รศ. เอนก ศิริพานิชกร (Anek Siripanichkorn) ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า สำหรับอาคารต้นเพลิงนั้นเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กที่ปลูกสร้างมีอายุเก่าแก่กว่า 40 ปี จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุถูกเพลิงไหม้ มี 2 ประเด็นหลัก 1. โครงสร้างและรอยร้าวของตัวอาคาร พบว่ามีการแอ่นตัวอย่างมากของบันไดระหว่างชั้นและพื้นของอาคารในแต่ละชั้น ซึ่งจากการสังเกตพบว่าพื้นนั้นมีการเปลี่ยนสีเป็นสีเทาเนื่องจากได้รับความร้อนนานหลายชั่วโมง โดยปกติแล้วโครงสร้างตัวอาคารปกติเสาคานคอนกรีตเสริมเหล็กนั้นจะสามารถทนไฟได้นานประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ในเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้รับความร้อนนานประมาณ 4-5 ชั่วโมงจึงทำให้โครงสร้างอาคารเกิดชำรุดและพื้นแอ่นตัว อาจเกิดอันตรายความเสี่ยงในการพังถล่มได้ 2. อาคารมีภาวะ Fireload สูง มีวัสดุติดไฟจำนวนมากทำให้ไหม้ยาวนาน เพลิงไหม้ดังกล่าวมีลักษณะของควันสีดำพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก เกิดจากการเผาไหม้ของวัสดุพลาสติกหรือเคมีที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
นอกจากนี้ ยังพบว่าด้านหน้าของอาคารมีการติดตั้งแผ่นสังกะสีปิดโฆษณาชื่อร้านหรือชื่ออาคารตั้งแต่บริเวณชั้นที่ 2 ถึงชั้นที่ 5 จึงเป็นอุปสรรคในการเข้าสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ของเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุในครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากในย่านดังกล่าวเป็นอาคารที่สร้างมายาวนานจึงทำให้มีสายไฟฟ้าเก่าเสื่อมหรือชำรุดทรุดโทรมไป ในส่วนอาคารข้างเคียงกับอาคารต้นเพลิงนั้นไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากมีการปรับปรุงและมีรอยต่อแยกจากตัวอาคารต้นเพลิง ขณะนี้ตึกเกิดเหตุปิดการใฃ้งานเพื่อป้องกันอันตราย อย่างไรก็ตามจะทำการตรวจสอบสภาพพื้นอาคารของแต่ละชั้นเพื่อป้องกันการทรุดตัวของพื้นต่อไป
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เสนอแนะผู้ประกอบกิจการและเจ้าของอาคาร โดยเฉพาะอาคารเก่าในย่านชุมชน ว่า ธุรกิจการค้าที่เจริญก้าวหน้ามั่นคงต้องควบคู่กับความปลอดภัยและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ – สายไฟสม่ำเสมอซึ้งอาจเก่าชำรุดหรือเสื่อมสภาพไป ปฏิบัติตามหลักแห่งความปลอดภัย ควรติดตั้งระบบดับเพลิงที่เหมาะสม เช่น ระบบน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ (Sprinkler) และเครื่องเตือนไฟไหม้ (Fire Alarm) ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและราคาต่ำลง ทั้งมี Sensor สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนมือถือได้ ส่วนการติดเหล็กดัดก็ควรออกแบบให้มีบานใส่กุญแจและสามารถเปิดออกได้ยามมีเหตุฉุกเฉิน ลดความเสี่ยงของอัคคัภัย ที่สำคัญคือการซักซ้อม การสื่อสารและตรวจสอบการใช้งานระบบป้องกันอัคคีภัยให้พร้อมใช้ด้วย
“สมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข” ผู้บริหารกลุ่มสโตนเฮ้นจ์ ร่วมกับ วสท. บรรยายพิเศษเรื่องงานโครงสร้างอาคาร
ภาพข่าว: “สมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข” บรรยายพิเศษ “การตรวจสอบสภาพโครงสร้างอาคาร” ยกระดับงานวิศวกรรมไทย
ภาพข่าว: SYS ร่วมกับ วสท. ดูงานการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
25 ม.ค. นี้ วสท.เชิญร่วมอบรม เรื่อง “รอยร้าว ปัญหาฐานราก และการแก้ไข”
ผู้บริหารบางจากฯ ร่วมแบ่งปันมุมมอง จากตลาดคาร์บอนสู่เวทีวิศวกรรม
"สมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข" STI รับมอบเกียรติบัตรในฐานะ "วิศวกรอาสา" ร่วมมือ กทม. ช่วยเหลือตรวจสอบอาคาร และให้คำแนะนำในเหตุการณ์แผ่นดินไหว
AIT ส่งทีมวิศวกรเข้าร่วมสำรวจโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง ความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคารเรียน
บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI จัดอบรมการใช้เครนอย่างปลอดภัยในการก่อสร้าง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย