หลังจากเครนล้มที่ไซต์ก่อสร้างคอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 เมื่อ 30 สิงหาคม 2561 ถัดมาเพียง 2 สัปดาห์ ในเช้าวันที่ 14 ก.ย. เมื่อเวลา 09:00 น. เกิดเหตุเครนก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยได้หักล้มในซอยศาลาแดง 2 ถ.สีลม โดย เครนหักโค่นลงมาทับรถยนต์ ร้านค้า และเสาไฟฟ้าหักขวางกลางซอย รถผ่านไม่ได้ ต้องปิดการจราจรชั่วคราว ลักษณะเครนได้หักลงมาขวางกลางถนน โดยขาของเครนเกี่ยวสายไฟสื่อสารและดึงเอาเสาไฟฟ้าหัก 7 ต้น ต้นไม้ 5 ต้น นอกจากนี้ยังพบหลังคาร้านค้าที่เป็นอาคาร 2 ชั้น เสียหาย 1 ห้อง รถเก๋งฮอนด้า สีขาวถูกเครนทับที่กระโปรงหน้า 1 คัน ขาเครนยังหักทับรถเก๋งจอดริมถนนเสียหายอีก 2 คัน ที่หน้าอาคารอีกแห่ง ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บอีก 3 - 4 คน เป็นผู้ขับรถเก๋ง รถจักรยานยนต์ และคนเดินเท้า ได้รับการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และหนึ่งในนั้นที่ได้รับผลกระทบคือ นักแสดงสาว มิ้งค์-ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต ซึ่งบ้านได้รับความเสียหายและเศษปูนแตกหล่นใส่รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านจนกระจกแตก หลังคาบุบ
รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า สาเหตุเครนถล่มย่านศาลาแดงอาจเกิดจากฐานเครนไม่แข็งแรง โดยติดตั้งทาวเวอร์เครนฝังลงในบ่อลิฟท์ไม่ได้มาตรฐาน ระหว่างตัวฐานของทาวเวอร์เครนกับตัวฐานรากบ่อลิฟท์ไม่มั่นคงแข็งแรง ฐานรากมีความลึกเพียง 1.3 เมตร ไม่สอดคล้องกับตัวเครนที่สูง 27 เมตร ประกอบกับการเชื่อมไม่สามารถรับแรงที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นขณะที่เครนกำลังยกตัวขึ้น จึงเกิดเหตุไม่คาดคิดและอาจเป็นสาเหตุของเครนล่มในครั้งนี้ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบในรายละเอียดการขออนุญาติติดตั้ง และผู้ควบคุมงานก่อสร้างมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามหลักวิศวกรรมหรือไม่ ทั้งนี้ ทาง วสท. ซึ่งมีบทบาทในการอบรมและพัฒนาความรู้แก่บุคลากรด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง เราจะเพิ่มเติมเนื้อหาอบรมด้านความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างในการติดตั้งเครนด้วย เช่น การออกแบบฐานทาวเวอร์เครน การออกแบบจุดต่อต่างๆ เป็นต้น
ในอนาคตประเทศไทยจะมีการปรับปรุงข้อกฎหมายปั้นจั่นฉบับใหม่ คือ การเพิ่มมาตรการของการวางแผน (ทำแผนการยกก่อนใช้งานจริง) ต้องลงนามรับรองการใช้งานโดยผู้ควบคุมเครน ซึ่งปัจจุบันจะใช้ในงานใหญ่ๆหรืองานมาตรฐานสูงเท่านั้น คาดว่ากฎหมายใหม่จะออกในช่วงปลายปี 61 – ต้นปี 62 โดยจะมีการบังคับใช้ในงานที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง หรือในการยกที่อยู่ในภาวะวิกฤติ เช่น ยกของที่มีน้ำหนักมาก ๆ การยกของที่ใกล้เคียงกับพิกัดยก
สำหรับ ปั้นจั่น หรือ เครน นับเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ใช้ในการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งอาจแยกได้เป็นหลายชนิด เช่นปั้นจั่นหอสูง (Tower Crane), ปั้นจั่นชนิดเคลื่อนที่ (Mobile Crane) รวมถึงรถเครน, ปั้นจั่นเหนือศีรษะ (Overhead Crane) ปั้นจั่นขาสูง (Gantry Crane) และรอกไฟฟ้า (Electric Hoist) ตามโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานสลิงและอุปกรณ์ช่วยยกแบบต่าง ๆ โดยตามกฎหมายได้มีการกำหนดให้มีการตรวจสอบและทดสอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ของปั้นจั่นตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ แต่ไม่เกินกว่า 1 ปี ในต่างประเทศมีการพัฒนาเทคโนโลยีเครนก้าวหน้า แต่ในประเทศไทยมักใช้เครนเก่ามือสองมือสามซึ่งมีเป็นจำนวนมากเกินกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดการใช้งานทั้งหมด เครนบางตัวมีอายุเกินกว่า 30 ปี อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เช่น ลิมิตสวิตช์ตัดการทำงานของเครน สภาพของสลิงที่ใช้งานมีสภาพชำรุด สภาพโครงสร้างที่อาจได้รับผลกระทบจากความล้าของโลหะ การบำรุงรักษาในขั้นตอนก่อนการติดตั้งหรือขั้นตอนการติดตั้งที่ยังขาดการตรวจสอบตามคู่มือที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ผู้บังคับเครนและผู้ยึดเกาะวัสดุยังขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้งาน รวมถึงผู้ว่าจ้างยังขาดความสนใจเรื่องคุณภาพความพร้อมของเครนทีใช้งาน โดยจะพบเครนกระจายอยู่ทั่วไปทั้งในพื้นที่ทำงาน รวมถึงไซต์ก่อสร้างอาคารและสาธารณูปโภคต่าง ๆ จึงนับว่าอุบัติภัยจากเครน เป็นอีกความเสี่ยงภัยสาธารณะที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้คนและชุมชนได้
"สมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข" STI รับมอบเกียรติบัตรในฐานะ "วิศวกรอาสา" ร่วมมือ กทม. ช่วยเหลือตรวจสอบอาคาร และให้คำแนะนำในเหตุการณ์แผ่นดินไหว
AIT ส่งทีมวิศวกรเข้าร่วมสำรวจโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง ความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคารเรียน
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI จัดอบรมการใช้เครนอย่างปลอดภัยในการก่อสร้าง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
STI GROUP ร่วมสนับสนุนกิจกรรม วิศวกรอาสา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ผู้ประสบอุทกภัย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
SPU ปรบมือให้! ไกรศร วิเชียรสาร นศ.วิศวกรรมโยธา คว้ารางวัลเรียนดีจาก วสท. พร้อมได้รับเลือกเข้าค่ายอบรมสุดพิเศษ EIT-TOC Academic Camp 2024
นักศึกษา เก่ง! สาขาวิศวกรรมโยธา ม.ศรีปทุม เข้ารับพระราชทานเหรียญรางวัลเรียนดี ประจำปี 2566
"ซันโกร" ร่วมกับ วสท. พัฒนาตลาดพลังงานหมุนเวียนไทยอย่างมั่นคงและปลอดภัย
วว. / BIM ร่วมผลักดันการทำงานระบบแบบจำลองสารสนเทศของไทยให้ทัดเทียมสากล