"ความโดดเด่นของโปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน นอกจากจะลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าแล้ว ยังสร้างปรากฏการณ์ให้ลูกค้าในกลุ่ม SMEs เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากโปรแกรมสินเชื่อแวลูเชนพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนกระบวนการกู้ยืมเงินผ่านระบบสนับสนุนทางดิจิทัลซึ่งแตกต่างจากขั้นตอนแบบเดิมๆ จุดเด่นคือ สินเชื่อภายใต้โปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและลูกค้าสามารถเบิกใช้สินเชื่อได้ถึง 90% ของใบแจ้งหนี้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ อีกทั้งยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการกู้ (ปกติคิดในอัตรา 2% ของวงเงินกู้) อีกด้วย ซึ่งผู้ผลิตสินค้าจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหมุนเวียนหรือสภาพคล่องอีกต่อไป" นายอนุวัติร์กล่าว
โปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน มีหลักการง่ายๆ คือ เมื่อลูกค้าผู้สั่งสินค้าต้องการสั่งซื้อจากผู้ผลิตสินค้า โดยทั้งสองฝ่าย จะเป็นลูกค้าของธนาคารมาก่อนหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน ก็สามารถแจ้งชื่อทั้งชื่อผู้สั่งสินค้าและผู้ผลิตมายังธนาคาร โดยในกระบวนการทั้งหมด ธนาคารธนชาต และ บีไฮฟ์ เอเชีย จะดำเนินการติดต่อไปยังลูกค้าผู้สั่งซื้อสินค้า เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้นของผู้ผลิตสินค้าที่เป็นคู่ค้าของผู้สั่งซื้อรายนั้นๆ พร้อมกับการเสนอวงเงินสินเชื่อให้กับผู้ผลิตสินค้า โดยจะพิจารณาจากประวัติที่ดีของผู้ผลิตรายนั้นเป็นหลัก และพิจารณาวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 90% ของมูลค่าการสั่งซื้อ หรือ 90% ของใบแจ้งหนี้ ด้วยข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ MLR + 1 โดยไม่ต้องมีหลักประกันใดๆ อีกทั้งยังไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกู้อีกด้วย (ปกติเก็บ 2% ของวงเงินกู้) หลังจากมีการผลิตสินค้าเรียบร้อยและมีการออกใบเรียกเก็บเงินแล้ว ลูกค้าผู้ผลิตสินค้าสามารถยื่นขอเบิกใช้สินเชื่อจากธนาคารได้ทันทีผ่านโปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน โดยไม่ต้องรอการชำระเงินค่าซื้อสินค้าจากผู้สั่งซื้อสินค้า ซึ่งอาจจะต้องรออีก 1-2 เดือนหรือตามระยะเวลาเครดิต เพื่อผู้ผลิตจะได้นำเงินที่ได้ทันทีจากธนาคารผ่านระบบแวลูเชน ไปดำเนินการผลิตสินค้าสำหรับคำสั่งซื้ออื่นๆ ต่อไป โดยไม่ต้องรอคู่ค้าผู้สั่งซื้อชำระเงินเข้ามา นอกจากนี้ ลูกค้าผู้สั่งซื้อยังสามารถชำระเงินค่าสินค้าดังกล่าวผ่าน โปรแกรมสินเชื่อแวลูเชนได้อีกด้วย ดังนั้น กระบวนการดังกล่าวจึงเพิ่มความคล่องตัว และความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด
นายจัสติน ไรท์ ผู้อำนวยการของบีไฮฟ์ภูมิภาคเอเชีย กล่าวเสริมว่า โปรแกรมสินเชื่อแวลูเชน จะทำให้ธนาคารธนชาต มีศักยภาพที่สำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มสินค้าและบริการเพื่อธุรกิจ SME ของธนาคาร และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะประสานความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับธนาคาร โดยมีเป้าหมายในการขยายความร่วมมือต่อไปในอนาคต
"ด้วยความพร้อมของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กับความเป็นมืออาชีพของพันธมิตรทางธุรกิจระดับสากลของ บริษัท บีไฮฟ์ เอเชีย จำกัด ทางธนาคารมั่นใจอย่างยิ่งว่าโปรแกรมสินเชื่อแวลูเชนจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและจะมีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวของวงจรการผลิตและการสั่งซื้อในทุกอุตสาหกรรม และรองรับฟินเทค ประเทศไทยในยุค 4.0 ที่จะถึงในอนาคตอันใกล้นี้" นายอนุวัติร์ กล่าวสรุป
สอบถามเพิ่มเติมที่ธนาคารธนชาต โทร. 1770 หรือ www.thanachartbank.co.th
ทีทีบีไดรฟ์ ร่วมกับ ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการจองรถยนต์ออนไลน์
ทีทีบีไดรฟ์ จับมือ Audi Thailand สนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้แก่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อรถยนต์
ทีเอ็มบีธนชาต สนับสนุนพลังอาสาสมัครทีทีบี มุ่งมั่นสานต่อโครงการ "เปลี่ยนเพื่อชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน" ตลอดปี 2565
ทีเอ็มบีธนชาตจับมือวีซ่า ยกระดับประสบการณ์ทางการเงิน เฉพาะลูกค้าที่ถือบัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ ต่อยอดความคุ้มค่าแบบไม่มีที่สิ้นสุด
ทีเอ็มบีและธนชาต มอบรางวัลรถยนต์แก่ผู้โชคดี จากสลากบำรุงกาชาดไทย "ทำบุญลุ้น BENZ" มูลค่ารวมกว่า 8.6 ล้านบาท
ทีเอ็มบีและธนชาต ผนึกกำลังช่วยลูกค้าลดหย่อนภาษีช่วงโค้งสุดท้ายปี 63 ใช้คะแนนสะสมของบัตรเครดิตแลกเป็นหน่วยลงทุนได้ง่ายๆ เพื่อชีวิตการเงินที่ดียิ่งขึ้น
ทีเอ็มบี และธนชาต พร้อมให้บริการเปิดบัญชีที่สาขา ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563
แจกจริง! ธนชาตมอบมาสด้า 3 ให้ลูกค้าผู้โชคดีแคมเปญ “โชคหล่นทับ ปี 2”
ภาพข่าว: เอฟดับบลิวดี ผนึกกำลัง ทีเอ็มบี พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง