สกู๊ต ฉลองเครื่องใหม่ป้ายแดง “เอ320นีโอ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          - สกู๊ต เปิดตัวเครื่องบินน้องใหม่ รุ่นเอ 320 นีโอ" ลำแรกของสายการบิน ด้วยไฟล์ท กรุงเทพฯ - สิงคโปร์ 
          - เครื่องบินรุ่นใหม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประสิทธิภาพสูงในการเผาผลาญเชื้อเพลิง และบินได้ระยะไกลขึ้น
          - เพิ่มความสะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่เงียบมากขึ้น
สกู๊ต ฉลองเครื่องใหม่ป้ายแดง “เอ320นีโอ”
 
          เครื่องบินเอ320 นีโอ จากตระกูลแอร์บัส ลำแรกของสายการบินสกู๊ต ชื่อ "ชาปาติ ปาร์ตี้" ให้บริการครั้งแรกจากท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงีสู่จุดหมายปลายทางที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเวลา 16.00 น.
          นอกจากผู้โดยสารบนบินเที่ยวบิน TR610 จะสัมผัสประสบการณ์การนั่งเครื่องบินน้องใหม่รุ่น "เอ320นีโอ" แล้วก่อนออกเดินทางสายการบินสกู๊ตยังเชิญชวนผู้โดยสารมาร่วมตัดเค้กหน้าทางประตูทางเข้าเครื่องบินก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอีกด้วย
          การใช้ระบบเครื่องยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาจาก "แพรท แอนด์ วิทนีย์" เครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320นีโอ มีคุณสมบัติ ในการลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ให้ต่ำกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมในปัจจุบันถึงร้อยละ 50 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 5,000 ตันต่อปี รวมถึงรลดเสียงรบกวนได้ราวร้อยละ 50 นอกจากนี้ เครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320นีโอ ยังให้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ในทางธุรกิจ เช่น พิสัยบินที่ไกลขึ้น ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน รวมไปถึงรูปแบบการจัดวางภายในห้องโดยสารที่ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
          เมื่อทำการเปรียบเทียบกับเครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320ซีโอ พบว่า เอ320นีโอจะเป็นห้องโดยสารแบบ Space-Flex ที่มีพื้นที่ห้องโดยสารบริเวณท้ายเครื่องกว้างขวางขึ้น ซึ่งส่งผลให้ที่นั่งโดยสารแบบชั้นประหยัด มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 6 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น 186 ที่นั่ง และมีช่องหน้าต่างเพิ่มขึ้นอีกจำนวนสองช่อง นอกจากนี้ ห้องน้ำของเครื่องบิน เอ320นีโอ ยังมีเก้าอี้พับได้ไว้สำหรับรองรับลูกค้าเดินทางด้วยเก้าอี้วีลแชร์ เครื่องบิน เอ320นีโอ ของสกู๊ต ติดตั้งอุปกรณ์ปลายปีกซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมีสัญลักษณ์นำโชคอย่าง "Super Scootee" ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายในเครื่องบิน
          "ชาปาติ ปาร์ตี้" เป็นเครื่องบินลำแรกในฝูงบินตระกูลแอร์บัส เอ320นีโอ จากทั้งหมด 39 ลำ ที่จะถูกจัดส่งให้กับสายการบินสกู๊ต ภายในปีพ.ศ. 2568 ปัจจุบันสายการบินได้ใช้เครื่องบินหลายรุ่น โดยอายุเครื่องบินอยู่ที่ 4 ปี และ 10 เดือน โดยเฉลี่ย จำนวนทั้งหมด 44 ลำ ประกอบไปด้วยเครื่องบินโดยสารขนาดกลางลำตัวกว้างพิสัยไกล ตระกูลโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ จำนวน 18 ลำ ซึ่งจะมีอายุเครื่องบินเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ปี 5 เดือน และเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กที่มีพิสัยการบินระยะใกล้ถึงปานกลางตระกูลแอร์บัส เอ320 จำนวน 26 ลำ ซึ่งจะมีอายุเครื่องบินเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ปี 7 เดือน ในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 เดียวกัน
          เครื่องบินตระกูลแอร์บัส 320นีโอของสายการบินสกู๊ต จำนวน 2 ลำแรก จะถูกให้บริการในเส้นทางภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และ เมืองติรุชชิราปัลลี ประเทศอินเดีย
          "เครื่องบินน้องใหม่ป้ายแดงตระกูลแอร์บัส เอ320 นีโอนี้ จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่เงียบกว่าเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กที่เรามีอยู่ และเมื่อศึกษาจากดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของผู้โดยสารที่มีต่อเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก พบว่าผู้โดยสารจะพึงพอใจเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กมากขึ้นเมื่อเทียบกับเครื่องบินโดยสารขนาดกลาง" มร.ลี ลิก ซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินสกู๊ต กล่าว "เครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320 นีโอ มีความโดดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิง จึงทำให้สายการบินสกู๊ตมีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่ลดลง ผนวกด้วยเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพและสมรรถณะที่ดี จึงทำให้เป็นการสร้างโอกาสในการเข้าไปเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ สำหรับเส้นทางการบินในระยะกลางได้อีกด้วย"
          ดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของลูกค้าเริ่มทำการสำรวจ ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฏาคม 2561 โดยข้อมูลได้มาจากการสอบถามหลังการใช้บริการเที่ยวบิน โดยทางสายการบินจะนำผลที่ได้มาพัฒนาและปรับปรุงตามความต้องการของผู้โดยสารให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความตั้งใจมามากกว่า 15 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความประทับใจและสร้างความแตกต่างในการเลือกใช้บริการสายการบินชั้นประหยัด
          นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการเช็คอินได้ด้วยตนเองที่ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี หรือจะเป็นการก้าวข้ามเข้าสู่โลกแห่งยุคโมบายกับเทคโนโลยีระบบตอบรับอัตโนมัติซึ่งเป็นสายการบินแรกของเอเซีย ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ส่วนตัว สามารถทำให้ผู้โดยสารเข้าถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษ การเดินทางแบบตอบโจทย์ของผู้โดยสารแต่ละท่านได้มากยิ่งขึ้น กับระบบสมาชิก Scoot Insider และการสะสมไมล์ Krisflyer การแลกของสมนาคุณ และอื่นๆอีกมากมาย

