เฉกเช่นราชอาณาจักรบาห์เรน โดย ฯพณฯ มร.ซาเยด อาร์. อัลซายานี (H.E. Mr. Zayed R. Alzayani) รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการท่องเที่ยว ราชอาณาจักบาห์เรน พร้อมคณะได้เป็นเกียรติเยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลฯ ในโอกาสที่เดินทางเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคง ทางด้านอาหาร การค้า และการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล ซึ่งได้ รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับ
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมุสลิมทั่วโลกได้ตระหนักว่า การเป็นประเทศมุสลิมของเขาทำให้เขามองพลาด โดยที่เข้าใจว่า อะไรก็ปลอดภัย แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่ เพราะในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ มีการป่นเปื่อนมากมาย แต่ถ้าเราจะพิสูจน์ให้ได้ว่า วัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการป่นเปื่อนอะไรนั้น เราต้องใช้หลักการของ "วิทยาศาสตร์" ในการตรวจสอบ แต่สำหรับประเทศไทย โดย "ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" เราได้ตระหนักถึงประเด็นสำคัญในเรื่องนี้เป็นที่แรกของโลก จึงได้ก่อตั้ง ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2538 โดยพัฒนางานด้านนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาลขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคทั้งมุสลิมและมิใช่มุสลิม ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลฯ เราได้สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โดยในขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนที่สามารถตรวจผลิตภัณฑ์ได้เกินแสนผลิตภัณฑ์ แต่สำหรับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลฯ นั้นสามารถตรวจผลิตภัณฑ์ตรวจไปแล้วกว่า 120,000 ผลิตภัณฑ์ จึงทำให้ซึ่งเราเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกว่าเป็นที่หนึ่งในเรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยด้านฮาลาล การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล และการพัฒนาระบบในการสร้างความปลอดภัยด้านฮาลาล จนกลายเป็นต้นแบบที่ประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นประเทศโลกมุสลิมและประเทศที่ไม่ใช่โลกมุสลิมต้องให้ความสนใจในการขอเข้าศึกษาดูงานและอบรมด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล อาทิ เช่น ปากีสถาน อุซเบกิสถาน มาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย ตุรกี รวมถึง ญี่ปุ่น กัมพูชา สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมัน
ซึ่งด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการผลิตอาหารฮาลาลให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานอาหารฮาลาลที่กำหนดไว้ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของ Codex ที่ให้ทั้งความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและเป็นผลิตภัณฑ์อาหารส่งออกที่มีคุณภาพ ตามนโยบายที่จะให้อาหารฮาลาลในประเทศไทยสู่ครัวโลก ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมองผลิตภัณฑ์ฮาลาลเสียใหม่ เพราะถ้าเปรียบเทียบแล้วไทยยังส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาลน้อยถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้ถูกมองเห็นว่าตลาดฮาลาลนั้นเป็นตลาดเล็ก เช่น ไทยมองตลาดฮาลาลอยู่ที่ 17% ของตลาดอาหารโลก แต่สำหรับประเทศเยอรมันมองตลาดฮาลาลอยู่ที่ 89 % หรือ Halal for all ส่วนไทยมองว่าเป็น Halal for Muslim เราจึงควรเร่งพัฒนาและให้ความรู้ว่าฮาลาลเป็นเรื่องของความปลอดภัยของทุกๆ คนทั่วโลก เพราะปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชากรมุสลิมมีการกำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดด คาดว่าในปี 2030 จะมีจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกกว่า 2,200 ล้านคน คิดเป็น26.4% ของประชากรทั้งโลก จากปัจจุบันมีอยู่ 2,000 ล้านคนหรือ 25% ซึ่งถ้าไทยให้ความสำคัญในเรื่องของเครื่องหมายฮาลาล การส่งออกของไทยก็จะสามารถขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด เพิ่มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้อย่างมากเลยทีเดียว รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวปิดท้าย
ละครอักษรฯ ซ้อน "คณะลครเกเรกำดัด" มีตัวลครอย่างบรมโก้ฟรีที่สุด, จะเล่น "ละครล้อ ซ้อนละครร้อง" เรื่อง "ตั้งจิตคิดคลั่ง" 15-25 มกราคม 2569
SCCT ผนึกกำลัง IFSCC จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ NANOTEC จัดสัมมนาพิเศษระดับโลก เปิดมุมมองอนาคต "Skin Longevity and Epigenetics"
ปตท. คว้า 6 รางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2025 สะท้อนบทบาทองค์กรแห่งความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เปิด "พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน" "มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์"
"สารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 รวย 1.89 แสนล้านบาท"
TMA ชี้ทางรอดธุรกิจไทย ปี 69 องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน "เทคโนโลยี คน นวัตกรรม ความยั่งยืน" หัวใจหลักฝ่าคลื่นเศรษฐกิจ
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เปิดตัว "CHULA STORE" The Showcase of Chulaness
SMC จับมือ ทีเส็บ จัดงาน Visionary Leaders' Dialogue ชูอุตสาหกรรมไมซ์ขับเคลื่อนศักยภาพการแข่งขันของไทย
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เชิญชม "พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน" ภายใต้แนวคิด "มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์"