สออ. แต่งตั้งไทย ขึ้นแท่นประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาไทยระดับอาเซียนและสากล

27 Dec 2018
- "ศ.ดร.สุชัชวีร์" ชี้มิติใหม่สถาบันการศึกษาไทย ต้องเชื่อมต่อนานาชาติ เพื่อก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคม
สออ. แต่งตั้งไทย ขึ้นแท่นประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาไทยระดับอาเซียนและสากล

สถาบันสมาคมสถาบันขั้นอุดมศึกษาแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (สออ.) ได้ประกาศแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) รับตำแหน่งประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งผสานความร่วมมือยกระดับคุณภาพการศึกษาแบ่งปันงานวิจัยและผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติกับประเทศสมาชิก หนุนระบบการศึกษาไทยและภูมิภาคอาเซียนสู่สากล ผลักดันการเรียนรู้รูปแบบ "แอคทีฟ เลิร์นนิ่ง" เท่าทันเทรนด์โลก ทั้งนี้ สออ.ได้ประกาศแต่งตั้ง ตำแหน่งประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในการประชุมทั่วไปประจำปี สถาบันสมาคมสถาบันขั้นอุดมศึกษาแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2561 ดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ กรุงกาซวิน ประเทศอิหร่าน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 เว็บไซต์ www.kmitl.ac.th หรือ www.facebook.com/kmitlnews

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ปัจจุบันแนมโน้มการศึกษาทั่วโลก ได้ถูกปรับโครงสร้างการเรียนในการรูปแบบแอคทีฟ เลิร์นนิ่ง (Active Learning) ด้วยการยึดโยง "ผู้เรียน" เป็นศูนย์กลาง โดยเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ผ่านการค้นคว้าและบูรณาการองค์ความรู้ในสาขาต่างๆ ด้วยตนเอง รวมถึงมีทักษะการทำงานเป็นทีม ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น และสามารถสร้างคอนเนคชั่นเพื่อต่อยอดความรู้อื่นๆ ได้ ซึ่งทักษะดังกล่าว ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพให้ผู้เรียน สามารถคิดสร้างสรรค์ หรือพัฒนานวัตกรรมองค์ความรู้ใหม่ๆ ได้ โดยปราศจากการปิดกั้นทางความคิด รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม ดังนั้นการเสริมแกร่งภาคการศึกษาไทย ให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคม และตอบสนองความต้องการในยุค 5.0 มหาวิทยาลัยไทยจึงจำเป็นต้องปรับตัว และเชื่อมโยงเครือข่ายสถาบันการศึกษานานาชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดจากการประชุมทั่วไปประจำปีสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2561 ณ มหาวิทยาลัยอิสลามอาซาด กาซวิน ประเทศอิหร่าน ได้แต่งตั้งให้ประเทศไทยรับหน้าที่เป็น "ประธานสมาคมสถาบันการศึกษาขั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของประเทศ รวมถึงการนำเสนอผลการศึกษาและผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติ จึงถือเป็นหมุดหมายสำคัญครั้งใหญ่ของภาคการศึกษาไทย ในการยกระดับการศึกษาวิจัย เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และผลงานวิจัยของนักวิจัย-นักศึกษาไทยในเวทีระดับโลก ตลอดจนก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกและสร้างพันธมิตร

อย่างไรก็ตาม สถาบันสมาคมสถาบันขั้นอุดมศึกษาแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (สออ.) หรือ The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning (ASAIHL) เป็นสมาคมอุดมศึกษาระดับภูมิภาคที่มีอายุเก่าแก่กว่า 63 ปี จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนความร่วมมือมหาวิทยาลัยสมาชิกจากนานาชาติทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภายนอก อาทิ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อเมริกา เป็นต้น ในการพัฒนางานวิจัย หลักสูตร หรือแม้กระทั่งการพัฒนาบริการสาธารณะ ให้ประสบความสำเร็จท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติ อันจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับสถาบันการศึกษาเครือข่ายในภูมิภาคอาเซียน ที่มีจำนวนกว่า 130 แห่ง ใน 9 ประเทศสมาชิก ให้สามารถยกระดับคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการในระดับอุดมศึกษา ให้เท่าทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง และพร้อมก้าวสู่การเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในระดับสากล ภายใต้ความร่วมมือพหุภาคีกว่า 160 แห่ง จาก 18 ประเทศทั่วโลก

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เข้ารับตำแหน่งประธานอธิการบดีอาเซียน ภายในงานประชุมทั่วไปประจำปี สออ. ประจำปี 2561 เมื่อเร็วๆ นี้ ณ กรุงกาซวิน ประเทศอิหร่าน โดยมีอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้าร่วมงานจำนวนมาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 เว็บไซต์ kmitl.ac.th หรือ www.facebook.com/kmitlnews