สภาวะตลาดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,220.10-1,227.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่
โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,210 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,090 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.14 น. ของวันที่ 29/11/61)
แนวโน้มวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561
ความเห็นเชิงผ่อนคลายจากนาย
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สร้างทัศนะเชิงบวกต่อราคาทองคำ เมื่อเขาตั้งข้อสังเกตว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.0-2.25% ในขณะนี้อยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากช่วงประมาณการของระดับที่เป็นกลางซึ่งในเดือนก.ย.อยู่ที่ 2.5-3.5% นักลงทุนจำนวนมากมองว่า ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าวงจรการคุมเข้ม 3 ปีของเฟดกำลังจะสิ้นสุดลง ความเห็นดังกล่าวฉุดดอลลาร์ร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และดันราคาทองคำขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนเกี่ยวกับการมองคำกล่าวของนายพาวเวลล์ในเชิงผ่อนคลายมากเกินไป "ตลาดอาจจะตีความผิด" ขณะที่นักลงทุนกำลังรอความชัดเจนของการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน FOMC ประจำวันที่ 18-19 ธ.ค.นอกจากนี้ การปรับขึ้นของราคาทองคำถูกจำกัดโดยความกังวลเกี่ยวกับผลการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ณ ประเทศอาร์เจนตินาที่จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ ซึ่งสงครามการค้าของพวกเขาได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นวาระสำคัญ แม้ว่ากลุ่มผู้ที่มีทัศนะแข็งกร้าวในสหรัฐไม่เห็นด้วยกับการผ่อนปรนใดๆให้จีนในด้านภาษี แต่นักลงทุนบางรายมีทัศนะแง่บวกว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและปธน.สี จิ้นผิงของจีน จะสามารถหาทางลดความตึงเครียดได้ อย่างไรก็ตาม นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ระบุว่า เขากำลังพิจารณาเครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากจีนขึ้นสู่อัตรา 40% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับที่จีนเรียกเก็บต่อรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐ วายแอลจีแนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก ราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงอีกครั้งหากไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว เนื่องจากราคาทองคำแกว่งตามปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามากระทบ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาที่เหวี่ยงตัวจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนอาจจะได้รับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,209 (18,800บาท) 1,196 (18,600บาท) 1,187 (18,450บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,250บาท) 1,244 (19,350บาท) 1,256 (19,550บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,209 (18,930บาท) 1,196 (18,730บาท) 1,187 (18,590บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,380บาท) 1,244 (19,490บาท) 1,256 (19,670บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999