การเปลี่ยนแปลงหลักๆ มีอยู่สามประการด้วยกัน ประการแรกคือ อนุญาตให้ผู้มาเยือนไห่หนานสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิมมูลค่าไม่เกิน 16,000 หยวน เป็น 30,000 หยวน ประการที่สองคือ เพิ่มรายการสินค้าปลอดภาษีให้ครอบคลุมอุปกรณ์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลายรายการ อาทิ อุปกรณ์บริหารสายตา อุปกรณ์ช่วยฟัง และกายอุปกรณ์ เป็นต้น และอุปกรณ์ช่วยหายใจสำหรับการดูแลสุขภาพที่บ้าน อุปกรณ์การแพทย์ทั้งสองประเภทนี้ถูกรวมอยู่ในนโยบายปลอดภาษี เพื่อให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนสามารถซื้อสินค้าดังกล่าวได้ทุกครั้งที่เดินทางออกจากไห่หนาน และประการที่สามคือ ชาวจีนทั้งที่มีภูมิลำเนาและไม่มีภูมิลำเนาในไห่หนานสามารถได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายปลอดภาษีดังกล่าวอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมการคลัง ประจำมณฑลไห่หนาน ระบุว่า การดำเนินงานเบื้องต้นเกี่ยวกับนโยบายสินค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนไห่หนานด้วยเส้นทางทางทะเล และการเปิดร้านค้าปลอดภาษีเพิ่มอีกสองแห่งนั้น เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนโยบายปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวทางทะเลจะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ขณะที่ร้านค้าปลอดภาษีแห่งใหม่จะเริ่มเปิดให้บริการได้ หลังผ่านการตรวจสอบสถานที่ โดยร้านดิวตี้ฟรีหนึ่งในสองแห่งดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่เมืองไหโขว่ และอีกแห่งตั้งอยู่ในเมืองฉงไห่
นโยบายสินค้าปลอดภาษีถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หลังผ่านการปรับทบทวนมาแล้วถึงสี่ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 โดยมีการขยายเพดานมูลค่าการซื้อสินค้าปลอดภาษี จาก 5,000 หยวน เป็น 8,000 หยวน และ 16,000 หยวนในเวลาต่อมา เช่นเดียวกับการเพิ่มรายการสินค้าปลอดภาษี จาก 21 ประเภท เป็น 38 ประเภท และขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารรถไฟ หรือผู้โดยสารเครื่องบิน และผู้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ หรือผู้ซื้อสินค้าที่ร้าน ต่างก็ได้รับประโยชน์จากนโยบายชุดนี้ด้วยเช่นกัน
การปรับเปลี่ยนนโยบายสินค้าปลอดภาษีครั้งที่ 5 นี้ เป็นการขยายช่องทางให้แบรนด์หรูระดับนานาชาติเข้าสู่ตลาดไห่หนานและสถานที่อื่นๆ ในประเทศจีนได้มากขึ้น ตลอดจนมอบความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาเยือนไห่หนาน การเปลี่ยนแปลงนโยบายยังช่วยขับเคลื่อนการช็อปปิงจากนอกประเทศมาสู่ไห่หนาน พร้อมผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการของไห่หนาน ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยว การขนส่ง โรงแรมและการจัดเลี้ยง โลจิสติกส์และคลังสินค้า นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับไห่หนานก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางการบริโภคด้านการท่องเที่ยวนานาชาติ และพลิกโฉมไห่หนานสู่เขตการค้าเสรีนำร่อง และเขตการค้าเสรีที่ประกอบด้วยคุณลักษณะแบบจีน
ร้านค้าปลอดภาษีของไห่หนานทำยอดขาย 8.016 พันล้านหยวนในปี 2560 เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมปีนี้ ร้านค้าปลอดภาษีมีมูลค่าการซื้อขายแตะ 7.949 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และนับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2554 จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมปีนี้ ร้านค้าปลอดภาษีมียอดขายรวมทั้งสิ้น 3.85 หมื่นล้านหยวน และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 12 ล้านคน
ที่มา: Hainan Provincial Department of Finance
AsiaNet 76602
                            
                            "ชูกิจ" ผอ. สวทช./ปธ. ANSO ชู "AI ไทย 2570" เวทีโลก ย้ำความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน-ธรรมาภิบาล สู่เป้าหมาย SDGs
                        
                            TGE ต้อนรับผู้บริหาร CEEC Hunan, Anhui ลงพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนราชบุรี
                        
                            กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ค่าเงินบาทประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2568
                        
                            เอกอัครราชทูตจีน ปาฐกถา ความสัมพันธ์ไทย-จีน กับธรรมาภิบาลโลก ในงานของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) และ China Media Group (CMG)
                        
                            "รฐนน" พร้อมป้องกันแชมป์ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น "เวสต์วูด" นำทัพลงชิงชัย
                        
                            กรมทรัพย์สินทางปัญญา พบภาคเอกชนฮ่องกง สร้างความมั่นใจระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาไทยและอาเซียนเอื้อการค้าการลงทุน ภายใต้ FTA อาเซียน-ฮ่องกง
                        
                            กยท. เยือนท่าเรือชิงเต่า ศึกษาระบบบริหารจัดการฯ มุ่งสนับสนุนสถาบันเกษตรกรฯ ผ่านการปั้น "แบรนด์ RAOT" สู่ตลาดโลก
                        
                            สถาบันวิทยาการผู้นำไทย-จีน เปิดรับสมัครหลักสูตร วทจ. รุ่น 8 เสริมศักยภาพผู้นำยุคใหม่ เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจไทย-จีนอย่างยั่งยืน
                        
                            สกพอ. รับคณะ ม.นเรศวร Merseburg University และ Beibu Gulf University ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การพัฒนาพื้นที่อีอีซี