นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยในช่วงวันที่ 17 – 18 ธันวาคม 2560 อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ จากนั้นในช่วงวันที่ 19 – 21 ธันวาคม 2560 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิลดลงอีก 2 – 3 องศาเซลเซียส กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคกลาง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น โดยสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาและแจกจ่ายเครื่องกันหนาวแก่ผู้ประสบภัยหนาวอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ เน้นกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการทุพพลภาพ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว รวมถึงวางมาตรการป้องกันภัยเชิงรุกให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบจากภัยในช่วงฤดูหนาว ทั้งไฟป่า หมอกควัน เพลิงไหม้ในช่วงสภาพอากาศแห้ง อุบัติเหตุทางถนนในช่วง หมอกลงจัด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาว
นายชยพล กล่าวต่อไปว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นกับฝนตกหนักบางแห่ง จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยประสานแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมน้ำไหลผ่าน บริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสม โดยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควร งดออกจากฝั่งในระยะนี้ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์