- ฮัทชิสัน พอร์ท จะลงทุน 20,000 ล้านบาทในท่าเทียบเรือชุด D โดยจะเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
- หนึ่งในท่าเทียบเรือแห่งแรกๆ ของโลกที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับปั้นจั่นหน้าท่าและปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางทั้งหมด โดยหนึ่งในเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่สุดในโลกได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือชุด D มาแล้ว
- เมื่อเสร็จสมบูรณ์ ท่าเทียบเรือชุด D จะเพิ่มความสามารถในการรองรับตู้สินค้าของท่าเรือแหลมฉบังราว 40 เปอร์เซ็นต์
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือชั้นนำในประเทศไทยเปิดท่าเทียบเรือชุด D อย่างเป็นทางการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หนึ่งในเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้เข้าเทียบท่าท่าเทียบเรือชุด D มาแล้ว โดยท่าเทียบเรือชุดนี้จะติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล (Remote Control Technology) อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน พร้อมยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าระดับโลก
ทั้งนี้ ท่าเทียบเรือชุด D เป็นหนึ่งในท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าแห่งแรกของโลกที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับปั้นจั่นหน้าท่าและปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางทั้งหมด โดยจะเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย พร้อมความสามารถในการรองรับบรรดาเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เฟสแรกของท่าเทียบเรือชุด D เปิดให้บริการแล้ว โดยมีความยาวหน้าท่า 400 เมตร ประกอบด้วยปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Super Post Panamax Quay Cranes) จำนวน 3 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง (Rubber Tyred Gantry Cranes) จำนวน 10 คัน ซึ่งในการก่อสร้างขั้นต่อมา ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าจำนวน 3 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางจำนวน 10 คัน ได้ถูกขนส่งมายังท่าเทียบเรือในวันที่ 29 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา และจะพร้อมใช้งานภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ ท่าเทียบเรือชุด D จะมีความยาวหน้าท่ารวมทั้งสิ้น 1,700 เมตร ประกอบไปด้วยปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าจำนวน 17 คัน และมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางจำนวน 43 คัน ทั้งหมดใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล เพิ่มความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ราว 3.5 ล้านทีอียูต่อปี (หน่วยนับตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต) โดยเพิ่มความสามารถในการรองรับตู้สินค้าของท่าเทียบเรือแหลมฉบังได้อีกราว 40 เปอร์เซ็นต์ หรือให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้ทั้งสิ้น
13 ล้านทีอียู ทั้งนี้ การเลือกใช้เทคโนโลยีการควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลจะเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้กับสายการเดินเรือ รวมถึงผู้ใช้งานท่าเทียบเรือรายอื่นๆ
ล่าสุด เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ได้ต้อนรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเข้าเทียบท่าในประเทศไทย ซึ่งท่าเทียบเรือชุด D เป็นท่าเทียบเรือแห่งแรกในประเทศไทยที่มีศักยภาพรองรับเรือขนส่งสินค้าที่มีความยาวรวมเกิน 350 เมตร โดยได้ต้อนรับเรือขนส่งสินค้า "ONE COLUMBA" ของสายการเดินเรือ โอเชี่ยน เน็ตเวิร์ค เอ็กซ์เพรส (Ocean Network Express - ONE)
มร. สตีเฟ่น แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวในงานเปิดท่าเทียบเรือชุด D ณ ท่าเรือแหลมฉบังว่า "ขณะนี้ ท่าเทียบเรือชุด D ได้กลายเป็นความจริงแล้ว โดยเราได้รับหนึ่งในเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้าเทียบท่ามาแล้ว ท่าเทียบเรือชุดนี้พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยในระดับโลก ซึ่งจะช่วยยกระดับการปฏิบัติงานของฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล จำนวนเม็ดเงินที่เราได้ลงทุนไปกับท่าเทียบเรือชุดนี้ คงได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ฮัทชิสัน พอร์ท พร้อมลงทุนระยะยาวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอย่างจริงจัง นี่นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่การขนส่งตู้สินค้าลงและขึ้นเรือทั้งหมดถูกปฏิบัติการด้วยปั้นจั่นที่ติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลหรือรีโมทคอนโทรลทั้งหมด ท่าเทียบเรือแห่ง ใหม่นี้ จะยังช่วยเพิ่มศักยภาพของห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนในประเทศไทย ผ่านการสร้างโอกาสในการต่อยอดการพัฒนาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ตลอดจนการส่งเสริมวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างยั่งยืน"
เกี่ยวกับฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (Hutchison Ports Thailand - HPT) ได้รับการก่อตั้งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งตู้สินค้าของประเทศไทย บริษัทฯ ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนชายฝั่งของจังหวัดชลบุรีที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ลงมาเพียง 130 กิโลเมตร ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ให้บริการอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ รวมถึง บริการสถานีขนถ่ายสินค้า ระบบรถไฟขนส่งรางคู่และมีเส้นทางเชื่อมต่อที่ดีกว่าสู่ทางหลวงสายหลักเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางในที่ต่างๆ ในประเทศไทย โดยมีจุดให้บริการในแหลมฉบังอยู่ที่ ท่าเทียบเรือ A2 A3 C1 C2 D1 D2 และ D3
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เป็นสมาชิกของกลุ่มฮัทชิสัน พอร์ท ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งของบริษัท ซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ จำกัด (CK Hutchison Holdings Limited) ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านท่าเทียบเรือและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ฮัทชิสัน พอร์ท เป็นผู้ลงทุน พัฒนาและดำเนินกิจการด้านท่าเทียบเรือชั้นนำของโลก มีเครือข่ายท่าเทียบเรือถึง 51 แห่ง กระจายอยู่ใน 26 ประเทศทั่วโลก ทั้งใน เอเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฮัทชิสัน พอร์ท ได้ขยายกิจการครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ท่าเทียบเรือโดยสาร บริการท่าอากาศยาน ศูนย์กระจายสินค้า บริการขนส่งด้วยระบบรางและอู่ซ่อมเรือ
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ตอกย้ำบทบาทสำคัญของท่าเทียบเรือในการสร้างอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลที่ยั่งยืน
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย จับมือ ม. เกษตรศาสตร์ สานต่อเจตนารมณ์ สร้างความแข็งแกร่งเพื่ออุตสาหกรรมพาณิชย์นาวีที่ยั่งยืน
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย โชว์วิสัยทัศน์การพัฒนากิจการท่าเรือเพื่อความยั่งยืน บนเวที SEA the Future 2023
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย โชว์ยอดธุรกิจโตตามเป้า แม้ทั่วโลกเผชิญการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการค้า
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย คืนชีพขยะเหลือใช้ในโครงการ Wonder of Waste ต่อยอดแผนกลยุทธ์ธุรกิจสีเขียว
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย คืนชีพขยะเหลือใช้ในโครงการ Wonder of Waste ต่อยอดแผนกลยุทธ์ธุรกิจสีเขียว
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย สานฝันอีกขั้นสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยรางวัลเกียรติยศการบริหารจัดการท่าเรือสีเขียวระดับสากล (GPAS)
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย รุกต่อเนื่องพัฒนาสู่ท่าเทียบเรืออัจฉริยะ รับมอบรถหัวลากระบบอัตโนมัติใหม่เก้าคัน ยกระดับการให้บริการและความปลอดภัย