เจาะความผาสุกเกษตรกรลุ่มน้ำปากพนัง ได้เกณฑ์พัฒนาที่ดี แนะ เสริมระบบนิเวศน์ หนุนเกษตรกรรรุ่นใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สศท.8 เผยความผาสุกของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อยู่ที่ระดับ 83.38 เป็นเกณฑ์การพัฒนาที่ดี โดยการพัฒนาด้านสังคม สุขอนามัย อยู่ในระดับดีมาก ส่วนด้านการศึกษา และเศรษฐกิจ อยู่ในระดับดี ในขณะที่ด้านสิ่งแวดล้อม พบว่ายังขาดความสมดุลในระบบนิเวศ แนะส่งเสริมพัฒนาปรับปรุง และเร่งสานต่ออาชีพเกษตรกรรมให้รุ่นใหม่ 
          นายธรณิศร กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลตัวชี้วัดความผาสุกของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และข้อมูลพื้นฐานโครงการว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด 13 อำเภอ 77 ตำบล 665 หมู่บ้าน 179,476 ครัวเรือน ประชากร 531,524 คน ซึ่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดความเสื่อมโทรม ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเกิดปัญหาระบบนิเวศเสียสมดุล ราษฎรในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังเดิม และโยกย้ายถิ่นฐานออกไปทำมาหาเลี้ยงชีพนอกพื้นที่
          
ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ จึงทรงมีพระราชดำริอย่างต่อเนื่องถึง13 ครั้ง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการดำเนิน "โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2.2753 ล้านไร่ ขึ้นในปี2535 และแล้วเสร็จในปี 2547 โดยยึดแนวพระราชดำริ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีสองแผนงานหลัก คือ
          แผนบริหารจัดการและฟื้นฟูนิเวศลุ่มน้ำปากพนัง และแผนแม่บทการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้ โดยโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีเป้าหมายให้ราษฎรในพื้นที่อยู่ดีกินดี มีความสุข ตามพระราชประสงค์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการ สนองพระราชดำริครอบคลุมทุกด้านมาอย่างต่อเนื่อง ความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาโดยลำดับ ระบบนิเวศต่างๆ ปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่โดยมีนิเวศแหล่งน้ำเป็นหัวใจหลัก ราษฎรที่อพยพโยกย้ายถิ่นฐานออกไปหาเลี้ยงชีพนอกพื้นที่กลับสู่ถิ่นฐานมาประกอบอาชีพในพื้นที่ มีความอยู่ดีกินดีขึ้นโดยลำดับจากการพัฒนาพื้นที่ในโครงการ
          สำหรับแผนการพัฒนาล่าสุด คือ แผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ. 2560-2564 มีวิสัยทัศน์ คือ "พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สิ่งแวดล้อมสมดุล ประชาชนมีความผาสุก ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ตัวชี้วัดหลัก คือ ความผาสุกของเกษตรกรในพื้นที่ฯ
          ในการนี้ สศท. 8 ได้จัดทำผลตัวชี้วัดด้านความผาสุกของเกษตรกรฯ ยึดตามวิธีการจัดทำดัชนีความผาสุกของประเทศ พร้อมทั้งเสนอแนวทางพัฒนาการเกษตรและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ โดยผลการศึกษาดัชนีความผาสุกของเกษตรกรวัดจากการพัฒนา 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สุขอนามัย การศึกษาสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งพบว่าในปี 2560 เกษตรกรในพื้นที่ฯ มีความผาสุกในระดับ 83.38 จัดอยู่ในระดับการพัฒนาดี แต่การพัฒนายังคงไม่สมดุล โดยการพัฒนาด้านสังคม และด้านสุขอนามัย อยู่ในระดับดีมาก ด้านการศึกษา และด้านเศรษฐกิจ อยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตาม ทางด้านสิ่งแวดล้อม (สัดส่วนพื้นที่ป่าไม้ต่อพื้นที่ทั้งหมดของโครงการฯ) ยังอยู่ในระดับต้องปรับแก้ไข โดยสาเหตุหนึ่งเกิดจากการการขยายพื้นที่เพื่อปลูกปาล์ม และยางพารา
          ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน ควรสนับสนุนการฟื้นฟูและปลูกป่าเพิ่ม เพื่อสร้างความสมดุลในระบบนิเวศให้มากขึ้น และการจัดที่ทำกินในพื้นที่ป่าไม้ รวมทั้ง การส่งเสริมการดำเนินการพัฒนาปรับปรุง ฟื้นฟูทรัพยากรดินอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการลดลงของคนรุ่นใหม่ ที่จะสืบทอดอาชีพเกษตรของพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ จึงต้องส่งเสริม สร้างแนวทาง และสร้างความภูมิใจในอาชีพการเกษตรให้มากขึ้น โดยการสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนหรือเกษตรกรรุ่นใหม่และแรงงานที่มีคุณภาพ เข้าสู่อาชีพเกษตรกรรม เพิ่มมาตรการจูงใจให้ยุวเกษตรกร สานต่ออาชีพเกษตรกรรมต่อไป
 
 

ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2566 2570 โดยมุ่งยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชุมชน ระดับประเทศ และระดับสากล ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการพัฒนาตลาด

นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำ... สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47% — นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษ...

นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิ... สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมังคุด ตามแนวทาง BCG Model เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร — นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 ส...

นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศร... สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม — นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเ... 'กระท้อนนาปริก' จ.สตูล สินค้า GI มุ่งยกระดับคุณภาพ พัฒนาตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน — นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา...

เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลง เฝ้าระวังโรคแมลง... สศท.10 เกาะติดสถานการณ์มะพร้าวผลแก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปีนี้ ผลผลิตรวม 252 ล้านผล — เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลง เฝ้าระวังโรคแมลง นายกิจษารธ อ้นเงินทยากร ผู้อำ...