การปฎิวัติสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้ามุ่งหน้าขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดรถยนต์พาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          งานวิจัยของ BloombergNEF (BNEF) คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือ EVs (Electric Vehicles) กำลังเดินหน้าสู่การเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบัสภายในปีพ.ศ. 2583 และจะคืบคลานเข้ามามีบทบาทอย่างมากในตลาดรถตู้และรถบรรทุกสำหรับการใช้งานในระยะทางใกล้ 
          รายงานอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าประจำปี 2562 ของ BNEF ซึ่งวิเคราะห์บนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ประเภทต่าง ๆ รวมถึงปัจจัยของแต่ละตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงชี้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดร้อยละ 57 ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในปีพ.ศ. 2583 ซึ่งสูงขึ้นกว่าการคาดการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา และคาดว่ารถบัสไฟฟ้าจะได้ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 81 ของรถบัสที่ใช้ในเมืองในระยะเวลาเดียวกัน
          นับเป็นครั้งแรกที่ BNEF ได้รวบรวมการวิจัยเชิงลึกของตลาดรถยนต์พาณิชย์ไว้ในการคาดการณ์ ซึ่งชี้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ จะครองตลาดร้อยละ 56 ของยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ และร้อยละ 31 ของตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กในยุโรป อเมริกาและจีนภายใน 2 ทศวรรษข้างหน้า 
          ตลาดที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ยากที่สุดคือรถบรรทุก โดยมีการคาดการณ์ว่าจะครองตลาดได้เพียงร้อยละ 19 ภายในปีพ.ศ. 2583 ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ขับขี่ในระยะทางสั้น และรถกระบะขนาดใหญ่รุ่นทั่วไปที่ใช้กับงานระยะทางไกลจะเผชิญกับการแข่งขันในรูปแบบอื่นจากการใช้พลังงานทางเลือกเช่นแก๊สธรรมชาติและเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน 
          นายโคลิน แม็คเคอราเชอร์ หัวหน้าแผนกยานยนต์ล้ำหน้าของ BNEF กล่าวว่า "เราพบว่ายานยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานฟอสซิลเกือบทั้งหมดจะหมดไปบนท้องถนน แม้การเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ยังคงต้องใช้เวลาเพราะการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์ในโลกยังเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าหากดำเนินมาถึงช่วงปีพ.ศ. 2563-2572 แล้ว ความนิยมก็จะเริ่มขยายเข้าสู่ยานยนต์ในหลายๆ หมวด เราคิดว่ามีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นธรรมดาในตลาดโลกได้เลยจุดสูงสุดมาแล้ว"
          บทบาทของการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกัน (shared mobility) ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ร่วมโดยสาร (ride-hailing) และธุรกิจให้บริการรถเช่า (car-sharing) จะมีบทบาทสำคัญในภาพที่กำลังเปลี่ยนไป ในปัจจุบันบริการนี้มีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 5 ของระยะทางของการเดินทางทั้งหมดของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ทั่วโลก แต่คาดว่าจะเพิ่มไปถึงร้อยละ 19 ภายในปีพ.ศ. 2583 ทั้งนี้ทีมงานของ BNEF คาดการณ์ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (autonomous driving) จะยังไม่มีผลต่อรูปแบบการคมนาคมขนส่งและการพลังงานของโลกจนกว่าจะถึงปี พ.ศ. 2573 
          นายอาลี อิซาดี้-นาจาฟาบาดี้ หัวหน้าหลักในการวิเคราะห์การแบ่งปันยานพาหนะร่วมกัน (shared mobility) กล่าวว่า "ผู้ให้บริการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกันจะเลือกเปลี่ยนมาให้บริการด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเร็วกว่าผู้ใช้ทั่วไป ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกันเช่น รถยนต์ร่วมโดยสารถึง 1 พันล้านคนทั่วโลก บริการนี้นับวันจะเติบโตขึ้นและจะค่อยๆ ลดความต้องการในการเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
          ตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในช่วง 20 ปีข้างหน้าคือราคาที่ลดลงอย่างมากของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นผลให้นับจากช่วงกลางหรือปลายปี 2563 เป็นต้นไปนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ในแทบทุกตลาด ทั้งด้านค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานและค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้า นับตั้งแต่ปีพ.ศ 2554 เป็นต้นมาต้นทุนเฉลี่ยของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงลดลงถึงร้อยละ 85 เนื่องจากการประหยัดต้นทุนการผลิตจากขนาด (economy of scale) ผสมกับการพัฒนาเทคโนโลยี
          รายงานของ BNEF ยังคาดการณ์ด้วยว่าประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 48 และร้อยละ 26 ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่จำหน่ายในปีพ.ศ 2568 และพ.ศ. 2583 ตามลำดับเพราะตลาดอื่น ๆ ได้ตีตื้นขึ้นมา ทวีปยุโรปจะนำหน้าประเทศสหรัฐอเมริกาและครองอันดับที่สองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในช่วงปีพ.ศ. 2563 ถึง พ.ศ. 2572 แต่การใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ของตลาดเกิดใหม่ที่ไม่ใช่ประเทศจีนจะเติบโตช้ากว่ามาก ซึ่งจะทำให้เกิดภาพที่ไม่กลมกลืนของตลาดรถยนต์ทั่วโลก
          อย่างไรก็ตามโดยรวมๆแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ โดย BNEF คาดว่ายอดขายของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านคันทั่วโลกในพ.ศ. 2561 เป็น 28 ล้านคันในปีพ.ศ. 2573 และ 56 ล้านคันในพ.ศ. 2583 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแบบดั้งเดิมจะลดลงเหลือ 42 ล้านคันในพ.ศ 2583 จากประมาณ 85 ล้านคันในพ.ศ. 2561 และคาดว่านโยบายสนับสนุน อาทิกฏเกณฑ์ด้านอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงต่อระยะทาง และนโยบายใหม่ของจีนด้านพลังงานสำหรับรถยนต์จะผลักดันการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอีก 5-7 ปีข้างหน้าก่อนที่จะเติบโตได้เองช่วงครึ่งหลังของช่วงทศวรรษระหว่างปีพ.ศ. 2563 - 2572 
          อุตสาหกรรมน้ำมัน ไฟฟ้า และแบตเตอรี่จะได้รับผลกระทบจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา BNEF ได้ประเมินผลกระทบด้านความต้องการเชื้อเพลิงบนถนนอยู่ที่ 7.3 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปีพ.ศ. 2583 อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ปริมาณความต้องการมีมากกว่าเป็นสองเท่าที่ได้คาดไว้หรือ 13.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์เรื่องการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และที่ค่อนข้างย้อนแย้งคือการที่อีกส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่คาดว่าจะเดินหน้าไปได้ช้ากว่าที่คิดไว้ นั่นหมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่จะมาแทนที่รถยนต์ทั่วไปกลับจะต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นในการขับขี่
ท่านสามารถอ่านรายงานเพิ่มเติมได้ที่ https://bnef.turtl.co/story/evo2019.

