ดัชนีสันติภาพโลกชี้ ความสงบสุขทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี แต่ยังน้อยกว่าทศวรรษก่อนหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »
          ผลการค้นพบที่สำคัญ

          - ยูเครนอันดับดีขึ้นมากที่สุด ส่วนนิการากัวอันดับร่วงลงมากที่สุด
          - ประเทศที่ลดการขยายอิทธิพลทางทหาร (106 ประเทศ) มีจำนวนมากกว่าประเทศที่เพิ่มการขยายอิทธิพลทางทหาร ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
          - นับจากปี 2551 ความสงบสุขทั่วโลกลดลง 3.78% โดยลดลงใน 81 ประเทศ และเพิ่มขึ้นใน 81 ประเทศ แต่ภาพรวมความสงบสุขทั่วโลกลดลงมากกว่าเพิ่มขึ้น

          ปัญหาภาวะโลกร้อน

          - ประชากรโลกมากกว่า 400 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความสงบสุขต่ำและมีความเสี่ยงสูงจากภาวะโลกร้อน
          - 8 จาก 25 ประเทศที่มีความสงบสุขต่ำที่สุด มีประชากร 103 ล้านคนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีภาวะโลกร้อนรุนแรง
          - ภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารามีศักยภาพต่ำที่สุดในการรับมือกับภาวะโลกร้อน ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในภูมิภาคย่ำแย่ลงไปอีก

          ผลกระทบจากความรุนแรงที่มีต่อเศรษฐกิจและ GDP

          - ผลกระทบจากความรุนแรงที่มีต่อเศรษฐกิจโลกลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 โดยลดลงสู่ระดับ 14.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2561 คิดเป็นสัดส่วน 11.2% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดทั่วโลก หรือ 1,853 ดอลลาร์ต่อคน
          - โดยเฉลี่ยแล้ว กลุ่มประเทศที่สงบสุขที่สุดมี GDP ต่อหัวเติบโตสูงกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดตลอด 60 ปีที่ผ่านมา
          - ใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงมากที่สุด พบว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 35% ของ GDP เทียบกับ 3.3% ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงน้อยที่สุด 

          รายงานดัชนีสันติภาพโลก หรือ Global Peace Index (GPI) ฉบับที่ 13 ประจำปี 2562 ซึ่งชี้วัดความสงบสุขของประเทศและภูมิภาคต่างๆทั่วโลก เผยให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ความสงบสุขทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีในปี 2561 แต่ก็ยังน้อยกว่าทศวรรษก่อนหน้าอยู่มาก โดยความสงบสุขทั่วโลกลดลงเกือบ 4% จากปี 2551 ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ได้มีการเพิ่มผลวิจัยใหม่เข้ามา นั่นคือ ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มีต่อความสงบสุข

          รายงานระบุว่า 86 ประเทศมีคะแนนความสงบสุขดีขึ้น ขณะที่ 76 ประเทศมีคะแนนแย่ลง ไอซ์แลนด์ยังคงเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลก โดยครองอันดับนี้มาตั้งแต่ปี 2551 ตามมาด้วยนิวซีแลนด์ ออสเตรีย โปรตุเกส และเดนมาร์ก ขณะที่ภูฏานมีอันดับดีขึ้นมากที่สุดในบรรดาประเทศที่ติด 20 อันดับแรก โดยกระโดดขึ้นมาถึง 43 อันดับ ในระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา

          อัฟกานิสถานรั้งตำแหน่งประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดในโลก โดยหล่นลงไปแทนที่ซีเรีย ประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ขณะที่ซูดานใต้ เยเมน และอิรัก ก็อยู่ในกลุ่มประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดในโลก โดยเยเมนติดหนึ่งใน 5 ประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดในโลกเป็นปีแรกนับตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีขึ้นมา

          รายงานนี้จัดทำโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ หรือ Institute for Economics & Peace (IEP) เพื่อให้ข้อมูลวิเคราะห์ที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับความสงบสุข คุณค่าที่มีต่อเศรษฐกิจ แนวโน้ม และแนวทางการพัฒนาสังคมที่สงบสุข รายงานนี้ครอบคลุม 99.7% ของประชากรโลก โดยมีการพิจารณาปัจจัยบ่งชี้เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 23 ประการ ซึ่งมาจากแหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือสูง ปัจจัยบ่งชี้ย่อยเหล่านี้ถูกจัดกลุ่มเป็นสามปัจจัยบ่งชี้หลัก ได้แก่ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ ความปลอดภัยและความมั่นคงในสังคม และการขยายอิทธิพลทางทหาร

