ยูพีเอสชี้ฝ่ายจัดซื้อองค์กรในเอเชียใช้อีคอมเมอร์ซในสัดส่วนสูง ขณะที่การสื่อสารแบบออฟไลน์ยังมีบทบาทไม่น้อย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ผลสำรวจจากยูพีเอสเกี่ยวกับแนวโน้มการจัดซื้อขององค์กรในเอเชียเผยแม้อัตราการสั่งซื้อออนไลน์เติบโต ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การพูดคุยแบบเห็นหน้า และบริการหลังการขาย ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจในการสั่งซื้อมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ 
          ยูพีเอสเผย ผลการศึกษาทิศทางการจัดซื้อสินค้าอุตสาหกรรมของเอเชียแปซิฟิก ปี 2562 (2019 UPS Industrial Buying Dynamics Asia Pacific study) พบว่าผู้จัดซื้อในธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในสัดส่วนสูง และขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจและบริการหลังการขายที่ดี โดยทำการสำรวจผู้ซื้อในภาคอุตสาหกรรม กว่า 3,400 คนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้ 600 คนมาจากบริษัทต่าง ๆ ในจีน ญี่ปุ่น และไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงข้อมูลเจาะลึกระดับภูมิภาคและแนวโน้มในแต่ละตลาดเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ เชื่อมโยงกับผู้ซื้อในเอเชียได้ดียิ่งขึ้น 
          ซิลวี แวน เดน เคิร์กฮอฟ รองประธานฝ่ายการตลาด ยูพีเอส เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "สิ่งที่เราเห็นในเอเชียคือความสัมพันธ์ทางธุรกิจมีหลากหลายมิติ และช่องทางซื้อขายออนไลน์กำลังมาแรง แต่ขณะเดียวกัน รูปแบบการซื้อสินค้าแบบเดิม ๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ผู้ค้าที่ต้องการทำธุรกิจในตลาดเอเชียจึงต้องหาจุดสมดุลจากแนวโน้มนี้ และจำเป็นต้องให้ความสำคัญทั้งกับช่องทางการค้าแบบอีคอมเมอร์ซและแบบเดิม ๆ ให้ดำเนินการอย่างสอดประสานกัน ควบคู่ไปกับบริการหลังการขายที่ดี เช่น การรับคืนสินค้าด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้กับผู้ซื้อ"
          ขณะที่ในภูมิภาคอื่น ๆ รูปแบบโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไปมีบทบาทอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้า แต่สำหรับเอเชีย การจะประสบความสำเร็จในตลาดนี้ แนวทางที่ควรทำคือให้พิจารณาผู้ซื้อจากหน้าที่การงาน มากกว่าสัญชาติหรืออายุ การศึกษาชี้ให้เห็นว่าเอเชียคือภูมิภาคที่มีความซับซ้อนสูงมาก ผู้ซื้อทุกคนต่างให้ความสำคัญกับความต้องการเฉพาะในการให้บริการองค์กรที่ตนทำงานอยู่ 
          รูปแบบการจัดซื้อขององค์กรกำลังเปลี่ยนไป
          ผลการศึกษาพบว่าการซื้อสินค้าออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ซื้อในเอเชียตอบว่ามีแผนจะใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นในห้าปีข้างหน้า ในกลุ่มผู้ที่ตอบว่าชื่นชอบช่องทางออนไลน์ ผู้ซื้อในญี่ปุ่นซื้อสินค้าออนไลน์ในสัดส่วน 31% ซึ่งสูงกว่าผู้ซื้อในจีนและประเทศไทย ที่มีสัดส่วน 14% ทั้งคู่ ขณะเดียวกัน ในประเทศไทย บริษัทที่มีงบจัดซื้อสูงกว่าตอบว่าตนมีแนวโน้มจะหันไปซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นในช่วงสามถึงห้าปีข้างหน้า ส่วนในจีน การสั่งซื้อออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือมีอัตราการเติบโตสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชีย 
          แม้ว่าผู้ซื้อในเอเชียมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น การศึกษายังพบว่า ในเอเชีย การยกหูโทรศัพท์คุยหรือพบปะกับตัวแทนของผู้ขายสินค้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ผู้ซื้อในเอเชียให้ความสำคัญกับการทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ขายก่อนทำการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในจีน ที่การทำธุรกิจร่วมกัน จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อกันให้เกิดขึ้นก่อน
          แนวโน้มการสั่งซื้อจากต่างประเทศมีมากขึ้น
          ในด้านการเลือกซื้อสินค้าจากผู้จำหน่ายในประเทศ เอเชียก็มีสัดส่วนสูงไม่ต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก คือ 67% ของการจัดซื้อภาคธุรกิจในเอเชียมาจากผู้จำหน่ายในประเทศ ขณะที่ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 73% และยุโรปอยู่ที่ 64% แต่ประเทศที่เด่นชัดที่สุดคือญี่ปุ่น ซึ่งผู้ซื้อ 90% เลือกซื้อสินค้าจากแหล่งจำหน่ายในประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในอนาคตอันใกล้อาจเปลี่ยนไป เนื่องจากญี่ปุ่นเพิ่งลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป สำหรับคำถามว่าอะไรคืออุปสรรคในการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ปัจจัยสำคัญสามลำดับแรกจากผู้ตอบแบบสำรวจในเอเชียคือระยะเวลาส่งสินค้าที่นานกว่า (60%) ความล่าช้าทางศุลกากร (55%) และความลำบากในการคืนสินค้า (45%) 
          บริการหลังการขายคือปัจจัยเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า
          ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก บริการหลังการขายยังคงเป็นส่วนสำคัญสำหรับการจัดซื้อขององค์กร ในทุกประเภทของสินค้าและทุกภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม การศึกษาพบว่าผู้ซื้อในเอเชียจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับบริการหลังการขายมากกว่าผู้ซื้อในภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งบริการเหล่านี้ได้แก่ การรับคืนสินค้า บริการรับของถึงที่สำหรับสินค้าที่ยากต่อการขนส่ง รวมทั้งบริการบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป สำหรับการส่งคืนสินค้า ในจีนและญี่ปุ่น บริการหลังการขายที่สำคัญที่สุดคือการบำรุงรักษาและซ่อมแซมถึงที่ ส่วนในประเทศไทย การรับคืนสินค้าคือประเด็นสำคัญที่สุด
          รัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า "การที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและ เทคโนโลยีส่งผลให้ประเทศไทยมุ่งสู่แนวทางเศรษฐกิจแห่งการสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเราเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงในภาคการผลิตของไทย การเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงทำให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายจำเป็นต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าผู้จัดซื้อไทยในภาคธุรกิจให้ความสำคัญมากกับการคืนสินค้า ซึ่งบริการดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในหลายโซลูชั่นที่ยูพีเอสมีรองรับ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างจุดแข็งที่แตกต่างจากคู่แข่งได้ ข้อมูลเชิงลึกจากการศึกษายังช่วยให้เรามอบโซลูชั่นที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ผลิตในประเทศไทยที่ต้องการแสวงหาโอกาสการเติบโตในตลาดภูมิภาคหรือตลาดโลกได้"
          เกี่ยวกับผลการศึกษา Industrial Buying Dynamics
          การศึกษาประจำปี 2562 จัดทำในนามของยูพีเอสโดย Burke, Inc. โดยทำการสำรวจในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นฝ่ายจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงาน ใน 15 อุตสาหกรรม จำนวนกว่า 3,400 คนทั่วโลก โดยในจำนวนนี้ 600 คนอยู่ในเอเชีย 
          เกี่ยวกับยูพีเอส
          ยูพีเอส เป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยโซลูชั่นต่าง ๆ ที่หลากหลายครบวงจรสำหรับการจัดส่งพัสดุภัณฑ์และคอนเทนเนอร์ บริการอำนวยความสะดวกสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการมุ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการบริหารโลกของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยูพีเอสมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา และให้บริการในกว่า 220 ประเทศและเขตการปกครองต่าง ๆ ทั่วโลก ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัท สามารถค้นหาได้ที่เว็บไซต์ ups.com หรือ pressroom.ups.com และบล็อกขององค์กรที่ longitudes.ups.com ติดตามข่าวสารโดยตรงจากยูพีเอสได้ทาง Twitter ที่ @UPS_Asia

ยูพีเอสชี้ฝ่ายจัดซื้อองค์กรในเอเชียใช้อีคอมเมอร์ซในสัดส่วนสูง ขณะที่การสื่อสารแบบออฟไลน์ยังมีบทบาทไม่น้อย

ข่าวสินค้าออนไลน์+เอเชียแปซิฟิกวันนี้

อร่อยได้ไม่รู้สึกผิด! ซันคิสท์ ถั่วพิสทาชิโอ พร้อมเสิร์ฟความกรุบ ลดสูงสุดถึง 35%

อร่อยได้ไม่รู้สึกผิด! ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด และเครื่องดื่มน้ำนมพิสทาชิโอ พร้อมเสิร์ฟความกรุบ ลดราคาสูงสุดถึง 35% โดยสินค้าที่นำมาลดราคา ได้แก่ ซันคิสท์ พิสทาชิโออบ 150 กรัม ราคาเต็ม 139 บาท ลดเหลือ 89 บาท ซันคิสท์ พิสทาชิโออบเกลือ 150 กรัม ราคาเต็ม 139 บาท ลดเหลือ 89 บาท และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย ลดตั้งแต่วันนี้ 10 ธันวาคม 2568 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-813-0954-5 หรือติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ และสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ได้ที่

ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเม... แวะพักเติมพลังระหว่างทาง ด้วยนมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ ราคาพิเศษ กล่องละ 22 บาท — ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด และเครื่...

ผู้แทน บริษัท ไนกี้ อินโนเวต ซี.วี. เจ้าข... "NIKE" ขอบคุณไทยในความร่วมมือปราบปรามสินค้าละเมิดพร้อมขยายความร่วมมือในการปราบสินค้าออนไลน์ — ผู้แทน บริษัท ไนกี้ อินโนเวต ซี.วี. เจ้าของเครื่องหมายการค้า...

นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้อำนวยการเขตดินแดง... เขตดินแดงรุดตรวจสอบการใช้อาคารผิดประเภท-ดัดแปลงบ้านพักเปิดโฮสเทล เตรียมเอาผิดเจ้าของอาคาร — นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้อำนวยการเขตดินแดง กทม. กล่าวถึงความคืบ...

ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเม... อิ่มอร่อยได้โปรตีน กับ ถั่วพิสทาชิโอ แบรนด์ซันคิสท์ ลดราคาพิเศษที่ CJ ทุกสาขา — ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด ภายใต้การดู...

ประเด็นสำคัญจากผลสำรวจ รูปแบบของการหลอกให... เคพีเอ็มจีเผย การหลอกให้เหยื่อโอนเงินด้วยความสมัครใจผ่านแอป (APP Scam) สูงขึ้น — ประเด็นสำคัญจากผลสำรวจ รูปแบบของการหลอกให้เหยื่อโอนเงินด้วยความสมัครใจผ่า...

ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเม... ซันคิสท์ ถั่วพรีเมียมหลากหลายชนิด ลดราคาสู้ฝน เหลือเพียงซองละ 359 บาท — ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด ภายใต้การดูแลของเคร...