รศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทุกคนรู้กันดีว่าโอโซนเป็นก๊าซที่อยู่ในบรรยากาศมีบทบาทและประโยชน์กับโลกใบนี้อย่างยิ่งเพราะช่วยทำให้รังสี UV ที่แผ่ลงมากับแสงอาทิตย์ถูกกลั่นกรองและปกป้องไว้ทำให้โลกไม่ร้อนจนเกินไปและระดับของ UV ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์พืชและสัตว์
ด้วยเหตุผลนี้เองโอโซนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยดูแล และระวังไม่ให้โอโซนโดนทำลายลงไปเพราะนั่นหมายถึงการสูญเสียความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติที่เคยมีมา ทั้งนี้จึงเกิดแนวคิดในการจัดทำชุดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ต่อสิ่งแวดล้อมขึ้น
โดยเราได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ธนาคารโลกและธนาคารออมสิน ในการจัดชุดกิจกรรมต่อเนื่องภายใต้ชื่อ เรื่องโอโซน เรื่องของเรา ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างความตระหนักและการกระตุ้นการรับรู้ถึงปัญหาโอโซน พร้อมทั้งระดมความคิดเพื่อสร้างนโยบายที่ใช้ในการจัดการปัญหาชั้นโอโซนถูกทำลาย
ทั้งนี้เราเชื่อในแนวคิดการสร้าง Ripple effect คือ แรงกระเพื่อมที่ทำให้สังคมหันมาสนใจและส่งผลสำเร็จที่ดีในวงกว้างและยังทำงานต่อไปได้แม้กิจกรรมนั้นได้จบลงแล้วก็ตาม ซึ่งช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมไปแล้วทั้งสิ้น 4 ชุดกิจกรรม ได้แก่ 1.การบรรยายให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลดการปลดปล่อยสารทำลายชั้นโอโซนและผลกระทบที่เกิดขึ้น 2.กิจกรรม Design Thinking เพื่อสร้างแนวคิดเริ่มต้นในการสร้างความเข้าใจและจัดการปัญหาชั้นบรรยากาศโอโซนถูกทำลาย 3.การแข่งขัน Ozone Policy Hackathon เป็นการระดมความคิดสร้างสรรค์เชิงนโยบายถึงการปกป้องชั้นโอโซนที่ดีให้คงสภาพอยู่ตลอดไปได้อย่างไร โดยใช้เวลาการแข่งขันทั้งหมด 24 ชั่วโมง มีผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 13 ทีมคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 ทีมสุดท้าย ซึ่งได้แก่ทีม Ecozone, Herozone, Green Energy และ Ourzone โดยทั้ง 4 ทีมนี้จะมีโอกาสได้นำเสนอนโยบาย bottom up Ozone policy ในกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมไทย และ 4.กิจกรรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพกิจกรรมสร้างความตระหนักและรับรู้ถึงปัญหาโอโซนผ่านการร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสนใจกับคนส่วนใหญ่ในสังคม
ส่วนกิจกรรมสุดท้ายที่ได้จัดขึ้นตรงกับวันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม เป็นการเสวนาภายใต้หัวข้อ "ยุทธศาสตร์ชาติ สิ่งแวดล้อมไทย เรื่องของคนไทยทุกคน" ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนาที่น่าสนใจได้แก่ นายอภิจิน โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, ดร.อัษฎาพร ไกรพานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 5 และนางสาวลดาวัลย์ คำภา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 5
โดย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 5 กล่าวว่า สาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสิ่งแวดล้อมที่ไทยเร่งดำเนินการคือ การสร้างการเติบโต สมดุลและยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายปี 2580 ที่ไทยจะต้องมีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยประเทศไทยต้องเปลี่ยนวิธีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุลที่ยั่งยืน
ในขณะที่ นายอภิจิน โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ว่า แนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น จะดำเนินการภายใต้วิสัยทัศน์ "มุ่งสู่อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาและเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก" ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพทางการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ เพิ่มการสร้างงาน รวมถึงเป็นการพัฒนาสังคมของประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญคือการเติบโตดังกล่าวต้องดำเนินควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ ถือเป็นฐานรากหลักที่จะขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวให้บรรลุยังเป้าหมาย
ทั้งนี้ จากเดิมเราพัฒนาประเทศให้เกิดการเติบโตและก้าวหน้าโดยมองไปที่การต้องการให้คนในชาติหลุดพ้นจากรายได้ปานกลาง เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ลืมใส่ใจและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราต้องร่วมด้วยช่วยกันและทำให้ทุกคนในชาติเห็นความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม เราควรมีคุณภาพชีวิตที่ดีพร้อมๆ ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นกัน
อีกทั้ง ภายในงานวันสิ่งแวดล้อมไทยยังได้มีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "ทิศทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมกับอนาคตสิ่งแวดล้อมไทย" โดย ดร.เจนยุกต์ โล่ห์วัชรินทร์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการสร้างพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ต้องเปลี่ยนจากการสร้าง Mind Set ที่ต้องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมๆ ไปกับการสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการลดการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด หรือการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยให้นำทรัพยากรเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ได้มีการเปิดตัวบอร์ดเกม "The Ozonor" ที่เป็นสื่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าใจเรื่องโอโซนและเรื่องสิ่งแวดล้อมได้ โดยจะมอบให้โรงเรียนที่สนใจนำไปเป็นสื่อการสอนนำร่องใน 150 โรงเรียนแรก
"เรามองว่าเป็นการสร้าง Prototype ในการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมแบบใหม่ที่เรียกว่า Disruptive Environmental Education เพราะที่ผ่านมาเป็นการเรียนหน้าห้องเสียเป็นส่วนใหญ่แต่ชุดกิจกรรมนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ ทั้งเรื่อง Design Thinking Hackathon และยังมีการสร้างบอร์ดเกมเรื่องสิ่งแวดล้อมซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในเอชีย เราเชื่อว่าผลตอบรับในกิจกรรมที่ผ่านมาจากการเข้าร่วมกว่า 3,000 คน ใน 4 กิจกรรม จะทำให้โครงการดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องต่อไป" รศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าว
จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว "Green Social Enterprise Catalog"
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนเปิดโลกเทรนด์และเทคโนโลยีสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเปิดตัวหนังสือ "กูละเบื่อ" เขียนโดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา
คณะจิตวิทยา จุฬาฯ ร่วมกับ TIMS รับสมัครองค์กรร่วมคัดเลือก สุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต "Thai Mind Awards" รุ่นที่ 2
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเสวนา "รัฐศาสตร์ ในโลกแห่งอำนาจและการเมือง"
จุฬาฯ หนึ่งเดียวของไทย ASEAN Top 10 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย THE World University Rankings 2026
จุฬาฯ จับมือศาสตราจารย์ผู้สร้างคอร์สออนไลน์ระดับโลก จุดประกายการเรียนรู้และทักษะแห่งอนาคต สู่ความสำเร็จยั่งยืนในเศรษฐกิจ AI