ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
อัตราส่วนหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น: อัตราส่วนหนี้สินของ Makro ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประมาณ 2.0 เท่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มในปี 2560 Makro เริ่มมีการขยายสาขาเป็นจำนวนมากหลังจากที่บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL (A(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ได้เข้าซื้อกิจการของ Makro ในกลางปี 2556 บริษัทฯ มีแผนที่จะลดการขยายจำนวนสาขาขนาดใหญ่ในประเทศและเน้นการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้นในปี 2560-2562 โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าวของ Makro ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.7 เท่า ณ สิ้นเดือนกันยายนปี 2560 จากก่อนการถูกเข้าซื้อกิจการที่บริษัทฯ มีเงินสดมากกว่าหนี้สิน
ผู้นำในธุรกิจค้าส่งประเภทอาหาร: Makro เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ประเภทอาหาร (Modern-Trade Food Wholesale) ในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี Makro มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่น โดย Makro มุ่งจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง รวมถึงลูกค้าที่เป็นองค์กร ซึ่งรายได้จากลูกค้าเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของรายได้รวม "Makro" เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการค้าส่งแบบ Cash & Carry ในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดย CP ALL ได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวนี้ใน 11 ประเทศในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และประเทศจีน จาก SHV Group แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมของ Makro การได้สิทธิดังกล่าวเป็นการสนับสนุนแผนธุรกิจในอนาคตของ Makro ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในการขยายสาขาไปในประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ Makro ยังมีการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองอีกหลายประเภท
อัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องของยอดขาย: ฟิทช์คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายของ Makro น่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 10-11 ต่อปีในปี 2561-2562 หลังจากในปี 2560 ที่น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงมาอยู่ในระดับร้อยละ 8-9 อัตราการเติบโตของยอดขายของ Makro ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายของสาขาที่เปิดใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารวมถึงการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่คาดว่าจะดีขึ้น และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวในประเทศไทย อัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงในปี 2560 น่าจะเป็นผลมาจากการฟื้นตัวที่ล่าช้าของการบริโภคภาคเอกชน นอกจากนี้ Makro ยังมีการปรับกลยุทธ์เพื่อเน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีการเติบโตที่ดี
อัตราส่วนกำไรที่ต่ำแต่มั่นคง: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ Makro อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 5.5 ถึงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นที่มีอัตราส่วนกำไรดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 เนื่องจาก Makro จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรของ Makro มีความผันผวนน้อย เนื่องจากลักษณะธุรกิจของ Makro ที่ขายอาหารเป็นหลัก ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวของ Makro จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.6 ถึง ร้อยละ 5.7 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว: จากการที่ Makro ประกอบธุรกิจค้าส่ง ทำให้ Makro มีการกระจายตัวของจำนวนลูกค้าและจำนวนสาขาน้อยกว่าผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นในตลาด นอกจากนี้ หนึ่งในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Makro ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม มีแนวโน้มที่จะมีจำนวนลดลงในระยะยาว เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของการค้าปลีกแบบดั้งเดิมไปสู่การค้าปลีกสมัยใหม่เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Makro ที่เน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงมากขึ้น น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง
ความเชื่อมโยงกับ CP ALL: ฟิทช์มีความเห็นว่า Makro และ CP ALL มีความเกี่ยวโยงในด้านการดำเนินงาน ในระดับปานกลาง และ Makro มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL ซึ่งฟิทช์จะให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอันดับเครดิตของ CP ALL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro (Stand-alone Credit Profile) ดังนั้นการปรับอันดับเครดิตของ Makro จากอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังจึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ในตอนนี้
การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
Makro มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 25 ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายรวมของกลุ่ม CP ALL ในปี 2559 สถานะทางธุรกิจของ Makro ด้อยกว่า CP ALL ในด้านสถานะทางการตลาดและความเสี่ยงจากการกระจุกตัว Makro มีจำนวนสาขาและจำนวนลูกค้าน้อยกว่า CP ALL มาก รวมถึงมีรายได้และอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม Makro มีอัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำกว่า CP ALL เป็นอย่างมาก ดังนั้นอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro จึงอยู่ในระดับเดียวกับ CP ALL
