วงการเหล็กชี้ยุติเซฟการ์ดพังแน่! ผู้ผลิต-ผู้ใช้ประสานเสียงยืดมาตรการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ผู้ผลิต – ผู้ใช้เหล็กชี้ยุติมาตรการเซฟการ์ดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศพังแน่ วอนรัฐฯ ต่ออายุเซฟการ์ดที่กำลังหมดอายุลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ป้องกันสงครามทางการค้า สินค้าเหล็กที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศที่มีมาตรการทางการค้าระบายเข้ามา เผยหลายประเทศใช้มาตรการเซฟการ์ดในรูปแบบพิเศษ เปิดไต่สวนสินค้าเหล็กหลายประเภทในคราวเดียวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน
          นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และผู้ประสานงานกลุ่ม 7 สมาคมฯ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวกระทรวงพาณิชย์ไม่ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น หรือเซฟการ์ด ของสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ ซึ่งมาตรการจะหมดอายุลงในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ว่าได้สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเหล็กทั้งวงการ เนื่องจากขณะนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างมีนโยบายในการคุ้มครองอุตสาหกรรมในประเทศจากสงครามทางการค้า แต่ประเทศไทยกลับมีนโยบายที่สวนกระแสโลก เซฟการ์ดเป็นมาตรการที่มีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับอุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนในปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์สงครามทางการค้าของสหรัฐอเมริกา-จีน ซึ่งปัจจุบันประเทศผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ของโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกาที่ใช้มาตรการ 232 
          "สหภาพยุโรป ตุรกี และแคนาดา ใช้มาตรการเซฟการ์ดในรูปแบบพิเศษ ที่เปิดไต่สวนสินค้าเหล็กหลายประเภทในคราวเดียวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังนั้นสินค้าเหล็กที่ไม่สามารถส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ได้ย่อมต้องถูกระบายไปยังประเทศที่ไม่มีมาตรการทางการค้า และหากไทยยุติมาตรการเซฟการ์ดในช่วงนี้ก็จะทำให้เกิดวิกฤติต่ออุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศ ดังเช่นในปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงก่อนบังคับใช้มาตรการผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนบางรายต้องหยุดดำเนินการชั่วคราวไปเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี และหากมองจากสถานการณ์ในครั้งนี้ผลกระทบจะมีความรุนแรงเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน" 
          "หากมีสินค้าไหลทะลักเข้ามาหลังยุติมาตรการ กลุ่มผู้ผลิตในประเทศที่มีการลงทุนไปกว่า 200,000 ล้านบาทอาจต้องเผชิญอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุดในการดำเนินธุรกิจ และอาจจะส่งผลกระทบต่อคู่ค้า และธนาคารเจ้าหนี้ รวมถึงส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ต้องใช้เงินดังกล่าวเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนของภาคเอกชนในประเทศ"
          "ทั้งนี้ กลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพื่อขอให้พิจารณาใช้มาตรการค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็ก (Surcharge) กรณีที่ไม่มีการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ด ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2558 ได้อนุมัติในหลักการให้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ (Surcharge) สำหรับสินค้าเหล็กกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการคุ้มครองจากมาตรการของรัฐ ตามมาตรา 49 ของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และจะเข้ายื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์นี้เพื่อชี้แจงความจำเป็นของการต่ออายุมาตรการเซฟการ์ด และความเสียหายของอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศกรณีไม่มีมาตรการ" นายนาวากล่าว
          นายวรพจน์ เพียรอภิธรรม นายกสมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น ซึ่งเป็นสมาคมหลักที่เป็นผู้ใช้สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "สมาชิกของสมาคมเป็นผู้ใช้สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีทั้งการนำเข้า และซื้อสินค้าในประเทศ และถึงแม้มีมาตรการเซฟการ์ด สินค้าในประเทศก็มีการปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาด และต้นทุนในการผลิต ไม่ได้ถือโอกาสปรับราคาอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งสมาชิกฯ ก็ยินดีสนับสนุนการใช้สินค้าในประเทศ เพื่อให้ทั้งอุตสาหกรรมสามารถดำเนินธุรกิจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้ แต่หากภาครัฐไม่มีการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดต่อไปในช่วงนี้ และเกิดขึ้นอย่างกระชั้นชิดไม่มีเวลาให้อุตสาหกรรมในประเทศได้เตรียมตัว (จะมีการพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ และมาตรการจะหมดอายุวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562) เชื่อว่าอุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิตต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
          เนื่องจากสินค้าที่จะไหลทะลักเข้ามา โดยเฉพาะจากจีนมีราคาต่ำมากผิดปกติจะส่งผลให้ ธุรกิจในอุตสาหกรรมปลายน้ำจะเกิดการชะงักงัน การทำธุรกิจชะลอตัว เนื่องจากผู้ผลิต และผู้ซื้อไม่มีความมั่นใจในราคาสินค้า ผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนที่เกิดขึ้น และสุดท้ายต้องประสบกับภาวะขาดทุน เนื่องจากต้องลดราคาสินค้าตามราคาสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนที่ไหลทะลักเข้ามา ดังนั้นสมาคมฯ ในฐานะผู้ใช้หลักขอสนับสนุนให้ภาครัฐขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดต่อไป 3 ปี หรืออย่างจนกว่าปัญหาสงครามทางการค้าจะยุติลง รวมถึงให้ผู้ประกอบการในประเทศสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังไม่มีมาตรการได้เสียก่อน"
          นอกจากนี้ นายเชาวรัตน์ จั่นประดับ นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย และนายพงศ์เทพ เทพบางจาก นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ร่วมให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "สมาคมฯ สนับสนุนการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดเช่นกัน เนื่องจากหากยุติมาตรการอย่างกะทันหันเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิตอย่างแน่นอน และสำหรับสมาชิกของสมาคมที่เป็นนักลงทุนต่างชาติจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คาดว่าไม่น่าจะเกิดการขอชดเชย และการตอบโต้จากทั้ง 2 ประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากทั้ง 2 ประเทศเป็นสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เหล็กชั้นคุณภาพพิเศษ และเหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับการรีดเย็นต่อ ได้รับการยกเว้นมาตรการอยู่แล้ว จึงไม่กระทบใดๆ"
          ในมุมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวว่าเจตนารมณ์ของการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมภายในขณะดำเนินการปรับตัวเพื่อแข่งขันกับสินค้านำเข้า ดังนั้นการยุติมาตรการโดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมภายในไม่มีความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย 
          โดยในการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเซฟการ์ดในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นไปเพื่อป้องกันความเสียหายตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้เช่นกัน
          นอกจากนี้ จากปัญหาความรุนแรงของสงครามทางการค้าของสหรัฐ และจีนที่ยังคงมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศต่างๆทั่วโลกมีการใช้มาตรการเซฟการ์ด และมาตรการอื่นๆคุ้มครองอุตสาหกรรมเหล็กของตน แต่ไทยกลับจะยุติมาตรการเซฟการ์ดซึ่งเป็นมาตรการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ การยุติมาตรการจึงเป็นสิ่งที่ควรจะพิจารณาทบทวนอีกครั้งเพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
          อย่างไรก็ตามนับเป็นอีกครั้งที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน และอุตสาหกรรมปลายน้ำได้ซึ่งเป็นผู้ใช้หลักได้ออกมาให้ความเห็นที่สอดคล้องกันเช่นนี้ ว่าการยุติมาตรการเซฟการ์ดจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิต ไม่ใช่เฉพาะผู้ผลิตสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเท่านั้น ดังนั้นจึงขอความกรุณาคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้องทบทวนผลการพิจารณาเพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กไทย และเศรษฐกิจไทยในภาพรวมสามารถเดินหน้าต่อไปได้
วงการเหล็กชี้ยุติเซฟการ์ดพังแน่! ผู้ผลิต-ผู้ใช้ประสานเสียงยืดมาตรการ
 
