หัวเว่ยคว้ารางวัลผู้นำตลาดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในเอเชียแปซิฟิค จากฟรอสต์ & ซัลลิแวน

28 Aug 2018
หัวเว่ยคว้ารางวัลผู้นำตลาดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในเอเชียแปซิฟิค ประจำปี 2018 จากฟรอสต์ & ซัลลิแวน (2018 Asia-Pacific Video Conferencing Endpoints Market Leadership Award) ในพิธีมอบรางวัลด้านไอซีทีระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2018 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นของหัวเว่ย รวมไปถึงการนำเสนอคุณค่าแก่ลูกค้าในตลาดการประชุมผ่านวิดีโอ
หัวเว่ยคว้ารางวัลผู้นำตลาดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในเอเชียแปซิฟิค จากฟรอสต์ & ซัลลิแวน

โซลูชั่นการประชุมผ่านวิดีโอของหัวเว่ยเป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุดในอุตสาหกรรมทั้งในด้านคุณภาพของเสียงและภาพ หัวเว่ยได้ลงทุนทางด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และในช่วงปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวโซลูชั่นรุ่น MAX Presence, กล้องวิดีโอการประชุมรุ่น TE30, ชุดอุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอ 6-อิน-1 คลาวด์ รุ่น TE10, ชุดอุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอความละเอียดระดับ HD รุ่น H.265 TX50 และชุดอุปกรณ์รุ่น H.265 4K แบบครบวงจร หัวเว่ยได้ทุ่มเทความพยายามอย่างต่อเนื่องโดยได้เปิดตัวบริการการประชุมระบบคลาวด์ขึ้นในปี 2017 ปัจจุบัน ระบบชุดอุปกรณ์การประชุมผ่านวิดีโอของหัวเว่ยสามารถตอบทุกโจทย์การใช้งานของสำนักงานและอุตสาหกรรม อาทิ ห้องประชุมขนาดใหญ่ กลาง เล็ก, ห้องประชุมทางไกลเสมือนจริงระดับไฮเอนด์, สำนักงานหรือโต๊ะทำงานแบบเคลื่อนที่, พื้นที่ทำงานร่วมกันแบบสร้างสรรค์หรือเทอร์มินัลในโรงงาน การออกแบบผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพการทำงานของโซลูชั่นการประชุมทางวิดีโอของหัวเว่ยยังได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในตลาด อีกทั้งยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติด้านการออกแบบ เช่น iF และ Red Dot อีกหลายครั้ง ในปี 2561 หัวเว่ยมีแผนที่จะเปิดตัวโซลูชั่นระบบสื่อสารรุ่นใหม่สำหรับองค์กร โดยใช้ชื่อแบรนด์ 'CloudLink' ด้วยเทคโนโลยี AI โซลูชั่น CloudLink จะเปลี่ยนแนวทางการทำงานของเรา สร้างเสริมศักยภาพของพนักงานและสร้างแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ของทีม

"ในขณะที่ตลาดระบบการประชุมทางวิดีโอกำลังมุ่งไปสู่การคอนเวอร์เจนซ์ การวิเคราะห์ข้อมูล และบริการคลาวด์ ผู้จัดจำหน่ายจำเป็นที่จะต้องยกเครื่องโมเดลธุรกิจเพื่อค้นหากระแสการเติบโตใหม่" นางฉง จือหนิง นักวิเคราะห์การวิจัย ด้านการใช้งานไอซีที ของฟรอสต์ & ซัลลิแวน กล่าว "หัวเว่ย ในฐานะที่เป็นผู้จัดจำหน่ายโซลูชั่นการประชุมผ่านทางวิดีโอชั้นนำของอุตสาหกรรมกำลังพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างมากจากการผลักดันการนำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปใช้ในกลุ่มผู้บริโภคและองค์กร หัวเว่ยได้เปิดตัวแพลตฟอร์มวิดีโอคลาวด์เมื่อเดือนกันยายน ปี 2560 ในฐานะส่วนหนึ่งของการปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการประชุมวิดีโอและกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมที่มีอยู่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเริ่มถ่ายโอนระบบไปสู่คลาวด์" เธอกล่าวเสริม

หัวเว่ยมีส่วนร่วมในตลาดการประชุมทางวิดีโออย่างจริงจังมากว่า 20 ปี และได้ให้บริการลูกค้าในกว่า 100 ประเทศทั่วทุกภูมิภาคของโลก ในอนาคตหัวเว่ยจะยังคงลงทุนในกลยุทธ์ระยะยาวของระบบคลาวด์สาธารณะ และทำงานร่วมกับคู่ค้าเพื่อสร้างโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในด้านการเงิน พลังงานไฟฟ้า การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการขนส่ง