          Steve Killelea ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ กล่าวว่า "แม้ว่าความสงบสุขทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในรายงานปี 2562 แต่จากการวิเคราะห์เชิงลึกพบว่ามีทั้งแนวโน้มเชิงบวกและเชิงลบ เพราะในขณะที่ความขัดแย้งยาวนานนับสิบปีเริ่มคลี่คลายทั้งในอิรักและซีเรีย กลับมีความขัดแย้งครั้งใหม่เกิดขึ้นในเยเมน นิการากัว และตุรกี ส่งผลให้ 10 ประเทศที่รั้งท้ายตารางมีความสงบสุขลดลงมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลก จึงก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น"

          4 จาก 9 ภูมิภาคทั่วโลกมีความสงบสุขเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยรัสเซียและยูเรเชียมีความสงบสุขเพิ่มขึ้นมากที่สุด ตามมาด้วยตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งลดลงในยูเครนและซีเรีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายลดลง

          อย่างไรก็ดี 2 จาก 3 ปัจจัยบ่งชี้หลักย่ำแย่ลงในทศวรรษที่ผ่านมา โดยความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แย่ลง 8.7% ด้านความปลอดภัยและความมั่นคง แย่ลง 4% แต่การขยายอิทธิพลทางทหารกลับดีขึ้น 2.6% นับจากปี 2551 ซึ่งสวนทางกับการรับรู้ของสาธารณชน โดยจำนวนทหารติดอาวุธต่อประชากร 100,000 คนปรับตัวลดลงใน 117 ประเทศ ขณะที่การใช้จ่ายทางทหารคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ก็ลดลงใน 98 ประเทศ และมีเพียง 63 ประเทศที่เพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร 

          Steve Killelea กล่าวว่า "แนวโน้มหลายอย่างตลอดทศวรรษที่ผ่านมาสะท้อนถึงความซับซ้อนของความสงบสุขทั่วโลก ในขณะที่จำนวนประเทศสนับสนุนก่อการร้ายลดลงอย่างมากในทศวรรษที่ผ่านมา โดย 62 ประเทศมีคะแนนดีขึ้น และมีเพียง 42 ประเทศที่คะแนนลดลง แต่การกักขังกลับเพิ่มขึ้น โดยอัตราการกักขังเพิ่มขึ้นใน 95 ประเทศ และลดลงใน 65 ประเทศ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีอัตราการกักขังลดลง 11% ในทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังคงมีอัตราการกักขังสูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก"

          รายงานฉบับนี้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความมั่นคงอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน โดยพบว่าประชากรราว 971 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาสภาพภูมิอากาศรุนแรงหรือรุนแรงมาก และ 400 ล้านคนในจำนวนนี้อยู่ในประเทศที่มีความสงบสุขต่ำ ขณะเดียวกัน 10% ของประชากรเหล่านี้ หรือ 103.7 ล้านคน อาศัยอยู่ใน 25 ประเทศที่รั้งท้ายในรายงานดัชนีสันติภาพโลก ซึ่งรวมถึงซูดานใต้ อิรัก ลิเบีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซูดาน เกาหลีเหนือ ไนจีเรีย และเม็กซิโก 

          ผลกระทบจากความรุนแรงที่มีต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2561 ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 โดยลดลง 3.3% สู่ระดับ 14.1 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 11.2% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก หรือ 1,853 ดอลลาร์ต่อคน โดยความขัดแย้งทางอาวุธดีขึ้นมากที่สุด อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งที่ลดลงในซีเรีย โคลอมเบีย และยูเครน นอกจากนี้ ผลกระทบจากการก่อการร้ายที่มีต่อเศรษฐกิจก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยร่วงลง 48% ในปี 2561 จากปี 2560 ทั้งนี้ ใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงมากที่สุด พบว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 35% ของ GDP เทียบกับ 3.3% ในกลุ่มประเทศที่สงบสุขที่สุด โดยซีเรียได้รับผลกระทบหนักสุดที่ 67%

