการต่อสัญญาไปอีก 3 ปี
ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร : บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (""PMTA"")
ในไตรมาสที่ 3/2560 PMTA รายงานกำไรขั้นต้นที่ 215.2 ล้านบาท ถึงแม้ว่าปริมาณการขายจะปรับลดลง แต่ PMTA สามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นไว้ได้ ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องมาจากการมุ่งเน้นพัฒนาตลาดในประเทศ ซึ่งมีอัตรากำไรที่มากกว่าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการบริหารจัดการวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ โดยสัดส่วนการขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68 ในไตรมาสที่ 2/2560 มาเป็นร้อยละ 70 ในไตรมาสที่ 3/2560 PMTA รายงานผลกำไรสุทธิ จำนวน 56.9 ล้านบาท และผลกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 39 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้จากการให้บริการให้เช่าพื้นที่โรงงานในไตรมาสที่ 3/2560 นั้นเป็น 15.4 ล้านบาท ซึ่งความสามารถในการให้เช่ายังคงเต็มพื้นที่อยู่ที่ 100 % PMTA อยู่ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างบาคองโค 5-B และบาคองโค 5-C ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าจำนวน 20,000 ตารางเมตร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
การลงทุนอื่น
การลงทุนอื่น จะมุ่งเน้นที่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการจัดการการขนส่ง ซึ่งกลุ่มการลงทุนอื่นๆ นี้ยังคงไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลกำไรสุทธิรวม
""โดยภาพรวม ตลาดธุรกิจขนส่งทางเรือมีแนวโน้มดีขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรและ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ทางผู้บริหาร TTA จึงคาดว่า ธุรกิจในกลุ่มของ TTA จะเติบโตขึ้นต่อไปในอนาคต"" นายเฉลิมชัย กล่าวสรุป
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ตอกย้ำความมั่นคงทางการเงิน เพียงพอต่อแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ แม้บริษัทฯ ได้ยกเลิกการเพิ่มทุน นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทยเอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ตามงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 TTA มีเงินสดภายใต้การบริหารงานจำนวน 8,521 ล้านบาท และยังมีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที และจากการประ
TTA รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2560 EBITDA อยู่ที่ 611.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 จากไตรมาสแรก
—
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิ...
ภาพข่าว: TTA จับมือ มจธ. ผลักดันผลงานนวัตกรรมสู่ธุรกิจ “สตาร์ทอัพ”
—
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไ...
ภาพข่าว: มจธ.จับมือ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ ร่วมพัฒนางานวิจัย
—
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป...
ภาพข่าว: TTA ยินดีกับ ตลท.
—
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ (ที่สามจากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด ...