สจล. ตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ แนะประชาชน เกาะติดอิทธิพลของพายุปาบึก ด้วยแอปฯ WMApp และ ThailandRain พร้อมเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมแรง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           - สจล. เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยจากพายุปาบึก รองรับได้ 500 คน 

          สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตั้งศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ (Data center) เผยผลการติดตามทิศทางการเคลื่อนของพายุปาปึก ด้วยระบบพยากรณ์อากาศและแอพพลิเคชั่น "WMApp" ที่มีความแม่นยำและความละเอียดสูงที่สุด รายเขตปกครองในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ "อาเซียน" ตลอดจนได้เผยข้อมูลเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พร้อมเปิดศูนย์ประสานงานและที่พักฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก ภายใน สจล. วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร แนะประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการต่อเนื่อง จะช่วยลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น ไปจนถึงวางการแผนเตรียมความพร้อมในการรับมือในพื้นที่เสี่ยงภัย
          ทั้งนี้ผู้ประสบภัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศูนย์ประสานงานและที่พักฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก ภายใน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้ที่เบอร์ ประสานงานทั่วไป 077-506-410 แจ้งเหตุฉุกเฉิน 083-066-5373 และ 088-757-4847 หรือเข้าไปที่ https://www.facebook.com/kmitlnews/ 
          รองศาสตราจารย์ สุพจน์ ศรีนิล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทรัพยากรกายภาพและสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล.ได้ระดมศักยภาพของบุคลากรและเตรียมความพร้อมรับมืออิทธิพลจากพายุปาบึก โดยได้จัดตั้ง "ศูนย์ประสานงานและที่พักฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก" ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 
          ภายใน สจล. วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ บริเวณชั้น 1-2-3 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบในทันที โดยศูนย์ดังกล่าวสามารถรองรับผู้อพยพได้ประมาณ 500 คน พร้อมอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็นต่างๆ ได้แก่ ฟูกสำหรับ ผู้พักพิงชั่วคราว ศูนย์พยาบาลและสถานที่พักพื้น เปิดครัวพร้อมปรุงอาหาร 3 มื้อ มีน้ำประปาและไฟฟ้าสำรองขณะที่ไฟดับ น้ำไม่ไหลก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ นอกจากนี้ ภายในศูนย์ดังกล่าวยังได้ตั้งศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ (Data center) ตลอดจนการให้คำปรึกษาเพื่อเยียวยาผลกระทบทางจิตใจ โดย สจล.มีแผนฟื้นฟูและช่วยเหลือพื้นที่รับผลกระทบตามความเหมาะสมหลังจากพ้นภาวะวิกฤติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนชัย พงษ์นาค รองอธิการบดีวิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและที่พักฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดชุมพรและพื้นที่ใกล้เคียง โดยตั้งแต่เริ่มประชาสัมพันธ์ข่าวสารไปยังประชาชนในพื้นที่ มีประชาชนเริ่มติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามข้อมูลรวมถึงการ ขอความช่วยเหลือแล้ว สะท้อนให้เห็นความตื่นตัวของประชาชนที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และการรับรู้ข่าวสารที่มีประสิทธิภาพในระดับท้องถิ่น โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่เป็นอย่างดี พร้อมแนะประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการต่อเนื่อง จะช่วยลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น ไปจนถึงวางการแผนเตรียมความพร้อมในการรับมือในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมีกลุ่มที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ผู้สูงอายุ เด็ก และคนพิการ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยใกล้ที่ลาดเชิงเขาและชายฝั่งทะเล ควรพิจารณาอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยจนกว่าจะพ้นภาวะวิกฤติ
          ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชินวัชร์ สุรัสวดี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม  คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรม "WMApp" และ "ThailandRain" เปิดเผยว่า จากการติดตามพายุปาบึก (Pabuk) ด้วยแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศความละเอียดสูงสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป "WMApp" และแอปพลิเคชั่นประมาณค่าปริมาณฝนจากดาวเทียม "ThailandRain" พบว่าพายุนี้ได้ก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันก่อนจะพัฒนาเป็นพายุโซนร้อน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม โดยส่วนหน้าของ "พายุโซนร้อนปาบึก" เคลื่อนที่เข้าฝั่งภาคใต้ตอนล่างฝั่งอ่าวไทย บริเวณจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช และบางส่วนของประเทศมาเลเซีย โดยอิทธิพลของพายุดังกล่าวส่งผลให้ 15 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป จะมีฝนตกครอบคลุมทั่วภูมิภาค และตกหนักบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และตอนล่างของประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันนี้ (4 มกราคม 2562) จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 หลังจากนั้นพายุดังกล่าวจะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกสู่ทะเลอันดามัน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้น ฝนลดลงตามลำดับ โดยสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วง 1-2 วันนี้ คือ อันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม รวมถึงคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอ่าวไทย และลมกระโชกแรง 
          ซึ่งอาจสร้างความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ สำหรับระบบพยากรณ์อากาศ WMApp จะสามารถพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ และมีความละเอียดสูง โดยเป็นครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถพยากรณ์อย่างอากาศอย่างละเอียด สามารถระบุตำแหน่งและเวลาที่ฝนจะตกได้ เป็นรายเขตปกครอง และยังให้ผลพยากรณ์พายุหมุนเขตร้อน (Tropical Cyclone) ได้ล่วงหน้า 5.5 วัน ค่าประมาณฝนจากการสังเกตของดาวเทียมคลื่นมิลลิมิเตอร์เวฟแบบแพสซิฟ และดาวเทียมค้างฟ้าอินฟราเรดแบบแพสซิฟ โดยใช้อัลกอริทึม AMP และ JPP ซึ่งอัลกอริทึม AMP ถือเป็นอัลกอริทึมแรกของโลกและมีความถูกต้องแม่นยำดีที่สุดในปัจจุบัน ที่สามารถประมาณค่าหยาดน้ำฟ้าได้ครอบคลุมทั่วโลก รวมถึงพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุมและทะเลน้ำแข็ง เช่น ขั้วโลกเหนือ และยังสามารถรายงานการเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกได้ด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากกับการวางแผนการรับมือกับการเกิดภัยพิบัติ เตรียมความพร้อมอพยพประชาชนไปสู่พื้นที่ปลอดภัย และช่วยลดความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และสำหรับแอปพลิเคชั่น "ThailandRain" เป็นครั้งแรกของไทย ที่ให้ผลการประมาณค่าปริมาณฝนจากการสังเกตของดาวเทียมถึง 10 ดวง ให้ข้อมูลฝนครอบคลุมทุกจุดของประเทศ ทั้งฝนแบบเกือบทันทีทันใด ฝนรายชั่วโมง ฝนรายวัน ฝนรายเดือน และฝนรายปี โดยสามารถติดตามผลการพยากรณ์อากาศ ทั้งฝน ลม อุณหภูมิ และพายุ ได้อย่างละเอียดและเป็นปัจจุบันได้ทางเพจเฟซบุ๊กแฟนเพจ "สจล. พยากรณ์อากาศประเทศไทย" ซึ่ง ผศ.ดร.ชินวัชร์ สุรัสวดี ได้โพสท์ผลการพยากรณ์เป็นประจำทุกวัน
          ทั้งนี้ผู้ประสบภัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศูนย์ประสานงานและที่พักฉุกเฉินผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก ภายใน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้ที่เบอร์ ประสานงานทั่วไป
077-506-410 แจ้งเหตุฉุกเฉิน 083-066-5373 และ 088-757-4847 หรือเข้าไปที่ https://www.facebook.com/kmitlnews/
สจล. ตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ แนะประชาชน เกาะติดอิทธิพลของพายุปาบึก ด้วยแอปฯ WMApp และ ThailandRain พร้อมเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมแรง
 