          เกี่ยวกับ บลูมเบิร์ก
          บลูมเบิร์กเป็นผู้นำการรายงานข่าวสารข้อมูลด้านการเงินและธุรกิจระดับโลกเพื่อให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจ และข้อได้เปรียบด้วยการเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับพลวัตเครือข่ายข้อมูล ผู้คนและความคิด จุดแข็งของบลูมเบิร์กทั้งในด้านการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร และการวิเคราะห์ผ่านเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ที่รวดเร็วและถูกต้องคือหัวใจของบลูมเบิร์ก เทอร์มินัล (Bloomberg Terminal) โซลูชันในองค์กรของบลูมเบิร์กสร้างขึ้นบนจุดแข็งหลักของบริษัทฯ นั่นคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึง ผสมผสาน เผยแพร่ และบริหารจัดการข้อมูลและข่าวสารทั่วทั้งองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเข้าชมได้ที่ Bloomberg.com หรือ ทดลองรับข่าวสาร

ข่าวBloombergNEF+รถยนต์ไฟฟ้าวันนี้

Solis ฉลองครบรอบ 20 ปี พร้อมได้รับการจัดอันดับเป็น Tier 1 จาก BloombergNEF

Ginlong (Solis) Technologies หนึ่งในผู้ผลิตอินเวอร์เตอร์ที่มีประสบการณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความภาคภูมิใจที่ได้รับการจัดอันดับเป็น ผู้ผลิต PV Module ระดับ Tier 1 จาก BloombergNEF สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของโซลิสในการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และความยั่งยืน การจัดอันดับ Tier 1 ในครั้งนี้เป็นการมอบให้แก่ผู้ผลิตที่มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแรง ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และมีประวัติการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการได้เป็น Tier 1

Runergy has achieved a significant milest... Runergy Ranked as a BloombergNEF Tier 1 PV Module Manufacturer — Runergy has achieved a significant milestone by being included in the latest BloombergNEF...

Pylontech and BloombergNEF (BNEF) achieve... Pylontech and BloombergNEF Jointly Release Global Residential Energy Storage Market White Paper — Pylontech and BloombergNEF (BNEF) achieved a significant...

Trina Solar: A driving force towards global green energy

Trina Solar Co., Ltd. ("Trina Solar" or "the company"), a global leader in smart solar energy solutions for a net-zero future, has stressed the importance of collaboration along the solar value chain to drive the energy transition in the EMEA...

"ทรินา โซลาร์" ขุมพลังขับเคลื่อนโลกสู่พลังงานสีเขียว

บริษัท ทรินา โซลาร์ จำกัด (Trina Solar Co., Ltd.) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะเพื่ออนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ได้ตอกย้ำความสำคัญของความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคยุ...

เอสอีจี โซลาร์ (SEG Solar) หรือเอสอีจี (S... Xinhua Silk Road: เอสอีจี โซลาร์ ติดโผผู้ผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ระดับโลกในกลุ่มเทียร์ 1 — เอสอีจี โซลาร์ (SEG Solar) หรือเอสอีจี (SEG) ผู้ผลิตโมดูลเซลล์แ...

SEG Solar (SEG), a leading U.S. producer ... Xinhua Silk Road: SEG Solar ranks among global Tier 1 solar panel manufacturers — SEG Solar (SEG), a leading U.S. producer of photovoltaic (PV) modules fo...

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ไพลอนเทค (Pylon... ไพลอนเทคคว้าใบรับรองแบตเตอรี่โซเดียมไออนฉบับแรกของโลกจากทียูวี ไรน์แลนด์ — เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ไพลอนเทค (Pylontech) (หมายเลขหุ้น 688063) ได้รับใบรับ...