โครงการวิจัย All of Us ตั้งเป้าระดมผู้ร่วมโครงการให้ได้ 1 ล้านรายหรือมากกว่านั้น เพื่อเร่งให้เกิดผลงานวิจัยที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันและรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นหลากหลายตามไลฟ์สไตล์แต่ละคน ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยจะใช้ประโยชน์ข้อมูลที่รวบรวม นำมาศึกษาว่าความแตกต่างด้านไลฟ์สไตล์ สิ่งแวดล้อมและลักษณะทางชีวภาพนั้น ส่งผลต่อสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างไร
ส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย All of Us คือกิจกรรมของสถาบัน STSI (Scripps Translational Science Institute) ด้านเวชศาสตร์ปริวรรต ซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้เข้าร่วมโครงการ มีภารกิจในการหาผู้สนใจและสร้างการมีส่วนร่วมจากประชากรที่หลากหลายทั่วประเทศ โดยสถาบันจะมอบฟิตบิทรุ่นชาร์จ 2 (Charge 2) และอัลธ่าเอชอาร์ (Alta HR) รวม 10,000 เครื่องให้แก่อาสาสมัครกลุ่มตัวอย่างในโครงการ All of Us เป็นเวลา 1 ปี เมื่อสิ้นสุดระยะทดลอง นักวิจัยจึงจะให้คำแนะนำว่าจะนำอุปกรณ์ไปใช้กับโครงการ All of Us ในวงกว้างได้อย่างไร
นอกจากนี้ โครงการวิจัยจะทำให้ได้ชุดข้อมูลที่เปิดโอกาสให้ศึกษาต่อยอดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวชี้วัดด้านสุขภาพ อาทิ กิจกรรมการเคลื่อนไหวของร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ และการนอนหลับ กับผลวิจัยด้านสุขภาพสำคัญ ๆ ที่ค้นพบจากโครงการ All of Us ส่วนหนึ่ง
""ด้วยกระแสโลกที่เปลี่ยนไปสู่ยุคการแพทย์แม่นยำ (precision medicine) ข้อมูลจากอุปกรณ์แวร์เอเบิลจึงมีศักยภาพในการให้ข้อมูลการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับแต่ละบุคคลมาก"" นาย อดัม เพลเลกรินี ผู้จัดการทั่วไปของ ฟิตบิท เฮลท์ โซลูชั่นส์ กล่าวและเสริมว่า ""การได้เข้าร่วมโครงการครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะทำให้เห็นว่าข้อมูลฟิตบิทมีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้าใจให้ดีขึ้น เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคน (individualization) ที่มีส่วนช่วยป้องกันและรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ""
คุณสมบัติของอุปกรณ์ฟิตบิท มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักวิจัย
หลังจากที่ได้ประเมินอุปกรณ์แวร์เอเบิลสำหรับผู้บริโภคในตลาด ทีมงานสถาบัน STSI ได้ตัดสินใจเลือกฟิตบิท โดยพิจารณาจากงานศึกษาวิจัยเปรียบเทียบโดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าอุปกรณ์ฟิตบิทเป็นแวร์เอเบิลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการวิจัยด้านสุขภาพทั่วโลก
""อุปกรณ์ฟิตบิทที่คัดเลือกมาใช้ประกอบการศึกษา จะติดตามทั้งกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย การหลับ และตัวแปรเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ"" นาย อีริค โทพอล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของสถาบัน STSI กล่าว ""ด้วยความนิยมของอุปกรณ์ฟิตบิทในหมู่ชาวอเมริกันหลายล้านคน และคุณสมสมบัติที่ใช้งานง่าย รวมทั้งแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานหลายวัน และประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนรุ่นต่าง ๆ ทำให้ฟิตบิทเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการวิจัยนำร่องนี้""
งานวิเคราะห์ชิ้นหนึ่ง1 ที่ตีพิมพ์ในวารสารสหภาพสมาคมอเมริกันเพื่อการทดลองทางชีววิทยา (Federation of American Societies for Experimental Biology: FASEB) ค้นพบว่าอุปกรณ์ฟิตบิทเป็นตัวแทรคเกอร์ที่มีการใช้งานแพร่หลายที่สุดในงานวิจัยด้านชีวการแพทย์ มีทั้งงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว (ร้อยละ 89) การทดลองทางคลินิก (ร้อยละ 83) งานวิจัยที่ได้รับทุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (ร้อยละ 95) ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วมากกว่า 470 ชิ้น2 ที่ใช้อุปกรณ์ฟิตบิท นับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าอุปกรณ์แวร์เอเบิลสำหรับผู้บริโภคแบรนด์อื่น ๆ3 ซึ่งได้รวมการใช้แวร์เอเบิลในงานวิจัยด้านต่าง ๆ อาทิ เบาหวาน สุขภาวะของระบบหัวใจและหลอดเลือด เนื้องอกวิทยา สุขภาพจิต และการฟื้นฟูหลังศัลยกรรม
""สิ่งที่นักวิจัยได้รับทราบ มาจากการบันทึกข้อมูลสุขภาพชั่วขณะในสภาพแวดล้อมที่จัดขึ้น หรือได้มาจากความจำจากการรำลึกของบุคคล โครงการวิจัยนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงกิจกรรมที่ครอบคลุม ข้อมูลการเต้นของหัวใจและการนอนหลับ อาจช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแบบต่าง ๆ และผลพวงด้านสุขภาพ ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งประเด็นสำคัญที่ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย"" นายแพทย์สตีเวน สไตน์ฮูบล์ แพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด และผู้อำนวยการด้านการแพทย์ดิจิทัล แห่งสถาบัน STSI กล่าวทิ้งท้าย
วช. นำเสนอผลงาน ต้นแบบอาคารคาร์บอนต่ำ ในงาน NRCT Talk ยกระดับการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมร่วมกับงานสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงร่วมกิจกรรมบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชน
ส.คช. ร่วมกับ มช. จัดการประชุมช้างแห่งชาติ ประจำปี 2566
Sea (ประเทศไทย) เผยความสำเร็จโครงการ DOTs 2022 ผลักดันผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ พร้อมขับเคลื่อน SME ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
"การีนา" ชูความสำเร็จ โครงการ "Gamer to Coder" ปั้นนักเขียนโปรแกรมรุ่นใหม่ พร้อมประกาศผลผู้ชนะ และมอบรางวัลทุนการศึกษากว่า 100,000 บาท
อบรมหลักสูตร Winning Negotiation Strategies (เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565
อบรมหลักสูตร Winning Negotiation Strategies (เจรจาต่อรองอย่างมีกลยุทธ์) วันที่ 16 สิงหาคม 2565 เวลา 9:00-16:00 น.
NEA ชวนสมัคร "ต้นกล้า ทู โกล 65" รอบสุดท้ายของปีนี้! จัดเต็มความรู้ธุรกิจระหว่างประเทศ