ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกในด้านความยั่งยืน 6 ปีซ้อน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกในด้านความยั่งยืน 6 ปีซ้อน ของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ จากการประกาศผล SAM Sustainability Award 2019
          - ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซถึง 6 ปีซ้อน
          - สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ในทุกมิติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม 

          เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ (Silver Award) จากการจัดอันดับของ SAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI

          นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 2,686 แห่ง แบ่งออกเป็น 60 อุตสาหกรรม ได้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย SAM สำหรับผลการประเมินที่ได้รับนั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าไทยออยล์อยู่ในกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลกในอุตสาหกรรมเดียวกันที่บริหารและดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยมุ่งเน้นความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำมาเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว"
          " ไทยออยล์ได้รับการยอมรับจาก SAM ว่ามีผลงานโดนเด่นทั้งทางด้านมิติเศรษฐกิจ ซึ่งมีการบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุกต่อความเสี่ยงใหม่ (Emerging risks) ที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต และมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ ในมิติสิ่งแวดล้อม ไทยออยล์มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านนโยบายและแนวปฏิบัติซึ่งครอบคลุมทุกกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบและผู้รับเหมา การดำเนินการผลิตและการจัดการกากของเสีย การส่งมอบผลิตภัณฑ์ และความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังได้ขยายการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมสู่บริษัทในกลุ่ม สำหรับมิติด้านสังคม นอกจากกิจกรรมและโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนต่างๆแล้ว ไทยออยล์ยังได้รับการยอมรับในการดึงดูดความสนใจของผู้มีความสามารถให้มาร่วมงานและเอาใจใส่ดูแลพนักงานซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในทุกความสำเร็จของบริษัทอีกด้วย" นายอธิคม กล่าวเสริม

สำหรับบรรณาธิการ
          - เดือนมกราคม 2557 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI ให้ไทยออยล์เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซระดับ Gold Class ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับสูงสุดของ RobecoSAM Sustainability Award 2014 
          - เดือนมกราคม 2558 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI ให้ไทยออยล์เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประเมินในครั้งนี้ และในการประเมินครั้งนี้ไทยออยล์ยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ Gold Class ติดต่อกันเป็นปีที่สองอีกด้วย ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับสูงสุดของ RobecoSAM Sustainability Award 2015
          - เดือนมกราคม 2559 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ให้เป็นทีหนึ่งด้านความยั่งยืนโดยประกาศให้ไทยออยล์เป็น Industry Leader ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง และได้รับการจัดอันดับให้เป็น Gold Class ติดต่อกันสามปีซ้อนจาก RobecoSAM Sustainability Award 2016
          - เดือนมกราคม 2560 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับ Gold Class ของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับสูงสุดจากรางวัล Sustainability Award 2017
          - เดือนมกราคม 2561 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย RobecoSAM ให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับ Gold Class ของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ห้า ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับสูงสุดจากรางวัล Sustainability Award 2018
          - เดือนมกราคม 2562 ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับโดย SAM ให้อยู่ในระดับ Silver Award ในด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซของโลก ซึ่งเป็นปีที่หกที่ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับในกลุ่มผู้นำของโลก
ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกในด้านความยั่งยืน 6 ปีซ้อน
 

ข่าวและสิ่งแวดล้อม+การตลาดน้ำมันวันนี้

CPF แชร์องค์ความรู้ ESG สู่ภาคปฏิบัติ หนุน SMEs เสริมแกร่ง-โตอย่างยั่งยืน

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันไม่ได้วัดกันที่ผลกำไรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป หากแต่ต้องวัดจากศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีความรับผิดชอบ ผู้ประกอบการ SMEs ยืนยันการดำเนินงานอย่างยั่งยืนเป็นโอกาส การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระหรือเป็นต้นทุนที่สูญเปล่า แต่เป็นการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ผู้ประกอบการ SMEs ไทยกว่า 100 รายที่เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "Empowering

มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ประสบความสำเร็... มรภ.รำไพพรรณี จันทบุรี ผนึกกำลัง 3 หน่วยงานใหญ่ จัดประชุมวิชาการนานาชาติ — มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการเป็นศูนย์กลางองค์คว...

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ลงนา... ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จับมือ เอสซีจี หนุนอสังหาฯ ไทย เดินหน้าสู่การพัฒนาโครงการที่ยั่งยืน — ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ลงนามความร่วมมือกับ เอสซ...

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ห... CPF หนุน SME ไทย ก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เพิ่มศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก — บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการ S...

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... วว. จัดตั้งศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลและขยะ...มุ่งเป็นต้นแบบโรงไฟฟ้าขยะชุมชน — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศูนย...