CRD รับงาน 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 274 ล้านบาท ตุนBacklogต่อเนื่องถึงปีหน้า-รอลุ้นงานก่อสร้าง ตปท.

30 Nov 2018
บมจ.เชียงใหม่ริมดอย ตุนงานเพิ่มอีกกว่า 274 ล้านบาทจากงานก่อสร้าง 3 โครงการใหม่ ที่จะรับรู้ต่อเนื่องไปถึงปี 2562 หนุนงานในมือรอรับรู้เพิ่มเป็น 993ล้านบาท งานที่ชนะการประมูลพร้อมจ่อเซ็นสัญญาอีก 2 โครงการ มูลค่า 494 ล้านบาท คาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในไตรมาส 4 นี้ ดันสัดส่วนรับงานภาคเอกชน85% ส่วนภาครัฐ 15% ผู้บริหารเผยงานที่ประมูลได้ในปี 2561 ยังเป็นไปตามเป้า 1,800 – 2,000 ล้านบาท ชี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายโครงการ แถมลุ้นงานก่อสร้างในต่างประเทศที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ คาดสิ้นปี Backlog มากกว่า 1,000 ล้านบาท
CRD รับงาน 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 274 ล้านบาท ตุนBacklogต่อเนื่องถึงปีหน้า-รอลุ้นงานก่อสร้าง ตปท.

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD ผู้ประกอบกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไปประเภทต่างๆ และการรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภค เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับงานก่อสร้างใหม่จำนวน 3 โครงการ มีมูลค่าราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด 274.05 ล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างโรงแรม รติลานนา (ส่วนขยาย) มูลค่าโครงการ 52.06 ล้านบาท โครงการก่อสร้างงานระบบไฟฟ้าและสื่อสาร งานระบบสุขาภิบาล งานระบบปรับอากาศและระบายอากาศโรงเรียนนานาชาติเกรซ (วิทยาเขตใหม่) โรงเรียนนานาชาติเกรซ มูลค่าโครงการ 43.92 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างงานอาคารโรงแรม 4 ชั้น จำนวน 4 อาคาร 1 ชั้นใต้ดิน และสระว่ายน้ำ ของ Hotel Forte Co., Ltd. มูลค่าโครงการ 178.07 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ต่อเนื่องจบจบโครงการในปี 2562

โดยงานที่ได้รับดังกล่าวสนับสนุนให้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ประมาณ 993 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาคเอกชน 85% และงานภาครัฐ 15% ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมุ่งมั่นที่เข้าประมูลต่างๆ ทั้งงานก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป งานระบบสาธารณูปโภค งานระบบภายในอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานอื่นๆ รวมถึงงานก่อสร้างด้านพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทฯยังเข้าประมูลงานในปี 2561 ตามเป้าหมาย 1,800 – 2,000 ล้านบาท โดยคาดว่าสิ้นปีจะมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) มากกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่การดำเนินงานในไตรมาส 4 บริษัทฯยังเชื่อว่าจะสามารถทำผลงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งบริษัทยังมีงานที่รอเซ็นสัญญา และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานก่อสร้างในต่างประเทศที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

"บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการทำงานด้วยคุณภาพเพื่อให้ลูกค้าพอใจ ควบคู่ไปการควบคุมต้นทุนที่เหมาะสมและการบริหารจัดการที่ดีเป็นหลักสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างการมีการเติบโตนอกเหนือจากการหาโอกาสในช่องทางหารายได้อื่นๆ และการรับงานก่อสร้างที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคงและต่อเนื่องได้ตามเป้าหมายของบริษัท" นายธีรพัฒน์ กล่าว