เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ..โดยเฉพาะภาคเหนือ..ระวังโรคราแป้งขาวกุหลาบระบาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบรวมถึงไม้ตัดดอกชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทย ควรเฝ้าระวังโรคราแป้งขาวระบาด ซึ่งมักพบเมื่อสภาพอากาศหนาวเย็น น้ำค้างลงจัดกลางคืนมีความชื้นสูง ทำให้เชื้อโรคราแป้งขาวกุหลาบเจริญเติบโตได้ดี สามารถแพร่ระบาดโดยปลิวไปกับลม ทำความเสียหายรุนแรงได้ ดังนั้น ขอให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลงของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบขุยสีขาวขึ้นปกคลุมบริเวณด้านบนใบและใต้ใบ เนื้อใบที่ถูกทำลายจะพองออก ใบบิดงอ โดยเฉพาะใบอ่อน และยอดอ่อนของกุหลาบ ขอให้เตรียมการป้องกัน หรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อหาแนวทางทางป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง
          นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า โรคราแป้งกุหลาบเป็นโรคที่สำคัญชนิดหนึ่งของกุหลาบ และไม้ตัดดอกอีกหลายชนิด โรคราแป้งมีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวใบ ทั้งด้านบนและด้านใต้ใบ พบมากในใบอ่อน และยอดอ่อนของกุหลาบ เนื้อเยื่อส่วนที่เชื้อราเกาะอยู่จะพองออก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โรคใบพอง ทำให้ใบบิดงอ ถ้าใบถูกราแป้งเข้าทำลายมาก จะมองเห็นบริเวณที่เป็นโรคมีสีม่วงถึงดำ และหลุดร่วงในที่สุดต้นกุหลาบแคระแกร็น ดอกกุหลาบที่เชื้อราปกคลุมดอกจะไม่บาน หรือบานแต่ดอกไม่สมบูรณ์เสียรูปทรง
          กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแนะนำวิธีการป้องกันกำจัดโรคราแป้งขาวกุหลาบ ดังนี้ ๑. ตัดแต่งกิ่งกุหลาบที่เป็นโรค เก็บใบหลุดร่วงที่โคนต้นนำไปเผาทำลายทิ้ง ๒. ในช่วงที่มีการระบาดของโรคควรงดให้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้โรคระบาดอย่างรุนแรง ๓. หากมีการระบาดมาก ควรใช้สารเคมีประเภทที่มีกำมะถันหรือทองแดงฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ๔. สำหรับสารเคมีที่ใช้อื่นๆ เช่น เบนเลท , คาราแทน อัตราการใช้ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในฉลาก
เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ..โดยเฉพาะภาคเหนือ..ระวังโรคราแป้งขาวกุหลาบระบาด
 
เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ..โดยเฉพาะภาคเหนือ..ระวังโรคราแป้งขาวกุหลาบระบาด

ข่าวกรมส่งเสริมการเกษตร+สภาพอากาศหนาวเย็นวันนี้

กรมส่งเสริมเกษตร แนะวิธีใช้ชีวภัณฑ์ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรอย่างเหมาะสม

การฟื้นฟูพื้นที่เกษตรหลังน้ำลดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานส่งผลให้ โครงสร้างดินเสียหาย ดินแน่นทึบ ขาดออกซิเจน และมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่า และโรคเหี่ยว ชีวภัณฑ์ (Bioproducts) หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการบำบัดและฟื้นฟูดิน รวมถึงการควบคุมโรคพืช นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ก่อนใช้ชีวภัณฑ์ ควรเร่งระบายน้ำที่ขังออกจากแปลงปลูกให้เร็วที่สุด กำจัดเศษซากพืช

จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤ... เกษตรฯ เผยแผนฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้ ด้านพืช เน้นฟื้นดิน-ฟื้นต้น-ป้องกันโรค หลังน้ำลด — จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งผลกระทบในหลาย...

กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลความคืบหน้าการบริ... กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าสร้างเกษตรปลอดเผายั่งยืน สู้ PM2.5 — กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลความคืบหน้าการบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควันและ PM2.5 จากการเผาในพื้นท...

เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเขาย้อย ภายใ... ลงพื้นที่ประชาคมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2568/2569 — เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเขาย้อย ภายใต้กรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่ประชาคม/ตรวจสอบข้อมูลและลงล...

กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปล... อากาศเย็นลง หมอกหนา เตือนชาวนาระวัง "แมลงบั่ว" ศัตรูร้ายทำลายข้าว — กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เฝ้าระวังแมลงบั่วศัตรูข้าว เนื่องจากพย...

กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าขับเคลื่อนแผน... เกษตรฯ เร่งผลิต-ขยาย-กระจาย "มันสำปะหลังพันธุ์ดีต้านทานโรคใบด่าง" ครอบคลุมทั่วประเทศ — กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าขับเคลื่อนแผนเร่งผลิต ขยาย และกระจาย "ม...