คุณเจษฎา สุขทิศ นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย กล่าวว่า "สมาคมฟินเทคฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ ก.ล.ต. ในโครงการ FinTech Challenge เพื่อผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบธุรกิจฟินเทคสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ขอเชิญชวนสตาร์ทอัพหรือผู้ที่สนใจส่งไอเดีย แนวคิด หรือผลงานที่เกี่ยวข้องกับฟินเทคเข้าประกวด หรือใครที่ยังมองหาโจทย์ สมาคมฟินเทคฯ ได้ติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยและผู้ประกอบการ ผู้สนับสนุนโครงการ เพื่อหาโจทย์ ก็สามารถเสนอทางออกของโจทย์นั้น ๆ มาได้ สมาคมฟินเทคฯ เชื่อว่า การบ่มเพาะจะช่วยสร้างสตาร์ทอัพ และส่งผลให้ระบบนิเวศด้านฟินเทคในประเทศไทยเติบโต"
นางพราวพร เสนาณรงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายนโยบายตลาดทุน สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า "โครงการ FinTech Challenge ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สาม สอดคล้องกับนโยบาย ก.ล.ต. ที่ต้องการสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมและส่งเสริมทั้งผู้ประกอบการรายเดิมและผู้ประกอบการรายใหม่ ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาให้บริการในตลาดทุน และสำหรับโครงการปีนี้ มีความพิเศษกว่าทั้งสองครั้งที่ผ่านมา โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการบ่มเพาะ และได้รับคำแนะนำ ทั้งในด้านเทคโนโลยี การทำฟินเทคสตาร์ทอัพจากทีมผู้เชี่ยวชาญผู้ที่ประสบความสำเร็จและมากด้วยประสบการณ์ รวมทั้งได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบการกำกับดูแลที่อาจเกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์และเพิ่มโอกาสในการนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์และนำไปใช้ได้ในระบบการเงินและตลาดทุนของประเทศอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ก็จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวคิดกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลให้สอดคล้องกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา"
นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการจัดเสวนาภายใต้หัวข้อ FinTech Challenge : "The Startup fast-track gateway โดยนายปรมินทร์ อินโสม นางสาวมณีรัตน์ ศรีปริวาทิน ผู้ชนะการประกวดโครงการ Fintech Challenge ครั้งที่ 1 และ 2 และ นางสาวอาจารีย์ ศุภพิโรจน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงิน สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นว่า "ประเทศไทยยังมีปัญหาอุปสรรคหลักสำหรับสตาร์ทอัพ คือ กฎหมาย แหล่งเงินทุน และบุคลากรที่มีศักยภาพ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือช่วยกันแก้ปัญหา สำหรับสตาร์ทอัพที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมองเห็นปัญหาของผู้บริโภค และมีไอเดียที่ตอบโจทย์ มีทีมต้องมุ่งมั่นพร้อมที่ทำให้ไอเดียเป็นจริง และมีงบประมาณที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ" ก่อนจบนายปรมินทร์ อินโสม ได้ทิ้งท้ายว่า "สิ่งสำคัญที่ได้จากโครงการ Fintech Challenge คือ คำแนะนำจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในส่วนของกฎเกณฑ์บางเรื่องที่ยังเป็นอุปสรรค" และ นางสาวมณีรัตน์ ศรีปริวาทิน เสริมว่า"นอกจากเงินรางวัลแล้ว ทีม noon ยังได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่นำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจ ได้รับความรู้จากผู้ให้คำปรึกษา (mentor) ที่เชี่ยวชาญ ได้ปรึกษากฎเกณฑ์กับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และแลกเปลี่ยนแนวคิดจากเพื่อน ๆ ในโครงการอีกด้วย"
ผู้ที่สนใจเข้าดูรายละเอียดและสมัครเข้าโครงการ Fintech Challenge ได้ที่ www.FinTechchallenge.info ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2561
Covestro Thailand Launches 'Green Guardians' to Advance Hands-On Sustainability Education with Local Schools
WHA Group delivers double good news, showing 9-month normalized net profit reaching THB 3,787 million, growing 14% (Y-Y)
WHA Group เสิร์ฟข่าวดี 2 เด้ง โชว์ 9 เดือน กำไรปกติแตะ 3,787 ล้านบาท โต 14% (Y-Y)
"METALEX 2025" Opens in Grand Style, Bringing Together 3,000 Global Brands Showcasing Cutting-Edge Metalworking Technologies
เจาะบทวิเคราะห์เทรนด์ "สิทธิบัตรสิ่งทอ" ในรอบ 2 ทศวรรษหนุนไทยพลิกบทบาทจากผู้ผลิตสู่เจ้าของนวัตกรรมเพื่อขยับขึ้นแท่นผู้นำนวัตกรรมสิ่งทอของอาเซียน
Thermax ชูโซลูชันชีวมวลเพื่อขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในงาน Boiler World S.E.A. 2025
Thermax Highlights Biomass Solutions for Thailand 4.0 at Boiler World S.E.A. 2025
"METALEX 2025" เปิดฉากยิ่งใหญ่ ระดม 3,000 แบรนด์ระดับโลก สุดยอดเทคโนโลยีโลหการ ตอกย้ำไทยคือซูเปอร์ฮับอุตสาหกรรม 4.0 แห่งอาเซียน
ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง นำเสนอศักยภาพตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ด้านอุตสาหกรรมทางทะเล ในงาน Thailand Marine & Offshore (TMOX) Expo 2025