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (A(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก) มีธุรกิจที่มีความหลากหลายกว่า Makro และมีรายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่สูงกว่า Makro มาก อย่างไรก็ตาม SCC ต้องเผชิญกับธุรกิจที่มีลักษณะเป็นวัฏจักรและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในธุรกิจหลัก ในขณะที่ Makro ได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้าประเภทอาหารและสินค้าที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันที่มีความสม่ำเสมอ รวมถึงมีความผันผวนของรายได้และอัตรากำไรที่ต่ำ นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินของ SCC อยู่ในระดับสูงกว่า Makro ดังนั้นอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro จึงอยู่ในระดับเดียวกับ SCC อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกของ SCC สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่ดีขึ้นจากการขยายธุรกิจและการลงทุนในประเทศอื่นในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้สถานะทางเครดิตของ SCC มีความข็งแกร่งขึ้น เมื่อการลงทุนดังกล่าวเริ่มสร้างกระแสเงินสดที่มีนัยสำคัญ
เช่นเดียวกับ SCC บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC (A(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ต้องเผชิญกับธุรกิจที่มีลักษณะเป็นวัฏจักรและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากธุรกิจหลักซึ่งคือธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (EBITDAR) ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าของ SCCC น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ Makro เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทฯ มีแผนการขยายธุรกิจ Makro ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าแบบขายส่ง มีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ ที่ต่ำกว่า SCCC มาก แต่ SCCC มีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงกว่า Makro หลังจากที่มีการขยายธุรกิจเป็นอย่างมากตั้งแต่ปี 2558 ทั้ง 2 บริษัทฯ มีอันดับเครดิตในระดับเดียวกัน แต่ SCCC มีความยืดหยุ่นในการรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันที่น้อยกว่า
สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ
- การเปิดสาขาที่เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ในประเทศไทยจำนวน 5-6 สาขาต่อปีในปี 2560-2562
- การเปิดสาขาในต่างประเทศ 1 สาขาในปี 2560 และการขยายสาขาในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยค่าใช้จ่ายในการลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปี ในปี 2561-2562
- อัตราการเติบโตของยอดขายที่ร้อยละ 8-9 ต่อปีในปี 2560 และร้อยละ 10-11 ต่อปีในปี 2561-2562
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ อยู่ที่ร้อยละ 5.6-5.7 ในปี 2560-2562
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจำนวน 4 พันล้านบาทถึง 5 พันล้านบาท ในปี 2560 (ไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ Indoguna ที่ชำระเงินไปในครึ่งปีแรกของปี 2560) และประมาณ 7 พันล้านบาทต่อปีในปี 2561-2562 ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในต่างประเทศด้วย
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
• การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ CP ALL
ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro รวมไปถึง:
• การลงทุนที่สูงโดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560: 1.7 เท่า) หรือ
• การลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) มาอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4.5 อย่างต่อเนื่อง (9 เดือนแรกของปี 2560: ร้อยละ 5.6)
ความสามารถในการหาแหล่งเงินกู้ใหม่เพื่อชำระหนี้เดิมช่วยสนับสนุนสภาพคล่อง: Makro มีหนี้สินประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 โดยร้อยละ 81 จะครบชำระคืนในอีก 12 เดือนข้างหน้านับจากสิ้นเดือนกันยายน 2560 สภาพคล่องของ Makro มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 2.4 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2560 และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร วงเงินที่ไม่ผูกพันที่ยังไม่ได้เบิกถอน รวมถึงความสามารถในการออกหุ้นกู้ในตลาดตราสารหนี้
ไวไว...ร่วมงาน "แม็คโคร มหกรรมธุรกิจอาหารประเทศไทย ครั้งที่ 17" ภายใต้แนวคิด "THE NEW POSSIBLE ทุกสิ่งเป็นจริงได้"
'ซีพี แอ็กซ์ตร้า' เข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Large Cap
แม็คโคร จับมือกรมปศุสัตว์ ย้ำเชื่อมั่น "ปศุสัตว์ OK" หนุนบริโภคเนื้อหมูปลอดภัย ตรวจสอบแหล่งที่มาได้
วันสิ่งแวดล้อมโลก แม็คโครชูโครงการพลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ในทุกมิติ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573
แม็คโคร จับมือ กรมปศุสัตว์ และพันธมิตรธุรกิจ มอบผลิตภัณฑ์นมกว่า 20,000 กล่อง แก่เด็กพิการ หนุนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพ รับ "World Milk Day"
ออราเคิลให้บริการระบบบริหารข้อมูลคลังสินค้าอัตโนมัติผ่านคลาวด์ "Oracle Autonomous Data Warehouse" แก่สยามแม็คโครรองรับแผนการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค
"ซีพี โฟตอน" จับมือ "สยามแม็คโคร" ร่วมสร้าง Carbon Neutrality คืนสู่สังคม เล็งปรับทัพยานยนต์สู่การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกไฟฟ้าในอนาคต
'แม็คโคร' เดินหน้าสู่เป้าหมาย สร้างงานสร้างอาชีพ 4 แสนรายในปี 2573 จับมือ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปิดโครงการสร้างงานสร้างอาชีพปี 2566