          ภาพรวมระดับภูมิภาค

          - เอเชียแปซิฟิก ทั้งสามปัจจัยบ่งชี้หลักดีขึ้นในปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับเงินทุนเพื่อรักษาสันติภาพจากยูเอ็นมากขึ้น ขณะที่การประท้วงรุนแรงและจำนวนผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งภายในลดลง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการก่อการร้ายยังคงเลวร้ายลง เช่นเดียวกับการต่อสู้เพราะความขัดแย้งภายในและภายนอก สำหรับประเทศมหาอำนาจอย่างจีนไต่ขึ้นมาสองขั้นอยู่ที่อันดับ 110 โดยอยู่ระหว่างแอลจีเรียที่อันดับ 111 และจิบูตีที่อันดับ 109 

          - อเมริกากลางและแคริบเบียน ทั้งสามปัจจัยบ่งชี้หลักย่ำแย่ลงในปีที่แล้ว แม้ว่า 7 ประเทศจะมีความสงบสุขเพิ่มขึ้น และมีเพียง 5 ประเทศที่ความสงบสุขลดลง แต่โดยรวมแล้วปัจจัยบ่งชี้ย่ำแย่ลงมากกว่าดีขึ้น

          - ยุโรป เป็นภูมิภาคที่สงบสุขมากที่สุดในโลก โดยมีความสงบสุขเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในปี 2561 หลังจากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมานานนับทศวรรษแล้ว โดย 22 จาก 36 ประเทศในยุโรปมีความสงบสุขมากขึ้น และ 17 จาก 25 ประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลกเป็นประเทศในยุโรป

          - ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เป็นภูมิภาคที่สงบสุขน้อยที่สุดในโลก แต่มีความสงบสุขเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่แล้ว โดย 11 ประเทศมีความสงบสุขเพิ่มขึ้น และซีเรียไม่ใช่ประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดในโลกอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิรักก็เริ่มฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม

          - อเมริกาเหนือ เป็นภูมิภาคที่มีความสงบสุขลดลงมากที่สุดเป็นอันดับสองในปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกามีความสงบสุขลดลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากอัตราการฆาตกรรม อาชญากรรมรุนแรง และความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สหรัฐหล่นลงมาสี่ขั้นสู่อันดับ 128 ซึ่งอยู่ระหว่างแอฟริกาใต้กับซาอุดีอาระเบีย ส่วนแคนาดามีคะแนนรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และยังคงติดหนึ่งใน 10 ประเทศที่สงบสุขมากที่สุดในโลก

          - รัสเซียและยูเรเชีย เป็นหนึ่งในสามภูมิภาคที่ทั้งสามปัจจัยบ่งชี้หลักดีขึ้นในปีที่แล้ว ส่งผลให้เป็นภูมิภาคที่มีความสงบสุขเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก แม้ว่าประเทศส่วนใหญ่ยังมีความสงบสุขต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกก็ตาม โดยรัสเซียขยับลงหนึ่งขั้นสู่อันดับ 154 อยู่ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่อันดับ 155 และปากีสถานที่อันดับ 153

          - อเมริกาใต้ มีเพียงโคลอมเบีย อุรุกวัย และชิลี ที่มีความสงบสุขเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว ส่วนอีก 8 ประเทศที่เหลือมีความสงบสุขลดลง เวเนซุเอลากลายเป็นประเทศที่สงบสุขน้อยที่สุดในภูมิภาค ส่วนบราซิลเป็นประเทศมีความสงบสุขลดลงมากที่สุดเป็นอันดับห้าของโลก

          - เอเชียใต้ มีความสงบสุขเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว เนื่องจากเนปาล ปากีสถาน และภูฏานมีคะแนนดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคนี้ยังคงมีความสงบสุขน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

          - แอฟริกาใต้สะฮารา 27 จาก 44 ประเทศในภูมิภาคมีความสงบสุขลดลง โดยทั้งสามปัจจัยบ่งชี้หลักย่ำแย่ลงในปีที่แล้ว ส่วนปัจจัยบ่งชี้ย่อย 23 ประการนั้น พบว่าดีขึ้น 12 ประการ และแย่ลง 8 ประการ

          สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.visionofhumanity.org

          หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
          รับชมรายงานดัชนีสันติภาพโลกฉบับเต็ม บทความ และแผนที่อินเทอร์แอคทีฟได้ที่ www.visionofhumanity.org
          ทวิตเตอร์: https://twitter.com/GlobPeaceIndex (#GlobalPeace19) 
          เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/globalpeaceindex 

