'เพซ’ ปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่ เดินหน้าลดหนี้และภาระดอกเบี้ย สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมชูแผนธุรกิจสร้างกำไรจาก 'ดีน แอนด์ เดลูก้า’ และ 'จุดชมวิวมหานคร’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          - มีโอกาสบุ๊ครายได้ภายใน 2561 จากการขาย 2 โครงการที่พักอาศัย
          - ตั้งเป้าลด D/E เหลือ 1.5 เท่า หลังเพิ่มทุน RO 3,758 ล้านบาท 
          - ลดภาระดอกเบี้ยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี หลังเพิ่มทุนและขายสองโครงการ
          - ชูแผนขยาย ดีน แอนด์ เดลูก้า โดยใช้พันธมิตรทางธุรกิจและเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ คาเฟ่ขนาดเล็กและผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
          - เตรียมเปิดจุดชมวิวมหานคร ครึ่งแรกปี 2561 พร้อมรับรู้รายได้ทันทีหลังเปิดและต่อเนื่องในระยะยาว

          คณะกรรมการ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE มีมติปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อลดภาระหนี้และดอกเบี้ย รวมทั้งรองรับการขยายธุรกิจ ด้วยการจำหน่ายโครงการที่พักอาศัย และระดมเงินจากการเพิ่มทุน 3,758 ล้านบาทพร้อมโชว์แผนดำเนินธุรกิจ ลดต้นทุน สร้างกำไรระยะยาว ผ่าน ดีน แอนด์ เดลูก้า และจุดชมวิวมหานคร
          นาย สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้วางแผนลดภาระหนี้และดอกเบี้ย ตลอดจนถึงแผนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยแผนในระยะสั้น บริษัทฯ ได้เตรียมปรับโครงสร้างทางการเงินด้วยการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนของบริษัทฯ ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที และเพิ่มทุนจดทะเบียนแบบจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งจะช่วยให้อัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือเพียงประมาณ 1.5 เท่า ซึ่งแผนการดำเนินธุรกิจนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะการเงินของบริษัทฯ"
          โดยแผนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการรับรู้รายได้นั้น ขณะนี้ เพซได้เข้าทำบันทึกความเข้าใจ กับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ในการจำหน่ายโครงการนิมิต หลังสวน ทั้งโครงการ และ ห้องชุดที่ยังเหลือประมาณร้อยละ 25 ของโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ทั้งนี้ โดยปัจจุบันแสนสิริอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบสถานะของทรัพย์สิน (Due Diligence) ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าหากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง และเงื่อนไขข้อกำหนดต่างๆของธุรกรรมเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทฯอาจสามารถรับรู้รายได้จากการขายโครงการดังกล่าวได้ในปี 2561 โดยจะนำเงินสดที่ได้จากการจำหน่ายทั้งสองโครงการนี้ไปลดภาระหนี้ต่อไป
          นอกจากนี้ เพซได้วางแผนที่จะเพิ่มทุนแบบจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 7,516 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่า 3,758 ล้านบาท โดยจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือ Warrant 2 รุ่น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิในการเพิ่มทุนครั้งนี้ รวมเป็นจำนวน 4,009 ล้านหน่วย พร้อมทั้งออกหุ้นเพิ่มทุนแบบจัดสรรหุ้นให้กับบุคคลในวงจำกัด จำนวน 1,500 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะนำไปพัฒนาโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ขยายธุรกิจในอนาคต และชำระหนี้หุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้นได้อย่างมีนัยสำคัญ 
          ด้าน นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะหนึ่งในธนาคารผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินของเพซ กล่าวว่า "ธนาคารไทยพาณิชย์เห็นด้วยกับแผนการปรับสถานะทางการเงินของเพซในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระหนี้ระยะสั้นแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างฐานการเติบโตทางการเงินอย่างยั่งยืน และธนาคารมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนพร้อมกับทำงานร่วมกับเพซต่อไปในอนาคต"
          โดยหลังจากการปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่นี้ เพซจะมีความสามารถในการเดินหน้าขยายธุรกิจโดยเฉพาะสองธุรกิจหลักสำคัญที่จะช่วยสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง คือ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ดีน แอนด์ เดลูก้า และจุดชมวิว มหานคร อ๊อบเซอร์เวชั่น เด็ค
'เพซ’ ปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่ เดินหน้าลดหนี้และภาระดอกเบี้ย สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมชูแผนธุรกิจสร้างกำไรจาก 'ดีน แอนด์ เดลูก้า’ และ 'จุดชมวิวมหานคร’
           ดีน แอนด์ เดลูก้า 
