CRDตุนงานก่อสร้างโรงแรมที่สมุยเพิ่มเช้เข้า317ล้านบาท รวมยอดงานใหม่ต้นปี462ล.-เล็งเซ็นอีกโครงการเร็วๆนี้

          บมจ.เชียงใหม่ริมดอย รับงานใหม่ก่อสร้างโรงแรมที่สมุยมูลค่า 317 ล้านบาท เผยเตรียมเซ็นสัญญาอีกโครงการมูลค่า 129 ล้านบาทเร็วๆนี้ ตั้งเป้าเข้าประมูลงานตามแผนกว่า 2,000 ล้านบาท ย้ำยังแบ่งสัดส่วนรับงานภาครัฐ 40% และเอกชน 60% มองงานภาครัฐขับเคลื่อนต่อหลังเลือกตั้ง
          นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป งานระบบสาธารณูปโภค งานระบบภายในอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานอื่นๆ รวมถึงงานก่อสร้างด้านพลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างใหม่จากบริษัท เดอะ แพลทินัม สมุย จำกัด เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการ Holiday Inn Express and Holiday Inn Resort,Samui จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งงานโครงสร้าง,งานสถาปัตยกรรม และงานภายนอก มูลค่ารวมของโครงการไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 317,000,000 บาท ซึ่งจะเริ่มการก่อสร้างในปีนี้และสิ้นสุดการก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2563 โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปี 2563 
          โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีงานใหม่ที่ได้รับการเซ็นสัญญาไปแล้วรวมมูลค่าอยู่ที่ 462,000,000 บาท ได้แก่ งานก่อสร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารแบบครบวงจร อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มูลค่า 145,000,000 บาท และงานก่อสร้างโครงการ Holiday Inn Express and Holiday Inn Resort, Samui ที่เพิ่งได้รับดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนงานในมือของบริษัทในปีนี้อย่างที่นัยยะสำคัญ
          ขณะที่บริษัทฯยังอยู่ในระหว่างรอทำสัญญาการก่อสร้างอีก 1 โครงการในจังหวัดเชียงใหม่ มูลค่าประมาณ 129,000,000 บาท โดยบริษัทฯได้รับการประกาศเป็นผู้ชนะการเสนอราคาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมาคาดว่าจะดำเนินการเซ็นสัญญาได้เรียบร้อยในเร็วๆนี้ 
          สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯมีแผนที่จะประมูลงานไว้ที่ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท โดยปัจจุบันยังคงดำเนินการเข้านำเสนองานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของงานราชการ และภาคเอกชน ซึ่งในปีนี้ยังคงแบ่งสัดส่วนการรับงานภาครัฐอยู่ที่ 40% และงานเอกชน 60% จากแนวโน้มของภาคเอกชนที่มีการลงทุนมากขึ้น อาทิ ที่อยู่อาศัย โรงแรม เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของภาคราชการที่ปีก่อนชะลอการลงทุนอาจจะต้องรอความชัดเจนหลังการเลือกตั้งเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนของทางภาครัฐในอีกหลายโครงการ