          เกี่ยวกับดัชนีสันติภาพโลก
          รายงานดัชนีสันติภาพโลก จัดทำโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ เพื่อชี้วัดความสงบสุขของประเทศต่างๆทั่วโลก และจัดทำขึ้นเป็นฉบับที่ 13 แล้ว โดยมีการพิจารณาปัจจัยบ่งชี้ย่อย 23 ประการ ซึ่งถูกจัดกลุ่มเป็นสามปัจจัยบ่งชี้หลัก ได้แก่ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ ความปลอดภัยและความมั่นคงในสังคม และการขยายอิทธิพลทางทหาร ใน 163 ประเทศและดินแดนทั่วโลก

          เกี่ยวกับสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ
          สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ เป็นสถาบันวิจัยอิสระระหว่างประเทศที่อุทิศตนให้กับการเปลี่ยนมุมมองที่โลกมีต่อสันติภาพ ด้วยการทำให้สันติภาพเป็นมาตรวัดความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ซึ่งมีความชัดเจน จับต้องได้ และมีประโยชน์ ทางสถาบันมีสำนักงานอยู่ในซิดนีย์ บรัสเซลส์ นิวยอร์ก กรุงเฮก เม็กซิโกซิตี้ และฮาราเร

          โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/792052/IEP_Logo.jpg

ข่าวดัชนีสันติภาพโลก+ภาวะโลกร้อนวันนี้

'เวฟ บีซีจี' ผนึก 'พีทีจี เอ็นเนอยี' พลิกนาข้าวลดภาวะโลกร้อน ร่วมพัฒนาเกษตรกรไทย ส่งเสริมโครงการ "ปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" บนที่นา 500 ไร่ จ.สุพรรณบุรี

ลดการปล่อยก๊าซมีเทนและต่อยอดเป็นคาร์บอนเครดิต หนุนภาคเกษตรกรรมและองค์กรเติบโตยั่งยืน บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (WAVE BCG) ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจร เดินหน้าโครงการ Climate พัฒนา "การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" นวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่บนที่นากว่า 3,300 ไร่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยเพิ่มผลผลิต นำร่องความร่วมมือกับ 'บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี' เปิดโครงการ "ข้าวยั่งยืน ลดมีเทน ด้วยนาเปียกสลับแห้ง" ผนึกกำลังกลุ่มเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี

นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พ... นักวิจัย จุฬาฯ พัฒนา "ปะการังสู้โลกร้อน" เพื่อทางรอดระบบนิเวศทางทะเล — นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พัฒนาแนวทางช่วยปะการังให้ปรับตัวรับมือกับภา...

นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พ... นักวิจัยจุฬาฯ พัฒนา "ปะการังสู้โลกร้อน" เพื่อทางรอดระบบนิเวศทางทะเล — นักวิจัยสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ พัฒนาแนวทางช่วยปะการังให้ปรับตัวรับมือกับภาว...

หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ... มทร.ธัญบุรี เจ๋ง! คิดค้นกระถางรักษ์โลกจากวัสดุชีวมวล สร้างรายได้ ลด PM 2.5 — หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ห...

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ว... วัตสันร่วมมือกับลูกค้าลดคาร์บอน 4,000 ตัน สู้ภาวะโลกร้อน — เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) วัตสัน แบรนด์สุขภาพและความงามชั้นนำของ เอเอส วัตสัน ประ...

ดัชนีสันติภาพโลกเผย การเสียชีวิตจากความขัดแย้งแตะระดับสูงสุดของศตวรรษนี้ ส่งผลให้ความสงบสุขของโลกลดลง

วันนี้คือวันเปิดเผยรายงานดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index) หรือ GPI ฉบับที่ 17 จาก สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (Institute for Economics & Peace) หรือ IEP ผลลัพธ์สำคัญ การเสียชีวิตจากความขัด...

ความสงบสุขทั่วโลกต่ำสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหลังโควิดและความขัดแย้งในยูเครน

สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (Institute for Economics & Peace หรือ IEP) ซึ่งเป็นหน่วยงานมันสมองระดับโลก เผยแพร่รายงานดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index หรือ GPI) ฉบับที่ 16 ผลการค้นพบที่สำคัญ ยอดผู้...

สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (IEP) เผยโลกสงบสุขน้อยลงเนื่องจากโควิด-19 ทำให้ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความไม่สงบทางสังคมเพิ่มมากขึ้น

สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (Institute for Economics & Peace: IEP) ซึ่งเป็นหน่วยงานมันสมองระดับโลก ได้เผยแพร่รายงานดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index: GPI)...