          นายสรพจน์เปิดเผยว่า ปัจจุบันนอกจากการดำเนินธุรกิจหลักทั้งในประเทศอเมริกา ประเทศไทย และการเป็นเจ้าของสิทธิในแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ทั่วโลกแล้ว บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปที่หน่วยธุรกิจใหม่ที่ใช้เงินลงทุนน้อย อาทิ การขยายสาขารูปแบบคาเฟ่ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ DEAN & DELUCA xp และการพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ คอนซูเมอร์ แบรนด์ ที่เป็นแผนการผลิตสินค้าซึ่งจะใช้ช่องทางจัดจำหน่ายทั่วไปทั้งในและนอกร้านดีน แอนด์ เดลูก้า โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้กลยุทธ์ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อผนึกกำลังในการต่อยอดธุรกิจใหม่สองไลน์นี้ โดยเพซมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายประเทศที่พร้อมเข้าร่วมขยายธุรกิจใหม่ทั้ง 2 ไลน์ภายใต้เครื่องหมายการค้า ดีน แอนด์ เดลูก้า
          นอกจากนี้ ดีน แอนด์ เดลูก้า สหรัฐอเมริกา ยังได้แต่งตั้ง นางลอร่า เลนดรัม ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานบริหาร สายงานตลาดและการค้าทั่วโลก เพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจและแบรนด์ให้เป็นไปตามทิศทางการเติบโตของบริษัท โดยเฉพาะในสายงานรีเทล ซึ่งได้นำกลยุทธ์ด้านดิจิตอลมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
          "ที่ผ่านมา เราได้ลงทุนไปกับการศึกษาตลาด และการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการออกแบบพัฒนารูปแบบร้านและการบริหารจัดการ เพื่อมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้าได้ผ่านพ้นช่วงเวลาของการตั้งต้นและลงทุนไปแล้ว หลังจากการปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่นี้เสร็จสมบูรณ์ ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ"
          มหานคร อ็อบเซอเวชั่นเด็ค
          สำหรับจุดชมวิว มหานคร อ็อบเซอร์เวชั่น เด็ค นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของเพซ โดยมีจุดเด่นคือการออกแบบที่ทันสมัยเทียบเท่าจุดชมวิวระดับโลก มีพื้นกระจกยื่นออกจากตัวอาคาร มีรูฟท็อปบาร์ มีลิฟต์ความเร็วสูง รองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดถึงวันละ 10,000 คน และตั้งอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน บนทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ จุดชมวิวมหานคร อ็อบเซอเวชั่นเด็คจะคิดค่าบริการเพื่อเข้าชมครั้งละประมาณ 500 -1,000 บาท และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จากข้อมูลของ Conde Nast Travelers คาดว่าภายในปี 2560 กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนถึง 20.19 ล้านคน และเพซมั่นใจว่าจุดชมวิวบนอาคารมหานครจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกระดับ 
          "ธุรกิจจุดชมวิว เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนแรกเริ่มสูงแต่เมื่อเริ่มเปิดดำเนินการแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อเนื่องค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ที่จะได้รับในระยะยาว เช่นเดียวกับ ธุรกิจรถไฟฟ้า หรือ โรงไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าร้อยละ 70 ซึ่งถือว่าได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป และยังเป็นทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องอีกหลายสิบปี โดยที่ปราศจากความเสี่ยงในการหาที่ดินทำเลใหม่เพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มทุกปี ทั้งนี้ จุดชมวิว มหานคร อ็อบเซอเวชั่น เด็ค ปัจจุบัน ได้ก่อสร้างโครงสร้างหลักเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการตกแต่งภายใน ซึ่งบริษัทฯได้สำรองเงินทุนในส่วนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" นายสรพจน์กล่าวเสริม
          การบริหารจัดการภายในองค์กร
          นอกเหนือจากนี้ เพซยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่สามารถรับรู้รายได้ระยะยาวอีก 3 โครงการ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จ คือ โครงการ วินด์เชลล์ บนถนนนราธิวาสราช-นครินทร์ โรงแรม บางกอก เอดิชั่น ในมหานคร โครงการ มหาสมุทร หัวหิน ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัยรูปแบบวิลล่า และ คันทรี่ คลับ และยังเป็นโครงการที่จะสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัท อีกทั้งยังมีที่ดินที่อยู่ระหว่างรอพัฒนาอีกสองโครงการ
          ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพซได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลและการปฏิบัติการ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนด้านบุคลากร พร้อมรองรับทิศทางการดำเนินธุรกิจที่จะสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว
          "หลังจากการเพิ่มทุนและขายสองโครงการดังกล่าว รวมถึงลดภาระหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยระยะสั้นจนเกือบหมดสิ้นแล้ว เพซเชื่อมั่นว่าโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบริษัทฯ เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูงและเน้นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต" นายสรพจน์กล่าวทิ้งท้าย 'เพซ’ ปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่ เดินหน้าลดหนี้และภาระดอกเบี้ย สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมชูแผนธุรกิจสร้างกำไรจาก 'ดีน แอนด์ เดลูก้า’ และ 'จุดชมวิวมหานคร’
 