          เกี่ยวกับสกู๊ต
          สกู๊ตเป็นสายการบินราคาประหยัดในกลุ่มสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ สกู๊ตเริ่มให้บริการครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 และควบรวมกิจการเข้ากับไทเกอร์แอร์สิงคโปร์ (Tigerair Singapore) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยยังคงใช้ชื่อแบรนด์ว่าสกู๊ต และเตรียมรองรับการเติบโตต่อไปข้างหน้า สกู๊ตนำผู้โดยสารกว่า 50 ล้านคนไปสู่จุดหมายที่ต่างๆ สำหรับฝูงบินของสกู๊ต ประกอบไปด้วยเครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ 17 ลำ และเครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320 รุ่นใหม่ที่อายุการใช้งานยังไม่มากอีก 24 ลำ ทั้งยังมีโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์อีก 3 ลำ และแอร์บัส เอ320นีโอ อีก 39 ลำ ที่กำลังอยู่ระหว่างการสั่งซื้อ ในปัจจุบันสายการบินสกู๊ตให้บริการเที่ยวบินไปยัง 65 เมืองปลายทางใน 18 ประเทศและเขตการปกครอง โดยกำลังจะขยายไปครอบคลุมเมืองหนานชางในเร็วๆ นี้ นอกเหนือไปจากตั๋วราคาสุดคุ้มแล้ว สกู๊ตยังมอบประสบการณ์การเดินทางแบบสมัยใหม่ที่ปลอดภัยและวางใจได้ ด้วยทัศนคติแบบเฉพาะตัวที่เรียกว่า Scootitude ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทางซึ่งรวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi บนเครื่องพร้อมช่องเสียบปลั๊กไฟประจำที่นั่งในบางเที่ยวบิน และการแลกหรือสะสมไมล์ KrisFlyer ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ สกู๊ตได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด (ในเอเชียแปซิฟิค) 4 ปีซ้อน (พ.ศ. 2558-2561) โดย AirlineRatings.com และได้รับการจัดให้อยู่ใน 10 ลำดับแรกของสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2558 โดยสกายแทรกซ์ สกู๊ตมุ่งมั่นที่จะทำให้การเดินทางเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ และช่วยให้ผู้คนเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อทำสิ่งที่เราเรียกว่า Wandermust ซึ่งหมายถึงความต้องการในตัวมนุษย์เราทุกคนที่จะเดินทางและแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ คุณสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ FlyScoot.com หรือติดต่อ Call Center ของเรา หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ FlyScoot.com หรือติดตามเราที่ Facebook.com/FlyScoot, Instagram.com/FlyScootและ Twitter.com/flyscoot
 
 
 

ข่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม+สายการบินสกู๊ตวันนี้

เปิดโลกอุตสาหกรรมสีเขียว! ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับนิสิตวิศวฯ จุฬาฯ เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเยื่อและกระดาษ ณ จังหวัดปราจีนบุรี เยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษที่เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบบริหารจัดการตามมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001 และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้โมเดล "Circular Economy" หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน พร้อม

CHANGAN Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์อ... CHANGAN Automobile ชูนวัตกรรมสุดล้ำภายใต้แนวคิด "Together for a Smarter World" ในงาน Auto Shanghai 2025 — CHANGAN Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ...

รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ปได้รับตราสัญลักษณ์... รอยัล คลิฟ พัทยา ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม กับการคว้ารางวัล G-Green ระดับดีเยี่ยม — รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ปได้รับตราสัญลักษณ์ G-Green โรงแรมที่เป...

ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บ... MSM รับตราสัญลักษณ์ G-Green — ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมืองทอง เซอร์วิสเซส แอนด์ แมเน็จเม้นท์ จำกัด หรือ MSM เครือบางกอกแลนด์ ...