สจล. ตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ แนะประชาชน เกาะติดอิทธิพลของพายุปาบึก ด้วยแอปฯ WMApp และ ThailandRain พร้อมเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมแรง
 
สจล. ตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ แนะประชาชน เกาะติดอิทธิพลของพายุปาบึก ด้วยแอปฯ WMApp และ ThailandRain พร้อมเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมแรง
สจล. ตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของพายุ แนะประชาชน เกาะติดอิทธิพลของพายุปาบึก ด้วยแอปฯ WMApp และ ThailandRain พร้อมเตือน 15 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมแรง
 
 
 
 

ข่าวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง+พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวันนี้

BAFS จับมือ พระจอมเกล้าลาดกระบัง ต่อยอดงานวิจัย สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสมัยใหม่

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บาฟส์) และ รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในการส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมจากการศึกษา โดยมี นายเจษฎ์ ทูปิยะ ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร บาฟส์ และ ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เพชรภา รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สจล. ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ณ สถาบัน

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. ร่วมกับ มศก. และ สจล. แถลงข่าวความสำเร็จ MSME ไทย สู่ธุรกิจสีเขียว — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร ...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แ... สวทช. - สพฐ. - สจล. ปั้นเยาวชน EEC สู่นักสร้างสรรค์อาหารยุคใหม่ ในโครงการ "EEC FOOD INNOVATION" — เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง...

คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเท... AAD สจล. จับมือ TOA สร้างสรรค์อนาคตนักออกแบบไทยผ่านนวัตกรรมสี — คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (AAD KMITL...