ข่าวเพซ ดีเวลลอปเมนท์+ดีน แอนด์ เดลูก้าวันนี้

ดีน แอนด์ เดลูก้า อเมริกา เดินหน้าเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ Chapter 11

ฟื้นฟูกิจการในอเมริกาให้สามารถเดินต่อในอนาคต การเข้าแผนฟื้นฟูนี้ ทำที่อเมริกาเท่านั้น ไม่กระทบ ดีน แอนด์ เดลูก้า ประเทศไทยและเอเชีย เนื่องจากเป็นบริษัทที่แยกกันอย่างชัดเจน แบรนด์ยังแข็งแกร่ง ธุรกิจในไทยและเอเชียยังไปได้ดี พร้อมรับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจฟู้ดรีเทล นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ล่าสุด ทางบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อเมริกา ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการในสหรัฐอเมริกา หรือที่เรียกว่า Chapter 11

“PACE” ปลื้ม “ดีน แอนด์ เดลูก้า” บุก “มาเก๊า” “กาแล็กซี่ ยักษ์คาสิโน” ได้สิทธิ์ประเดิม 4 สาขา เริ่มไตรมาส 4 ปีนี้

PACE ปลื้ม ดีน แอนด์ เดลูก้า สยายปีก มาเก๊า ได้เครือโรงแรมและคาสิโนยักษ์ใหญ่ในดัชนีฮั่งเส็ง "กาแล็กซี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์" ขอซื้อไลเซนท์ปูพรมเปิด 4 สาขา ประเดิมสาขาแรก กาแล็กซี่ มาเก๊า...

มีโปรเจ็กต์ใหม่ๆ มาให้ได้ติดตามกันตลอด สำ... Gossip News: มีโปรเจ็กต์ใหม่ล่าสุด — มีโปรเจ็กต์ใหม่ๆ มาให้ได้ติดตามกันตลอด สำหรับ สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์...

"เพซ ดีเวลลอปเมนท์" หรือ PACE แย้มข่าวดีจ... “เพซ” มั่นใจผลงานปีนี้เทิร์นอราวด์ ตุนเงินสด 5 พันล้าน — "เพซ ดีเวลลอปเมนท์" หรือ PACE แย้มข่าวดีจากผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรก 2560 ว่าบริษัทมีเงินสดเพื่อ...

ภาพข่าว: ‘เพซ’ ลงนามสัญญาเงินกู้ กับ ‘SCB’ สนับสนุนการซื้อกิจการ ‘ดีน แอนด์ เดลูก้า’ ขยายศักยภาพทางธุรกิจสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามสัญญาเงินกู้ด้วยวงเงิน 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4 พันล้านบาท) กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ...