สำหรับปัจจัยที่น่าติดตาม?
- ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังคงเป็นสาเหตุหลักที่กดดันทิศทางการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงโลก โดยแม้ว่าประเด็นการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีน วงเงิน 2 แสนล้านเหรียญ จาก 10% ขึ้นสู่ 25% จะเลื่อนการพิจารณาออกไป 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดราว 1 มีค. 2019 แต่ในระยะสั้นเรายังคงเห็นท่าทีอันแข็งกร้าวของ Donald Trump ดังนั้นเราเชื่อว่าปัญหานี้คงยังไม่สามารถคลี่คลายได้ในระยะสั้น ซึ่งจะเป็นจุดที่กดดันการลงทุนต่อเนื่องในปีนี้
- ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กดดันการลงทุนเข้าสู่โหมด Risk off : จากประเด็นสงครามการค้าโลก ซึ่งหากยังคงยืดเยื้อต่อเนื่อง คาดจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงถัดไปมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ โดยล่าสุดหากพิจารณาในเชิงตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของประเทศสำคัญ เช่น GDP, PMI ทั้งภาคการผลิตและบริการ ล้วนพบการชะลอตัวลงอย่างเห็นชัด โดยในระยะสั้นจุดที่น่าติดตามคือ PMI ภาคการผลิต ของจีน ที่ล่าสุดเดือน พฤศจิกายน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50 จุด ถือเป็นจุด critical ซึ่งหากต่ำกว่านี้จะบ่งชี้การเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจหดตัว ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อการปรับฐานได้อีกครั้ง
- ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบโลก : เราประเมินทุกๆ ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง -1 เหรียญ มีโอกาสกดดันกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยรวม ลดลงราว 5,000 ล้านบาท (ไม่คิดรวมผลกระทบจาก Stock loss) หรือคิดเป็นแรงกดดันต่อ 2019 SET EPS ราว -0.5 จุด ต่อราคาน้ำมันดิบที่ลดลง 1 เหรียญ (เราประเมิน 2019 SET EPS ที่ 116 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐานน้ำมันดิบปี 2019 เฉลี่ยที่ 70เหรียญต่อบาร์เรล)
- นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ: ระยะสั้นเริ่มเห็นนโยบายจากภาครัฐเร่งตัวขึ้น ทั้งการกระตุ้นภาคการบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ หรือนโยบายช๊อปช่วยชาติ อีกทั้งงานประมูลโครงสร้างพื้นฐานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 อีกกว่า 9 แสนล้านบาท น่าจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น รวมถึงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ ซึ่งคาดจะออกมาช่วงเดือน มค. 2562 ล้วนเป็นปัจจัยที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวขึ้น
- การเลือกตั้งไทย 2562 สัญญาณการเลือกตั้งชัดเจนมากยิ่งขึ้น คาดเป็นแรงส่งต่อภาพรวมการลงทุนในช่วงแรก แต่อย่างไรก็ดีการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการดำเนินนโยบายต่างๆ ในช่วงถัดไปจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ดังนั้นอาจต้องระมัดระวังหลังเลือกตั้งอาจเห็นสัญญาณการปรับฐานลงได้
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เมื่อ ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จัดสัมมนา WORLD WIDE WEALTH ให้แก่ลูกค้า Investment Management
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง รับรางวัล Best Capital Markets Brokerage South East Asia 2021
กลุ่ม Maybank Kim Eng จัดสัมมนา Invest ASEAN 2021 ในหัวข้อ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จัดงาน Happy Retirement แด่ คุณมนตรี ศรไพศาล
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดตัวบริการใหม่ Investment Management บริการวางแผนการลงทุนและจัดพอร์ตให้แก่ลูกค้า
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมิน FOMC ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และอานิสงค์ของแถลงการเปิดประเทศใน 120 วัน
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินงบประมาณของสหรัฐฯปี 2022 ส่งหุ้นกลุ่มวัฎจักรเศรษฐกิจยังดูโดดเด่นในระยะยาว
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คัดสรรหุ้นที่คาดแนวโน้มทำกำไรขยายตัวได้โดดเด่นในช่วง 2Q64