วงการเหล็กชี้ยุติเซฟการ์ดพังแน่! ผู้ผลิต-ผู้ใช้ประสานเสียงยืดมาตรการ
 
 

ข่าวสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย+เหล็กแผ่นรีดร้อนวันนี้

ภาพข่าว: 7 สมาคมเหล็กยื่นหนังสือชี้แจงความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ผลิตเหล็กเคลือบสังกะสีและกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทยและผู้ประสานงานกลุ่ม 7 สมาคมเหล็ก และผู้บริหารสมาคมเหล็กทั้ง 7 สมาคม พร้อมด้วยพนักงานจากบริษัทเหล็กต่างๆ เข้ายื่นหนังสือชี้แจงความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน และกลุ่มผู้ผลิตเหล็กเคลือบสังกะสี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และความจำเป็นของการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการ Safeguard รวมถึงชี้แจงในประเด็นต่างๆที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาให้เหตุผลเกี่ยวกับการยุติมาตรการซึ่งขัดกับข้อเท็จจริง ถึงนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ณ ศูนย์รับ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระท... รมว.คมนาคม ยืนยันโครงการคมนาคมขนส่งภาครัฐใช้เหล็กในประเทศ — นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถกเข้มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก เดินหน้าก...

7 สมาคมเหล็กยันช่วยรัฐคุมผู้จำหน่ายต้องส่งมอบสินค้าเหล็ก ย้ำกำลังการผลิต 25 ล้านตัน พร้อมรองรับความต้องการ ราคาพ้นจุดต่ำสุดปรับขึ้นตามตลาดโลก ทำจีนเบี้ยวออเดอร์

7 สมาคม ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย ยืนยันจุดยืน "เน้นความปลอดภัยของผู้บริโภค-การค้าสินค้าเหล็กอย่างเป็นธรรม"พร้อมอาสาดันไม่ให้...

ผู้ผลิตเหล็กไทย ปลื้มกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง สกัดสินค้าเหล็กด้อยคุณภาพและเลี่ยงอากร วอนเร่งมาตรการแบบบูรณาการ

กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย 7 สมาคม อาทิ สมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น สมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า สมาคมผู้ผลิตเหล็ก...

อุตสาหกรรมเหล็กอาเซียนเผชิญวิกฤตเหล็กนำเข้าทุบตลาด จับมือร้องอาเซียนและรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหา

สมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าอาเซียน (AISC) ซึ่งเป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมเหล็กใหญ่สุดจากทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ประชุมด่วนถกปัญหาอาเซียนถูกเหล็กนำเข้าทุ่มตลาดรุนแรงต่อเนื่อง ร้องอาเซียนและรัฐบาลแต่ละประเทศเร่ง...

อุตสาหกรรมเหล็กอาเซียนอ่วมโดนเหล็กนำเข้าทุบตลาด ร้องรัฐบาลเร่งใช้มาตรการเซฟการ์ดปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น

ที่ประชุมสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAISI) และสมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าอาเซียน (AISC) ซึ่งเป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมเหล็กใหญ่สุดจากทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน จัดขึ้นที่สิงค...

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567 บริษัท จี... GJS เตรียมลงทุน 1.5 พันล้านบาทยกระดับศักยภาพการผลิต — เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567 บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) ( GJS ) เปิดเผยการตัดสินใจลงทุนจำนว...

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลั... ผลงานเอสเอสไอส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ก.พลังงานมอบรางวัลThailand Energy Awards 2023 — นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน มอบรางวัล ดีเด...