กอปภ.ก.สั่งการ 20 จังหวัด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และคลื่นลมแรงบริเวณอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ในระยะนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ 20 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ในระยะนี้ โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลังและเครื่องจักรกลสาธารณภัย รวมถึงจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมแจ้งเตือนประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
          นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า กอปภ.ก. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ปริมาณน้ำท่าและปริมาณน้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำหลายแห่งอยู่ในระดับสูง ทำให้มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน ประกอบกับประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 5 – 9 สิงหาคม 2561 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นทุกภาค ซึ่งปริมาณฝนสะสมที่เพิ่มมากขึ้น อาจเกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร บก.ปภ.ช.จึงได้สั่งการให้จังหวัดเสี่ยงภัย แยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ เพชรบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่พื้นที่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานจนถึงเขื่อนเพชร รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอบ้านแหลม และอำเภอแก่งกระจาน ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนวชิราลงกรณ์และเขื่อนศรีนครินทร์ ได้แก่ กาญจนบุรี รวม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอท่าม่วง และอำเภอท่ามะกา ราชบุรี รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้างโป่ง อำเภอโพธาราม และอำเภอเมืองราชบุรี สำหรับจังหวัดริมแม่น้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ บึงกาฬ รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเซกา อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอเมืองบึงกาฬ สกลนคร รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว และอำเภอโคกศรีสุพรรณ นครพนม รวม 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาแก อำเภอเรณูนคร อำเภอบ้านแพง อำเภอท่าอุเทน อำเภอเมืองนครพนม และอำเภอธาตุพนม ร้อยเอ็ด ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ ยโสธร รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าติ้ว และอำเภอมหาชนะชัย มุกดาหาร รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหว้านใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร และอำเภอดอนตาล อุบลราชธานี รวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอโขงเจียม และอำเภอบุณฑริก นอกจากนี้ พื้นที่ฝั่งอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมรับมือภาวะอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรงในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ ตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัย ตลอดจนกำชับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ภัยให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้จังหวัดประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานและเครือข่ายอาสาสมัครทุกภาคส่วน โดยเตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลัง เครื่องจักรกลสาธารณภัย และจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่เสียงคลื่นลมแรง ให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่าประมง และตำรวจน้ำออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือ หากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
 
 

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+น้ำท่วมฉับพลันวันนี้

กทม. เร่งถ่ายเทไหลเวียนน้ำในคลองช่องนนทรี เตรียมขุดลอกดินเลน-ทำความสะอาดท่อลอด

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวชี้แจงกรณีมีข้อสังเกตสภาพน้ำเน่าเสียในคลองช่องนนทรีว่า สืบเนื่องจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้งเตือน กทม. ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-29 ต.ค. 67 เนื่องจากพายุโซนร้อนกำลังแรง "จ่ามี" โดย สนน. ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งลดระดับน้ำตามคูคลองต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงคลองช่องนนทรี เพื่อรองรับน้ำฝนและ ลดผลกระทบต่อปัญหาน้ำท่วมพื้นที่

กทม. เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำรองรับสถานการณ์ฝน

นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวกรณีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังว่า กทม. ได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมด้านระบบระบายน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนัก โดยใช้แผน...

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส ...

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 193...

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 191...

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 31 อำเภอ 171 ตำบล 908...

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 27 อำเภอ 145...

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประสานจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาค...

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 5 จังหวัด 36 อำเภอ 186 ตำบล 899 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,469 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย...

ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 3 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

22 ธ.ค. 63 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร...