บลจ.กสิกรไทย ชูกลยุทธ์ Diversification แนะ 5 กองทุนเด่น เสริมพลังให้พอร์ตการลงทุน

10 Jul 2019
นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันมีกองทุนรวมให้เลือกมากมาย หลากหลายนโยบายการลงทุนตามระดับความเสี่ยง ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังมีความไม่แน่นอน ไม่เหมาะต่อการจับจังหวะการลงทุน ทั้งนี้ ตามที่ บลจ.กสิกรไทย เคยได้เสนอแนวคิดการลงทุนแบบ 4D อันประกอบด้วย การกระจายความเสี่ยง (Diversification) การสร้างรายได้สม่ำเสมอ (Defensive) การลงทุนในระยะยาว (Duration) และการลงทุนอย่างมีวินัย (Discipline) ซึ่งได้แนะนำให้กับลูกค้านำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความผันผวนในปีนี้ โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยลดความผันผวนเพื่อให้พอร์ตลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้นั่น ก็คือ 'Diversification' ที่เน้นกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย บลจ.กสิกรไทย จึงได้คัดสรรกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในแต่ละกลุ่มตามการจัดอันดับของ Morningstar อีกทั้งยังสามารถรับความผันผวนได้ในทุกภาวะตลาด เพื่อเสริมพลังให้กับพอร์ตการลงทุนด้วย 5 กองทุนเด่น ได้แก่ กองทุนเปิดเค เอสเอฟ พลัส (K-SFPLUS), กองทุนเปิดเค แพลน 2 (K-PLAN2), กองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3), กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME) และกองทุนเปิดเค สตาร์ หุ้นทุน (K-STAR)
บลจ.กสิกรไทย ชูกลยุทธ์ Diversification แนะ 5 กองทุนเด่น เสริมพลังให้พอร์ตการลงทุน

นายสุรเดชกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-SFPLUS มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ จึงช่วยลดความผันผวนให้กับพอร์ตลงทุนในช่วงที่สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนมากขึ้น ทำให้พอร์ตลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ ซึ่งกองทุนมีระดับความเสี่ยง 4 และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินในระยะสั้น 2-3 เดือน ทั้งนี้ กองทุน K-SFPLUS ได้ Overall Morningstar Rating 4 ดาว ในกลุ่ม Short Term Bond (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 30 เม.ย. 62)

กองทุน K-PLAN2 และ K-PLAN3 เป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น และกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ เป็นต้น โดยกองทุน K-PLAN2 และ K-PLAN3 มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30% และ 55% ของ NAV ตามลำดับ จึงช่วยลดการขาดทุนจากตลาดใดตลาดหนึ่ง เนื่องจากมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด ซึ่งกองทุนมีระดับความเสี่ยง 5 และเหมาะสำหรับผู้ที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ กองทุน K-PLAN2 ได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม Conservative Allocation ในขณะที่กองทุน K-PLAN3 ได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม Conservative Allocation ยาวนานที่สุดเป็นระยะเวลา 33 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่ พ.ย. 59 (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 30 เม.ย. 62)

กองทุน K-GINCOME มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class A (mth)-EUR ที่กระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก โดยคัดเลือกสินทรัพย์ที่จ่ายผลตอบแทนสูงทั้งในรูปดอกเบี้ยและเงินปันผล ซึ่งกองทุนมีระดับความเสี่ยง 5 และสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบสะสมมูลค่า (K-GINCOME-A(A)) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว และแบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-GINCOME-A(R)) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายรับสม่ำเสมอทุกเดือน โดยกองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติสูงสุดไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ กองทุน K-GINCOME-A(R) ได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม Global Allocation (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 30 เม.ย. 62)

กองทุน K-STAR มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว พร้อมทั้งจับจังหวะโดยปรับสัดส่วนการลงทุนเพื่อทำกำไรในระยะสั้น ซึ่งกองทุนมีระดับความเสี่ยง 6 และสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบสะสมมูลค่า (K-STAR-A(A)) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว และแบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-STAR-A(R)) เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจับจังหวะทำกำไรเอง โดยกองทุนจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อ NAV ปรับขึ้นตามเงื่อนไข ทั้งนี้ กองทุน K-STAR-A(R) มีผลตอบแทนโดดเด่นติดอันดับ Top Quartile อีกทั้งยังได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม Equity Large-Cap (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 30 เม.ย. 62)

"การลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินจะต้องอาศัยการจัดพอร์ตลงทุนที่ดี โดยควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั้งเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ รวมถึงหุ้น เพื่อลดความผันผวนอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด และเป็นการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่ง 5 กองทุนเด่นจากกสิกรไทย จัดเป็นกองทุนแนะนำในแต่ละประเภทสินทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานดี ติดอันดับ Morningstar อีกทั้งยังสามารถเลือกลงทุนได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ดี บลจ.กสิกรไทย มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการบริหารกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมภายใต้ความผันผวนของตลาดด้วยเช่นกัน" นายสุรเดชกล่าว

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-SFPLUS, K-PLAN2, K-PLAN3, K-GINCOME และ K-STAR สามารถเริ่มลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอป K PLUS, K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย และตัวแทนสนับสนุนการขายของ บลจ.กสิกรไทย โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888